หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่อง 'เมืองลับแล' ตอนไปเที่ยว 'ภูกระดึง' สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่อง 'เมืองลับแล' ตอนไปเที่ยว 'ภูกระดึง' สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วันพุธ ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 19.32 น.

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้เล่าเรื่อง "เมืองลับแล" โดยมีการนำไปตีพิมพ์ไว้ในหนังสือหลวงพ่อธุดงค์ "ตอนไปเที่ยวภูกระดึง" ไว้ว่า "...ภูเขาภูกระดึง นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก่อน เขาบอกว่า ในสมัยก่อน ถ้าวันดีคืนดีเดือนหงาย จะได้ยินเสียงฆ้อง และมีคนทอหูก มีคนฝัดข้าว มีคนตำข้าว ซ้อมข้าว บนยอดภูเขา นี่เป็นเรื่องราวเก่า ๆ ที่บรรดาญาติโยมเก่า ๆ เล่าให้ฟังว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ความจริงบนภูกระดึง ทำไมจึงมีคน คนที่ไม่ปรากฏตัว คนประเภทนี้ชาวบ้านเขาเรียกว่า พวกลับแล (คำว่า ลับแล หมายความว่า แลไม่เห็น) 

ถ้าเขาต้องการให้เห็นเราก็เห็น เขาไม่ต้องการให้เห็น เราก็ไม่เห็น บางครั้งที่เจ้าหน้าที่ที่นั่นบอกว่า บางครั้งมีหมู่บ้านใหญ่ตั้งใกล้ ๆ มีเด็กมีเล็กมาก คนเยอะเสียงเจี๊ยวจ๊าวเกรียวกราว มีสวนดอกไม้ มีสวนลูกไม้ มีผลไม้ต่าง ๆ มากมาย มีอยู่เป็นวันๆ บางทีก็มีอยู่ถึง 7 วันก็มี เคยคุยกัน แต่อยู่ ๆ บ้านทั้งหลายเหล่านั้นก็หายไป เวลาที่มีบ้านทีไร ก็ปรากฏว่ามีคนทอหูกทุกที เห็นคนทอหูก เห็นคนเย็บจักร เห็นคนเย็บเสื้อผ้าด้วยมือ มีเครื่องมือพร้อม แต่ว่าทุกคน ไม่มีใครไปหาปลา หาเนื้อ กินแต่ผลไม้ เท่าที่กินให้เห็นนะ เขาบอก เขาไม่กินปลากินเนื้อกัน เขากินแต่ผลไม้ และอยู่ ๆ มา บ้านก็หายไปหมด บ้านก็หาย คนก็หาย อย่างนี้เขาเรียกว่า เมืองลับแล


ฉะนั้น ที่อาจารย์สำราญท่านอยู่ที่นั้น อาตมาก็มีความรู้สึกว่า ชาวลับแลพวกนี้ต้องใส่บาตร ชาวลับแลเป็นใคร ก็ตอบว่า ชาวลับแล คือ ภุมเทวดา กับรุกขเทวดา นอกจากนั้น พระที่มีความดีขนาดนั้น พวกอากาสเทวดาก็ทำบุญ อากาสเทวดาที่ต้องการความดีก็มีมาก เขาก็ทำบุญกับพระที่มีความดี จะเห็นว่า อาจารย์สำราญนี่ ท่านอยู่ตั้ง 3 ปี ทางขึ้นไปตั้ง 5 ชั่วโมง คนเดินเก่งนะ 5 ชั่วโมง

ทีนี้มีบางคราวไปถามคนว่า เคยนำอาหารไปถวายไหม บอกว่า เคย บางครั้งบางคราว นาน ๆ ครั้ง เดือนไปสักครั้งบ้าง ถามว่า เอาข้าวสารไปให้ท่านไหม บอก เคยนำไปให้ แต่ท่านไม่ยอมรับ ถ้านำข้าวสุกไปถวายท่าน ไปได้ แต่ว่าต้องไปแต่ตอนดึก ถ้าไปตอนเช้าก็ถึงเลยเที่ยง เพราะเดินไป 5 ชั่วโมงครึ่ง และเดินจากที่นั่นไปอีก 8 กิโลเมตร ก็เลยเที่ยง ท่านไม่ยอมรับ ท่านฉันหนเดียว ก็ต้องไปกันตั้งแต่ตอนดึก

ก็รวมความว่า อาจารย์สำราญท่านกินอะไร ท่านอยู่ได้อย่างไร ก็ต้องตอบว่าอาจารย์สำราญ เป็นพระที่บรรดาบุคคลทั้งหลายคิดว่า พระประเภทนี้ในโลกนี้ไม่มีแล้ว นั่นคือ พระอรหันต์ อาตมาคิดเอาอย่างนี้นะ และพระที่ว่าเดินรู้จักทางลัดก็เช่นเดียวกัน พระองค์นี้ก็ไม่ใช่ธรรมดา ต้องเป็นพระอรหันต์ ที่ทรงอภิญญาสมาบัติ..." 

**คัดลอกมาจากหนังสือ หลวงพ่อธุดงค์ "ตอนไปเที่ยวภูกระดึง"**

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top