หลังจากทางกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าจะมีพายุโซนร้อน คือ พายุ 'โพดุล' เข้ามามีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหลือและภาคอีสาน ซึ่งผลกระทบภายหลังจากภัยธรรมชาติส่งผลต่อคน สัตว์ และทรัพย์สิน เป็นจำนวนมาก มีการสูญเสียทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 32 คน และบ้านเรือนพังเสียหายและได้รับผลกระทบอีกนับแสนครัวเรือน แต่ทั้งนี้การเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติในแต่ละครั้งถือว่าหนักเอาการเลยทีเดียว หลายหน่วยงานเร่งเข้าช่วยเหลือ เร่งอพยพ จากที่เห็นจากสื่อหลายๆ สำนัก หลายๆ คนแอบเอาใจช่วยและลุ้นว่าเมื่อไหร่เหตุการณ์จะปกติ เพราะภัยธรรมชาติเราไม่สามารถที่จะหยุดมันได้
เช่นเดียวกันกับ "น้องแอน" หรือ นางสาวสุพัตรา ธานี อายุ 20 ปี ดาวสาขาการจัดการทางวัฒนธรรม ปี 2561 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ก็ได้พูดถึงผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ ว่า ภัยธรรมชาตินั้น มีหลายอย่าง เช่น ภูเขาไฟระเบิด, แผ่นดินไหว, แผ่นดินถล่ม, ภัยแล้ง, น้ำท่วม เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ภัยธรรมชาติมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปมีทั้งร้ายแรงมาก และร้ายแรงน้อย ซึ่งอาจสร้างผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่พี่น้องภาคอีสานได้รับผลกระทบจากพายุ 'โพดุล' โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี น้ำท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน ทั้งหมดนี้เกิดจากผลพวงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งสิ้น
"การเกิดภัยพิบัติต่างๆ ส่งผลเสียตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือทรัพย์สินอื่นๆ และที่เลวร้ายมากๆ คือการศูนย์เสียชีวิตในการเกิดภัยพิบัติในแต่ละครั้ง ซึ่งจริงๆ มันเป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เราไม่ควรประมาท เวลาน้ำท่วมเด็กๆ ไม่ควรลงไปเล่นน้ำ ไม่ว่าน้ำจะมากหรือน้อย พ่อแม่ต้องคอยดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด" น้องแอน กล่าว
**คิดว่าสาเหตุการเกิดภัยทางธรรมชาติ มนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่?
นางสาวสุพัตรา ให้เหตุผลว่า สาเหตุของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความแห้งแล้งอย่างรุนแรง เกิดอุทกภัยน้ำท่วม พายุฝนฟ้าคะนองเป็นประจำ แผ่นดินถล่ม แผ่นดินไหวในหลายประเทศ หรือเกิดจากพายุอย่างรุนแรงและฉับพลัน ภัยธรรมชาติเหล่านี้ได้ทำลายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งมาจากสาเหตุหลายประการ อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลกตามกาลเวลา ซึ่งเราจะสังเกตได้จากสัญญาณต่างๆ ที่ปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่า มนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องและฝีมือมนุษย์ เช่น การสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้นในยุคปัจจุบัน การเน้นเทคโนโลยี ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
นางสาวสุพัตรา กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนกรุงเทพฯ และเคยเจอเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ตอนนั้นเป็นการใช้ชีวิตในเมืองหลวงที่ลำบากมาก แต่การช่วยเหลือหรือเข้าถึงเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพราะถือว่าเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ใกล้หน่วยงานต่างๆ จึงสะดวกในการช่วยเหลือ ตนเห็นใจและอยากให้กำลังใจพี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ประสบภัยอยู่ขณะนี้ ขอให้ทุกคนปลอดภัย
"กทม.มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้กลายเป็นเมืองคอนกรีตไปเกือบทั้งเมือง เวลาหน้าร้อนก็ร้อนจัด เพราะต้นไม้ถูกตัดทิ้งไปและปลูกสิ่งก่อสร้างเป็นหมู่บ้านจัดสรร คอนโด สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จากที่ผ่านมาคนกรุงเทพฯ ประสบกับปัญหามลพิษทางอากาศ คือ ฝุ่นละออง PM2.5 และสิ่งที่ร้ายแรงมากกว่านั้น คือ เวลาฝนตกเพียงแค่1-2ชั่วโมง น้ำก็ท่วมแล้ว จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจและเร่งแก้ปัญหา ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเราสร้างแต่ตึก สร้างแต่สิ่งอำนวยความสะดวก แต่เราลืมสร้างปอดไว้ในการหายใจคือการปลูกต้นไม้" น้องแอน กล่าว
น้องแอนยังฝากส่งกำลังใจถึงพี่น้องชาวอีสานที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติธรรมชาติ หรืออุกภัยน้ำท่วมจากพายุ 'โพดุล' ว่า ขอให้พี่น้องชาวอีสานทุกคนผ่านเรื่องราวนี้ไปได้ด้วยดี ขอให้ทุกคนปลอดภัย และที่สำคัญต้องขอขอบคุณพี่ๆ ที่ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ สู้ๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี