15 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รอง ผวจ.อุทัยฯ พร้อมด้วยนายยวน ปานนาง นายก อบต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจฟาร์มหมู่ของ นางกอง สุวรรณศิริ และนายโทม สุวรรณศิริ  หมู่ 2 บ้านสระ ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี  ที่ไม่ได้ขออนุญาตการก่อตั้งฟาร์มเลี้ยงสุกร หรือหมู ที่ไม่ถูกต้อง หรือ “ฟาร์มหมูเถื่อน” นั้นโดยได้เริ่มเปิดการเลี้ยงหมูมาตั้งแต่ พ.ศ.2558 ตั้งอยู่เนินเขาห่างจากหมู่บ้านเพียง 600 เมตร ห่างจากศูนย์เด็กเล็กหมู่ 5 บ้านสระ ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานีเพียง 500 เมตร และสร้างกลิ่นเหม็นรบกวนมาตลอด 

จากการตรวจสอบภายในเล้าหมู พบว่ามีหมูอยู่ประมาณ 1400  ตัว อายุ 3 เดือน และ 4 เดือน โดยแบ่งแยกเล้า ออกเป็น 2 แถวยาว ด้านท้ายฟาร์มมีบ่อเกรอะสำหรับเก็บน้ำเสียของหมูที่ไหลออกมาจากฟาร์ม ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอ้วน  เจ้าหน้าที่บางรายต้องใช้แมสปิดจมูก เพื่อดับกลิ่นขี้หมู  จากนั้นนายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รอง ผวจ.อุทัยฯ ได้พูดคุยกับนางกอง สุวรรณศิริ และนายโทม สุวรรณศิริ สองสามีภรรยาเกี่ยวกับการเลี้ยงหมูและการเปิดฟาร์มโดยไม่ได้ขออนุญาตจึงสั่งให้สองสามีภรรยานั้นหยุดการเลี้ยงหมูไว้ก่อน เพราะการเลี้ยงหมูนั้นเป็นอาชีพที่ดีและมั่นคง แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องและมีระบบป้องกันกลิ่นและห่างไกลชุมชนให้มากกว่านี้

ซึ่งสองสามีภรรยา บอกว่า “ฟาร์มหมูแห่งนี้ ตนเองได้กู้เงินนายทุนคนหนึ่ง มาจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อมาสร้างฟาร์ม โดยไม่ได้ขออนุญาตมาตั้งแต่แรก และยอมรับว่าฟาร์มของตนเองนั้นไม่ได้มาตรฐานในเรื่องของระบบกลิ่นและการบำบัดน้ำเสีย โดยตนเองทนชาวบ้านบ่นมาตลอดหลายปีแต่ก็ต้องเลี้ยงเนื่องจากเป็นหนี้นายทุนอยู่  ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ต้องยอมเคารพในข้อกฎหมายแต่ขอเวลาจับหมูในเล้ามอบให้กับนายทุนก่อนและจะปิดฟาร์มหมูดังกล่าว”

ขณะที่ นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รอง ผวจ.อุทัยฯได้บอกกับชาวบ้านว่า ฟาร์มหมูแห่งนี้ไม่ได้ทำการขออนุญาตอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มทำ จึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายปกครองปิดฟาร์มหมูแห่งนี้ไปก่อน และมอบหมายให้นายยวน ปานนาง นายก อบต.ห้วยแห้งเป็นผู้แจ้งและดำเนินการปิดฟาร์มหมูแห่งนี้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ และช่วงนี้ทางเจ้าของฟาร์มจะขอจับหมูที่อยู่ในเล้าออกมาขายก่อนเพื่อนำเงินให้กับนายทุนที่กู้ยืมมา” รอง ผวจ.อุทัยฯ กล่าว

โดยชาวบ้านบ้างรายเมื่อได้ยินคำนี้รู้สึกเหมือนเสียงมาจากสวรรค์  เพราะต้องต่อสู้กับกลิ่นเหม็นของมูลหมูมานานถึง 4 ปีกว่า จนลูกและหลานบางคนป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจบ่อยๆ ซึ่งชาวบ้านนั้นได้กล่าวแสดงความดีใจพร้อมขอบคุณ รองผวจ.อุทัยฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในที่สุด บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ที่เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดลงมาช่วยเหลือชาวบ้านด้วยตนเอง