บิณฑ์แจงยอดบริจาค408ล.
ช่วยน้ำท่วมอุบลฯได้95%
ส่งต่อเยียวยายโสธร-จว.อื่น
ปราจีน-สระแก้วยังจม
“เทวัญ” แจงผู้ประสบภัยน้ำท่วมรับเงิน 2 ทาง จากรบ.เยียวยา-กองทุนตายให้ 8 หมื่น มีบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะได้เพิ่มอีก 5 หมื่น บ้านเสียหายทั้งหลังรับ
2.3 แสน รับเงินสดทันที ขณะที่ “บิณฑ์” ตั้งโต๊ะแถลงรายรับ-รายจ่ายหลังเงินบริจาคพุ่ง408ล้าน ยันซับน้ำตาคนอุบลฯได้95%เล็งปิดบัญชี30ก.ย.ส่งต่อเงินเหลือช่วยยโสธร จังหวัดอื่นต่อ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการจ่ายค่าชดเชยเยียวยาผุ้ประสบภัยน้ำท่วมว่า คณะกรรมการเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ประชุมกันเมื่อวันที่ 24 กันยายน พิจารณาเรื่องเงินบริจาค ที่รัฐบาลเปิดรับบริจาค ยอดเงิน 270 ล้านบาท ซึ่งเริ่มจ่ายเงินไปบางส่วนแล้ว โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์ กรณีเสียชีวิต ได้รายละ 50,000 บาท และเงินเพิ่มเติม 30,000 บาท และหากผู้เสียชีวิตมีบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะจะได้รับเงินเพิ่มอีก 50,000 บาท จะได้รับเงินสดทันที กรณีบ้านเสียหาย ได้หลังละไม่เกิน 230,000 บาท จะประเมินตามความเป็นจริง การจ่ายชดเชยเป็นลักษณะสนับสนุนอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน คณะกรรมการฯ จะโอนเงินไปยังจังหวัด ซึ่งจะเป็นผู้พิจารณาและจ่ายเงินเยียวยา และวันที่ 28 กันยายนนี้ตนจะเดินทางไปจ.อุบลราชธานี เพื่อจ่ายเงินส่วนนี้ด้วย
เหยื่อน้ำท่วมได้เงินเยียวยา2ทาง
“ประชาชนสามารถรับเงินได้ 2 ทาง ทั้งจากเงินเยียวยาของรัฐบาล และเงินกองทุนฯ กรณีเสียชีวิต จะได้รับเงินทั้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และทางกองทุนฯ การซ่อมแซมบ้านหากได้รับเงินเยียวยาแล้วไม่พอ ทางกองทุนจะสนับสนุนเพิ่มเติมให้ ซึ่งจะพิจารณาเอกสารของปภ.และมท. เนื่องจากไม่มีกำลังพลลงไปตรวจสอบในพื้นที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าววางกรอบไว้แล้ว แต่หากเป็นเรื่องเร่งด่วน อาจพิจารณาได้ทันที”นายเทวัญกล่าว
ยอดบริจาคบิณฑ์408ล.ปิดบัญชี30กย.
ที่ศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ของมูลนิธิร่วมกตัญญู นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และนายเอกพัน บรรลือฤทธิ์ พร้อมคณะผู้บริหารมูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดเงินบริจาคผ่านบัญชีออมทรัพย์ และบัญชีกระแสรายวัน ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่จ.อุบลราชธานีว่า ยอดบริจาคจนถึงวันนี้ เวลา 09.30 น. เงินบริจาคอยู่ที่ 408,508,986 บาท และยอดเงินสดที่ประชาชนบริจาคโดยตรงผ่านนายบิณฑ์ และนายเอกพันธ์ คือ 1,748,441 บาท ซึ่งเบิกถอนมาแล้ว 6 ครั้ง ยอดเงินทั้งหมด 46,000,000บาท โดยรวมยอดเงินช่วยเหลือไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16-24 กันยายน 2562 อยู่ที่ 41,181,000 บาท รวม 7,893 ครัวเรือน ผู้ป่วยติดเตียง / พิการทุพลภาพ 293 ราย เหลือยังที่ไม่ได้ส่งมอบ 4,819,000 บาท และวันนี้มีภารกิจที่ต้องไปมอบอีก 800 หลังคาเรือน ทั้งนี้ จะปิดการรับบริจาคเงินช่วยเหลือในวันที่ 30 กันยายน
ยันช่วยได้95%ขยายผลช่วยยโสธร
นายบิณฑ์กล่าวว่า จะจัดสรรเงินบริจาคส่งมอบถึงมือผู้ประสบภัยทุกคน ซึ่งในส่วนจ.อุบลราชธานีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วประมาณ 95%ของพื้นที่ โดยยึดหลักเกณฑ์ข้อมูลจากราชการหรือทะเบียนราษฎร์เป็นหลัก ตลอดจนทำประชาคมร่วมกันกับผู้นำท้องถิ่นตัดสินใจมอบเงินช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยแต่ละครัวเรือน ยืนยันว่าจะสำรวจบ้านของประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในทะเบียนราษฎร์หรือตกสำรวจแต่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้ ซึ่งมีการทำประชาคมและสำรวจวิเคราะห์แล้วเห็นสมควรก็จะมอบเงินช่วยเหลือ ขอย้ำว่า การช่วยเหลือเงินบริจาคส่วนนี้เป็นเพียงระดับครัวเรือนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือพื้นที่ทํากินหรือพื้นที่เศรษฐกิจ
“นอกจากนี้ ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูเตรียมลงพื้นที่สำรวจ จ.ยโสธรเพื่อกระจายเงินบริจาคช่วยเหลือในทุกพื้นที่ประสบภัยและขยายการช่วยเหลืออไปจังหวัดอื่นอีก ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายหลัง สำหรับบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวันของ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ จะปิดบัญชีในวันที่ 30 กันยายนนี้ แม้จะมีผู้ที่ต้องการอยากจะให้เปิดรับบริจาคไปเรื่อยๆก็ตาม”นายบิณฑ์ กล่าว
สระแก้วน้ำล้นคลองท่วมชุมชนเมือง
อีกด้านหนึ่ง ยังคงเกิดสถานการณ์อุทกภัย เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยที่ จ.สระแก้ว น้ำคลองพระสะทึง อ.เมืองสระแก้ว ล้นตลิ่งท่วมชุมชนบ้านลัดกะสัง เขตเทศบาลเมืองสระแก้ว หลังจากเมื่อวันที่ 24 กันยายน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สระแก้วแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยริมฝั่งให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากโครงการชลประทานแก้วประเมินสถานการณ์ฝนที่ตกสะสมมาตั้งแต่วันที่ 22กันยายนใน อ.เมือง วังสมบูรณ์ วังน้ำเย็นและเขาฉกรรจ์ ทำให้มีน้ำปริมาณมากไหลลงคลองพระสทึงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งตลอดคืนที่ผ่านมา อาสามูลนิธิสว่างสระแก้วและเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานร่วมกันเฝ้าระวังน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่นเดียวกับ ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง คลองพระปรงล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนพื้นที่บ้านสุขศาลา หมู่ 6 ทหาร ฝ่ายปกครอง และอาสามูลนิธิฯเข้าช่วยประชาชนขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง
นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วเผยว่า หลังได้รับข้อมูลปริมาณน้ำตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 กันยายน ได้แจ้งเตือนชาวบ้านเตรียมรับมือ กระทั่งเกิดน้ำล้นตลิ่งท่วม ต.โคกปี่ฆ้องแต่ชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูงตามคำเตือนแล้ว ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มาก ถ้าไม่มีฝนหรือไม่มีมวลน้ำไหลมาเติม สถานการณ์จะกลับภาวะปกติในเร็วๆนี้
นายณัฐวุฒิ สร้อยประเสริฐ ผอ.โครงการชลประทานสระแก้ว กล่าวว่า น้ำล้นตลิ่งท่วม ต.โคกปี่ฆ้อง ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำและมีบ้านเรือนยังถูกน้ำท่วม แต่ถ้าช่วงนี้ไม่มีฝนตกมา จะกลับสู่ภาวะปกติได้เร็ว สำหรับเขื่อนห้วยยาง อ.ตาพระยา มีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่า 20%ถือว่าสถานการณ์ดีกว่าปีที่แล้ว
กบินทร์ฯรับน้ำสระแก้วสูงอีก8ซม.
ความคืบหน้าน้ำท่วม ที่ จ.ปราจีนบุรี ที่ชุมชนตลาดเก่า เทศบาลกบินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนราษฎรยังมีปริมาณสูง ทำให้ทรัพย์สินชาวบ้านเริ่มถูกน้ำท่วม ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ช่วยขนย้ายขึ้นไปไว้ชั้นบนของบ้าน อย่างไรก็ตาม การใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้านในพื้นที่ยังได้รับความเดือดร้อน ต้องเดินลุยน้ำเข้าออก เพราะระดับน้ำสูงเกือบถึงเอว บางส่วนต้องใช้เรือพายสัญจรไปมา จากการตรวจสอบปริมาณน้ำตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 24 กันยายนถึงเช้าวันนี้ พบพื้นที่ชุมชนตลาดเก่าปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 8 ซม. เนื่องจากมีน้ำไหลมาจาก จ.สระแก้ว คาดว่าช่วงค่ำ มวลน้ำก้อนใหญ่จากสระแก้วจะมาถึงชุมชนตลาดเก่า
100หลังอ่วมพื้นที่เกษตรเสียหายอื้อ
ส่วนบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำท่วม บริเวณแควพระปรง คือ หมู่ 5, 9 และแม่น้ำปราจีนบุรี ในต.กบินทร์ ประกอบด้วย หมู่ 3, 5, 9, 12 รวม 4 หมู่บ้าน 115 ครัวเรือน ประชาชนรวม 490 คน ถนนเส้นทางหลักภายในหมู่บ้านมีหมู่ 12 ที่น้ำท่วมประมาณ 5 ซม. ระยะยาว 100 เมตร พื้นที่นาข้าว 180 ไร่ ข้าวโพด 20 ไร่ ต.เมืองเก่า มีหมู่บ้านประสบปัญหาน้ำท่วม คือ หมู่ที่ 5 บ้านหนองรี ท่วมถนน ศาลาธรรมสังเวช หมู่ที่ 6 บ้านโนนแดง ท่วมถนน ท่วมไร่นา 250 ไร่ หมู่ที่ 13 บ้านหนองกุลา ท่วมบ้านเรือน 3 หลัง และ หมู่ที่ 15 บ้านวังห้าง ท่วมบ้านเรือน 25 หลัง ท่วมไร่นา 80 ไร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี