nn...เป็นเรื่องดีๆ กับสิ่งแวดล้อมในการรณรงค์ปลูกต้นไม้ ก็ต้องนำมาแบ่งปัน “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า วันก่อนที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ “ท่านชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดโครงการ “ชวนปลูก-รักต้นไม้ใหญ่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”...สืบเนื่องจาก สมัยที่ท่านชวนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศเวียดนาม ได้เห็น“ต้นไม้ใหญ่”ที่นั่น ทางประเทศเวียดนามจึงได้ให้“ต้นพันธุ์”มาปลูกและนำมาขยายพันธุ์ที่ประเทศไทย โดยนักวิชาการป่าไม้ได้ตั้งชื่อว่า“ต้นยมชวน”เป็นต้นไม้ที่โตเร็ว พบเห็นได้ทั่วทั้งจังหวัดตรัง และหลายจังหวัดขณะนี้ เพื่อรณรงค์ให้เมืองไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้ อันเป็นแนวคิดการสร้างประเทศให้ร่มรื่น ร่มเย็น...ท่านชวนจึงได้นำกล้า“ต้นยมชวน”ที่ได้ขยายพันธุ์ที่ศูนย์ขยายพันธุ์พืชตรัง นำมาแจกให้กับบรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และตัวแทนองค์กรต่างๆ เพื่อนำไปปลูกตามโครงการ“ชวนปลูก-รักต้นไม้ใหญ่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”...หากท่านใดที่สนใจจะร่วมโครงการ“ชวนปลูก-รักต้นไม้ใหญ่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”ต้องการ“ต้นยมชวน”ไปปลูก ก็สามารถติดต่อขอรับต้นพันธุ์ได้ครับ...ยิ่งปลูกต้นไม้ จะยิ่งพื้นที่สีเขียว ทำให้โลกใบนี้น่าอยู่...หากทุกกิจกรรมส่งเสริมการปลูกต้นไม้ก็จะยิ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกด้วย...nn

nn...แม้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ครั้งนี้ ถือว่าท่วมหนักและยาวนานในรอบหลายปี รวมทั้งอีก 3 จังหวัด ทั้งร้อยเอ็ด ยโสธร และ ศรีสะเกษ...ทำให้ภาครัฐและเอกชนต่างระดมกำลังลงไปช่วยกันอย่างเต็มที่ ในยามคนไทยมีภัยก็ไม่เคยทอดทิ้งกัน...โดยเฉพาะ “อ.ยักษ์” วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่นำแนวพระราชดำริเกษตร ทฤษฎีใหม่มาปรับใช้จนประสบความสำเร็จก่อนขยายผลสู่เครือข่ายทั่วประเทศหวังเพียงให้เกษตรกรนำ“ศาสตร์พระราชา”มาแก้ปัญหาพ้นจากความจน ครั้งนี้ ไม่ได้ลงมาในนาม อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่ลงมาในนามของ“ครูใหญ่”ของชาวกสิกรรมธรรมชาติ จิตอาสา ภาคประชาชน ผู้เดินตามรอยบาทของพระราชา...ได้พาคณะลงพื้นที่ เพื่อสำรวจทำข้อมูลเบื้องต้น เพื่อชวนพี่น้อง ช่วยกันฟื้นฟู และแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืน...โดยลงพื้นที่นั่งเรือ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ในพื้นที่ 4 อำเภอ 5 ค่ายพักพิง และมาจบที่การนั่งเรือเข้าถึงที่ บ้านราชธานีอโศก ในช่วงที่ฟ้ามืดมิด ซึ่งเป็นหมู่บ้านเกิดใหม่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูล ต.บุ่งไหม อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี..ได้มีการต้อนรับอย่างอบอุ่น อย่างน้อยๆ ก็ได้ขายฝันกับพี่น้องชุมชนอโศก เพื่อให้ร่วมกันฝัน เรื่อง การอยู่กับน้ำอย่างมีความสุข ไม่เดือดร้อนยามท่วม มีอาหารอุดมสมบูรณ์ ช่วยเหลือเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้ มีน้ำใช้ในยามแล้ง โดยยึดแนวทางตาม ในหลวง รัชกาลที่ 9...
และพอรุ่งเช้าอีกวัน..ลงพื้นที่ลุยต่อ “อ.ยักษ์” ได้สวมบท “เด็กขับเรือหางยาว”ซึ่งไม่ได้แค่ทำท่าเท่านั้น แต่ อ.ยักษ์ ยังได้ขับเรือพาคณะไปบนผืนน้ำ ที่ท้องทุ่งนา กลายเป็นทะเลสาบอันกว้างไกลไปสุดตา อีกทั้งข้างใต้ท้องเรือ ก็คือนาข้าว ที่มีข้าวกล้า กำลังตั้งท้อง เตรียมออกรวงก่อนน้ำไหลหลากเข้ามาท่วม...จากเหตุการณ์ครั้งนี้... ในวิกฤติมีโอกาส เตือนภัย เผชิญเหตุ ฟื้นฟู ...เราจะสู้ไปด้วยกันนะพี่น้องไทย...เพราะทุกคนทำงานด้วยหัวใจรัก ทำงานเพื่อสานต่องานของพ่อที่ยังไม่เสร็จ...nn