ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ นครราชสีมา เผยทางโรงพยาบาลฯ เตรียมพร้อมจัดบริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแนะประชาชนใช้ '6วิธี 3ห้าม' รับมือพายุโซนร้อน 'คาจิกิ' เพื่อลดการสูญเสีย เน้นชีวิตรอด ปลอดภัยอันดับแรก
วันที่ 3 กันยายน 2562 นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมจากพายุโซนร้อนคาจิกิ ตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เป็น 4 ใน 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วง 1-2 วันนี้ว่า โรงพยาบาลจิตเวชฯ ได้เตรียมพร้อมจัดบริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง จัดระบบไฟสำรองหากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถใช้การได้ทันที พร้อมทั้งจัดระบบการสื่อสารให้คำปรึกษาการดูแลผู้ป่วยจิตเวชฉุกเฉินเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ในพื้นที่อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง
นพ.กิตต์กวีฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของประชาชนขอให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าในอดีตจะไม่เคยประสบปัญหาในพื้นที่มาก่อนก็ตาม ก็ไม่ควรประมาท เนื่องจากภัยธรรมชาติอยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ การรับมือที่ดีที่สุดคือการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าทั้งในระดับครอบครัวและระดับชุมชน หมู่บ้าน เพื่อการเอาชีวิตรอดและอยู่อย่างปลอดภัย โดยมีข้อแนะนำ 6 ประการ ดังนี้
1. ให้เตรียมแผนเผชิญน้ำท่วม ซักซ้อมหน้าที่ของสมาชิกครอบครัว หาทางหนีทีไล่ให้เรียบร้อย โดยเน้นความปลอดภัยชีวิตเป็นอันดับแรกโดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ และเรื่องทรัพย์สินเป็นเรื่องรองลงมา
2. สำรองอาหาร น้ำดื่มสะอาด ใช้การได้อย่างน้อย 3 วัน
3. เตรียมยาสามัญประจำบ้านที่จำเป็นไว้ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยาใส่แผล ผงเกลือแร่ไว้ในที่ปลอดภัย
4. ผู้ที่มีโรคประจำตัวขอให้จัดเตรียมยาที่กินประจำไว้ใกล้ตัว หรือเก็บไว้ในที่ปลอดภัยป้องกันยาสูญหาย
5.จัดเตรียมระบบไฟสำรองส่องสว่างภายในบ้าน เช่นไฟฉาย เทียนไข ไม้ขีดไฟ เป็นต้น
และ 6.จดเบอร์โทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน เช่น เบอร์ญาติสนิท เบอร์เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เบอร์การแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เบอร์สายด่วนสุขภาพจิต 1323 และเบอร์สายด่วน 1784 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ฉะนั้น เมื่อเกิดน้ำท่วมจริงและน้ำท่วมถึงบ้าน ขอให้ตั้งสติให้ดี จะช่วยให้เห็นวิธีการแก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ต้องคำนึงไว้เสมอ 3 ประการ ก็คือ ห้ามเดินตามเส้นทางที่น้ำไหลแม้ระดับน้ำจะไม่สูงก็ตาม เนื่องจากความเชี่ยวของกระแสน้ำอาจทำให้เสียหลักและล้มได้ ห้ามขับรถในพื้นที่ที่น้ำกำลังท่วมเพื่อลดความเสี่ยงในการจมน้ำ และห้ามเข้าใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟ เนื่องจากกระแสไฟสามารถวิ่งผ่านได้
นพ.กิตต์กวี กล่าวต่อไปว่า ในกลุ่มของผู้ป่วยจิตเวชที่อยู่ในพื้นที่ที่ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง หากรายใดยากินใกล้หมด หรือไม่สามารถเดินทางออกไปพบแพทย์ตามนัดที่โรงพยาบาลได้เนื่องจากฝนตกหนัก ขอให้รีบแจ้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.หรือแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้านทุกแห่ง เพื่อที่จะดำเนินการจัดส่งยาไปให้ที่บ้านต่อไป
สำหรับในส่วนของชุมชน มีข้อแนะนำการเตรียมพร้อมล่วงหน้า 3 ประการ คือ
1.จัดเตรียมแผนการช่วยเหลือสมาชิกในชุมชน โดยเฉพาะความปลอดภัยกลุ่มที่เปราะบาง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ช่วยกันเฝ้าระวังทรัพย์สินในชุมชน
2.จัดเวรยามเฝ้าระวังระดับน้ำและแจ้งเตือนชุมชนให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
และ 3.จัดเตรียมศูนย์กลางให้ข้อมูลข่าวสาร เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอกและประสานกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือดูแลกันในเบื้องต้นได้รวดเร็วและทั่วถึงที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี