25 กันยายน 2562 ที่โรงแรมแมนดาริน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ร่วมจัดเสวนาในหัวข้อ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับพฤติกรรมดื่มหนักดื่มเร็ว และการคุกคามทางเพศ ถอดบทเรียนจากกรณีการเสียชีวิตของพริตตี้สาว ซึ่งภายในงานได้มี “อดีตสาวเชียร์เบียร์” ที่ผันตัวมาเป็น “โมเดลลิ่ง” ดูแลเด็กสายเอนเตอร์เทน ได้เปลือยชีวิตตัวเองพร้อมเผยถึงการทำงานของพริตตี้แต่ละเกรด
โดย นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี เป็นคนจังหวัดจันทบุรี ก่อนจะเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เผยชีวิตของตนเองว่า แต่ก่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัยตนจำเป็นต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนตั้งแต่ปี 1 – ปี 4 เพราะที่บ้านไม่ได้มีฐานะจึงเลือกทำอาชีพเป็น “สาวเชียร์เบียร์” ตามผับ-บาร์ต่างๆ เพราะได้เงินดีเมื่อเทียบกับงานพาร์ทไทม์อื่นๆที่มีค่าชั่วโมง 30-40 บาท แต่งานเชียร์เบียร์ได้วันละ 300-500 บาท และที่สำคัญใช้เวลาไม่นานก็ทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย เช่น อ่านหนังสือเรียน และรับจ๊อบงานอื่น คือเมื่อว่างจากงานก็จะรับจ้างเป็น MC สินค้าในห้างสรรพสินค้า ต้องบอกเลยว่าขณะที่เชียร์เบียร์นั้นต้องยอมรับในสายตาของคนนอกที่มองดูถูกงานเรา และเสี่ยงที่จะถูกลวนลามได้ง่าย
“งานเอ็นสมัยก่อนไม่เหมือนกับปัจจุบัน คือจะเอ็นในร้านแบบเปิดเผย ซึ่งลูกค้าจะทำการปิดร้านเหมาพร้อมระบุความต้องการว่าต้องการเด็กเชียร์เบียร์สเปคแบบไหน และกี่คนทางร้านก็จะจัดเตรียมให้ เพื่อดูแลลูกค้าส่วนใครจะไปต่อกับลูกค้าก็แล้วแต่เขาจะตกลงกัน ซึ่งก็มีความเสี่ยงเพราะขณะทำงานเวลาเดินเสิร์ฟหรือเชียร์เบียร์อยู่นั้นมักจะโดน “จับก้น” หรืออวัยวะต่างๆของร่างกายเป็นประจำ ก็ใช่ว่าจะชินกับสิ่งที่แขกหรือลูกค้ากระทำแต่ถือเสียว่า “ทำบุญ” ไป เพื่อจบงานเร็วๆ เพราะพรุ่งนี้ก็เปลี่ยนสถานที่ทำงานแล้ว คิดแค่ว่าทำงานเพื่อหาเงินไปเรียนต่อเท่านั้น
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับอาชีพนี้ที่จะโดนกระทำดังกล่าว แต่ทุกคนมีวิธีเอาตัวรอดที่ต่างกัน ซึ่งวิธีของพี่นั้นถ้าถูกลูกค้าโต๊ะที่เราดูแลอยู่ล่วงละเมิดเกินขอบเขต ก็จะขอสลับโต๊ะดูแลแขกกับเพื่อน หลายครั้งที่เราจำเป็นต้องดื่มกับลูกค้าก็จะเลือกว่าลูกค้านั้นไว้ใจได้รึเปล่าหรือเขาเป็นแขกของเจ้าของร้านหรือไม่ ถ้าเป็นแขกเราก็จะบริการเขาแบบ VIP คือร่วมดื่มด้วยได้แต่จะไม่มีอย่างอื่นเกินเลย ทั้งที่จริงแล้วเราไม่ควรดื่มขณะทำงานแต่ดื่มหลังเสร็จงานได้ก็แล้วแต่จะตกลงกันกับลูกค้า
และการระมัดระวังตัวขณะดื่มนั้นสำคัญคือเราต้องกินแต่แก้วของตัวเอง ไม่ใช้แก้วร่วมกับผู้อื่นและต้องคอยสังเกตมองแก้วของเราอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการถูกวางยาได้ และการระวังตัวไม่ใช่เพียงแค่ในเวลาทำงานเท่านั้น แต่ต้องระวังหลังจากเสร็จงานด้วย เพราะจะมีลูกค้าบางคนที่เขาอาจถูกใจเราก็จะดักรอหน้าร้าน ระหว่างที่เรารอแท็กซี่กลับบ้านด้วย ซึ่งวิธีหลบหลีกของพี่ก็จะรวมกลุ่มเพื่อนกลับไปด้วยกัน”
อดีตสาวเชียร์เบียร์ กล่าวต่อไปว่า สมัยก่อนนั้นคนที่ทำงานแบบนี้คือเค้าคิดแต่จะหาเงินอย่างเดียว ไม่ได้มีการเอาตัวเข้าแลกแบบปัจจุบัน ด้วยสมัยนี้ที่การเข้าถึงนั้นทำได้ง่ายคนจึงมองอาชีพเด็กเชียร์เบียร์ไปในทางลบกันหมด ซึ่งต้องเข้าใจเรื่องของคำว่าเด็กเอ็นก่อน เพราะแบ่งเป็น 3 เกรด คือ เกรด 1 ที่ชงเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว ในงานปาร์ตี้ที่ไม่ว่าจะกี่ 10 คน ก็จะทำหน้าที่ชงเพียงอย่างเดียวรายได้ตกอยู่ที่วันละ 3,000 บาท ,เกรด 2 สามารถแตะเนื้อต้องตัวได้และต้องดื่มเหล้าเก่ง เกรดนี้จะต้องพร้อมนั่งดื่มและดูแลลูกค้าจนจบงาน รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท ต้องเปลืองตัวนิดหน่อยเพื่อแลกกับเงินที่มากขึ้นกว่าเกรดแรก และเกรด 3 คือพร้อมไปต่อและจบที่บนเตียงได้
“การจ้างงานแต่ละเกรดพริตตี้ทุกคนต้องรู้อยู่แล้วว่าเรารับได้ในเกรดไหน เพราะอีเจนซี่จะส่งสเปคของงานมาให้ก่อนแล้วว่าต้องการแบบไหน ลูกค้าบางคนก็ระบุมาเลยว่า ขาว ผมยาว ตาโต นมใหญ่ สูง 160 ขึ้นไปเอนเตอร์เทรนได้ และกินเหล้าเก่ง แต่ถ้ามีนอกรอบลูกค้าก็จะแจ้งมาเลยโดยค่าตัวจะอยู่ที่ 10,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสวยและความดังของพริตตี้คนนั้นๆ ฉะนั้นอีเจนซี่ต้องระบุให้ชัดและเมื่อเด็กมาจะต้องรับงานตามที่แจ้งได้ ห้ามปฏิเสธลูกค้า
ซึ่งเงิน 10,000 บาทเราจะได้รับจากเอเจนซี่อยู่แล้ว ส่วนการไปต่อนอกรอบก็แล้วแต่พริตตี้จะตกลงกับลูกค้า สำหรับคนที่ไปต่อมักจะมีตัวเงินเป็นตัวล่อ บางคนอาจมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วนหรือบางคนอยากได้ของแบรนด์เนมก็มี อยากบอกน้องๆว่าควรระวังและป้องกันตัวเองให้ดี ควรเซฟตัวเองตั้งแต่เริ่มดื่มไปจนถึงเรื่องบนเตียง และก่อนจะไปต่อควรคิดให้ดีว่าสมควรไปต่อมากน้อยแค่ไหน คุ้มกับสิ่งที่เราต้องเสียหรือไม่ หรือเรามีความจำเป็นต้องใช้เงินขนาดต้องไปต่อจนจบไหมก็อยากให้น้องๆตระหนักคิดเรื่องนี้นิดนึงว่าเงินที่เราได้มาคุ้มค่ากับความเสี่ยงนั้นไหม”
กรณีการรับงานของ “ลัลลาเบล” นั้น อดีตสาวเชียร์เบียร์ บอกว่า เพราะเป็นงานกลางวันใครๆก็คิดว่าปลอดภัย ซึ่งรวมถึงตัวลัลลาเบลด้วย แต่เมื่อไปถึงสถานที่จัดงานที่ดูภายนอกอาจจะไม่มีอะไร แต่พอเข้าไปแล้วกลับไม่เป็นอย่างทิ่คิดเขาก็ยากที่จะปฏิเสธงาน โดยส่วนใหญ่ “พริตตี้สายเอ็น” จะไม่แคนเซิลงานกลางคันเพราะจะเสียไปถึงโมเดลลิ่งด้วยเขาจึงทำงานเต็มที่ ซึ่งก็อธิบายยากเพราะเราไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างในจริงๆแล้วเป็นอย่างไรเห็นแต่คลิปที่เขาแชร์ต่อๆกันมา
นอกจากนี้ “อดีตสาวเชียร์เบียร์” ยังฝากไปถึงคนจ้างงานว่า น้องแต่ละคนมีสเปคในการรับงานอยู่แล้วว่าเขามีหน้าที่ทำอะไรบ้าง ก็อยากให้ปฏิบัติกับเขาตามเกรดงานที่จ้างไป ถ้าเกรดเอ็นทั่วไปที่ชงอย่างเดียวถึงแม้เขาจะแต่งตัววาบหวิวนั่นเพราะเป็นงานคุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปล้วงหรือจับของสงวนเขา เขามาทำงานทำหน้าที่ของเขาก็อยากให้ลูกค้าทุกคนให้เกียรติเขาด้วย คืออาจจะอะลุ่มอล่วยแตะเนื้อต้องตัวได้บ้างแต่ไม่ใช่ละลาบละล้วงจนเขารู้สึกว่าอยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้ว ควรให้เกียรติในอาชีพนี้และให้เกียรติน้องด้วย เพราะจริงๆแล้วเขาไม่ได้อยากทำอะไรที่มันเปลืองตัวแต่เขาจำเป็นจึงต้องทำ
ขณะเดียวกัน “นางสาวเอ” ยังได้กล่าวบนเวทีเสวนาอีกว่า จากที่ได้เข้าไปสัมผัสโดยตรงและคนรอบข้าง พบว่าวงการนี้มีความเสี่ยงและผลประโยชน์อย่างมาก เป็นอาชีพที่ทำเงินได้ง่าย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกลวนลามคุกคามทางเพศ แม้ปัจจุบันตัวเองจะห่างจากอาชีพนี้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่พอทราบจากน้องๆเด็กเอ็นว่าเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงที่จะโดน แน่นอนมีบางคนยินยอมพร้อมใจไปจบกันบนเตียงแต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดจะเป็นอย่างนั้น
ไม่อยากให้สังคมมองคนทำอาชีพนี้แบบเหมารวม พวกเขาก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ในทุกๆอาชีพรวมทั้งพวกน้องๆเหล่านี้ก็ไม่ควรมีใครถูกล่วงละเมิด ถูกมอมเหล้า มอมยาเพื่อบังคับข่มขืนทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนตัวเชื่อว่ามีจำนวนมากเลยที่ถูกล่วงละเมิด ไปจนถึงถูกข่มขืนแต่ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาบอกความจริง และก็นึกไม่ออกว่าใครจะช่วยได้ จึงทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดภาวะย่ามใจและกระทำซ้ำกับคนอื่นๆอีก กลายเป็นวงจรที่ไม่จบสิ้น
“บางคนมีวิธีการเอาตัวรอดในการรับงานเช่น ไม่ดื่มเหล้าแก้วคนอื่น มือไม่ห่างแก้วเหล้าตัวเอง มีการประมาณตัวเองว่าดื่มได้แค่ไหน ซึ่งแต่ละคนจะมีเทคนิคการดื่มที่ไม่เหมือนกัน เพราะพริตตี้สายเอ็นต้องดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว แต่แม้จะมีการดื่มหนักทุกวันพวกเขาจะมีการออกกำลังกาย ดูแลตัวเองนะ กินอาหารเสริมดีท็อกตับ จะมีใครบ้างที่รู้ว่ามีน้องๆจำนวนมากที่ต้องทำเพื่อหาเงินเลี้ยงดูแลพ่อแม่ ดูแลครอบครัว ส่งน้องเรียน หรือแม้แต่ส่งตัวเองเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่ในวงการนี้กันนานๆหรอก เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็ต้องมีงานอื่นทำมีครอบครัว ที่พูดนี่ไม่ได้สนับสนุนให้ใครเข้ามาเดินทางสายนี้นะ เพราะถึงที่สุดแล้วที่เราคิดว่าเอาตัวรอดได้ เวลาอยู่ในสถานการณ์คับขันมันยากมากที่จะรอดได้” นางสาวเอ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี