ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเมืองฝาง เมืองบุรีรัมย์ รวมตัวเรียกร้องความเป็นธรรมให้อดีตเจ้าอาวาส ที่ถูกกล่าวหาข่มขืนสาว18 จนตั้งท้อง เชื่อถูกกลั่นแกล้งจากความขัดแย้งในพื้นที่เคยพยายามขับไล่หลวงพ่อมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ ท้าตรวจ ดีเอ็นเอ.เพื่อพิสูจน์ความจริงหากหลวงพ่อผิดจริงพร้อมยอมรับ วอนสังคมอย่าด่วนตัดสิน
วันที่ 6 กันยายน 2562 จากกรณีที่ผู้ปกครองรายหนึ่งได้พาบุตรสาวอายุ 18 ปีเศษเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ว่าลูกสาวได้ถูกเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งใน ต.เมืองฝาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ข่มขืนเมื่อเดือนเมษายน 2562 ขณะหลอกลูกสาวไปพิมพ์งานให้ที่วัดจนลูกสาวตั้งท้องได้ 4 เดือน ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้เรียกเจ้าอาวาสไปสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา "ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นซึ่งไม่ใช่ภรรยาตน" ระหว่างนั้นมีการไกล่เกลี่ยตกลงจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย 150,000 บาท จนวันที่ 30 สิงหาคม 2562 แม่ผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์
ส่วนทางคณะสงฆ์ก็มีคำสั่งให้ลาสิขาจากการเป็นพระภิกษุ และพ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส เพราะกระทำผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ขั้นอาบัติปาราชิก โดยการเสพเมถุน กระทั่งต่อมาตำรวจกองปราบปรามได้ตามไปจับสึกที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.ประทาย จ.นครราชสีมา แต่หลังจากสึกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องนำตัวไปที่ สภ.หนองสองห้อง เพราะมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างประกันตัว ซึ่งในทางคดีอาญาพนักงานสอบสวนก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการจังหวัดตามขั้นตอน คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนกันยายนนี้
ล่าสุดวันนี้ ชาวบ้านในตำบลเมืองฝาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมารวมตัวกันที่วัดเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับอดีตเจ้าอาวาส เพราะเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มที่ไม่พอใจเจ้าอาวาส ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีความพยายามจะใส่ร้ายกล่าวหาเพื่อขับอดีตเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวออกจากวัดมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จเพราะไม่มีหลักฐานว่าอดีตเจ้าอาวาสทำผิดตามที่มีการกล่าวหา กระทั่งมาคราวนี้ที่กล่าวหาว่าอดีตเจ้าอาวาสข่มขืนหญิงวัย 18 ปีจนตั้งท้องนั้น ก็เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งเหมือนกัน
โดยนายบุญเนื่อง ชำขุนทด อายุ 60 ปี ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า ไม่เชื่อว่าหลวงพ่อจะทำหญิงสาววัย 18 ปี ท้องตามที่ถูกกล่าวหา เพราะหลวงพ่ออยู่วัดแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียเลย ส่วนสาเหตุที่หลวงพ่อยอมรับสารภาพไปก่อนในตอนแรก จาการสอบถามหลวงพ่อก็บอกว่า ไม่อยากให้เรื่องราวบานปลาย เพราะท่านทราบว่ามีความขัดแย้งกันในหมู่บ้านมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่ายอมรับไปแล้วเรื่องจะจบแต่กลับไม่จบ แล้วที่บอกว่าเจ้าอาวาสขนย้ายข้าวของหนีออกจากวัดนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ท่านไม่ได้เจตนาจะหนีแต่มีคนไปกดดันบีบบังคับให้ออกจากวัด กรณีดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อด้วย เพราะตอนนี้หลวงพ่อตกเป็นจำเลยของสังคม
ด้านนางลำไพ ไกรเพชร อายุ 50 ปีบอกว่า กรณีที่เกิดขึ้นก็อยากให้มีการตรวจ ดีเอ็นเอ.เพื่อให้ความจริงกระจ่างว่าแท้จริงหลวงพ่อผิดหรือไม่ผิดตามที่มีการกล่าวหา ชาวบ้านก็อยากจะรู้ความจริง หากผลพิสูจน์และมีหลักฐานชัดเจนว่าหลวงพ่อผิดจริง ชาวบ้านก็พร้อมจะยอมรับ แต่หากท่านไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรม อยากให้หลวงพ่อกลับมาเป็นเจ้าอาวาสเหมือนเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี