ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ทำพิธีอุ้มพระพุทธมหาธรรมราชาดำน้ำตามที่ยึดถือกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ ท่ามกลางชาวเพชรบูรณ์และนักท่องเที่ยวจำนวนมากเฝ้ารอชมประเพณีแห่งศรัทธาหนึ่งเดียวในโลกครั้งนี้
เมื่อเวลา 10.39 น. วันที่ 28 กันยายน 2562 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีอุ้มพระดำน้ำ ประจำปี 2562นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ (เจ้าเมือง) พร้อมด้วยกรมการเมืองทั้ง 4 คือ เวียง วัง คลัง และนา ประกอบด้วย (กรมการฝ่ายเวียง) พลตรี วิชิต วงศ์สังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 (กรมการฝ่ายวัง) นายสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ (กรมการฝ่ายคลัง) พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ สุดสงวน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ และ (กรมการฝ่ายนา) ดร.เด่นณรงศ์ ธรรมมา นายกสมาคม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ร่วมอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ จากวัดไตรภูมิ แห่องค์พระล่องไปตามแม่น้ำป่าสัก ถึงท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร เพื่อประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ ประจำปี 2562
โดยมีนายพงษ์พิทยา ธนไกรศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พิษณุโลก ดร.เสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ ประชาชนชาวเพชรบูรณ์ รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติฯ เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
สำหรับงานประเพณีพิธีอุ้มพระดำน้ำในปีนี้ โขนหัวเรืออัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาไปประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ คือ โขนหัวเรือ เหมวาริน (เหม มะ วา ริน) ซึ่งเป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ มีหัวเป็น เหม คือ หงส์ผสมราชสีห์ ลำตัวเป็นจระเข้ หางเป็นปลา ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีส่วนประกอบของสัตว์ชั้นสูง ที่อาศัยอยู่ทั้งในน้ำ บนบกและในอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับประเพณีอุ้มพระดำน้ำ อันเป็นประเพณีเกี่ยวกับน้ำ และความสมบูรณ์จากลำน้ำป่าสัก
จากนั้นนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาขึ้นประดิษฐานบนเรือ จากวัดไตรภูมิมายังแม่น้ำป่าสัก และแห่องค์พระพุทธมหาธรรมราชาล่องไปตามสายน้ำ ถึงท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร เพื่อประกอบพิธี อุ้มพระดำน้ำ ที่ปฏิบัติสืบทอดมานาน และเชื่อกันว่าเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์อันจะนำความสุข ความสงบร่มเย็นมาสู่เมือง ส่งผลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล พืชผลการเกษตรอุดมสมบูรณ์ และทำให้ชาวเพชรบูรณ์มีความเจริญรุ่งเรือง
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยกรมการเมืองทั้ง 4 คือ เวียง วัง คลัง และ นา ได้ร่วมกันอุ้มพระดำน้ำจำนวน 6 ครั้ง ครั้งแรกเริ่มอุ้มในทิศเหนือ ครั้งที่สองอุ้มในทิศใต้ ครั้งที่สามครั้งที่สี่อุ้มในทิศเหนือ ครั้งที่ห้าและครั้งที่หก อุ้มในทิศใต้ ซึ่งภายหลังจากเสร็จพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และผู้ร่วมประกอบพิธี ได้แจกจ่ายเครื่องบวงสรวง กระยาสารท ข้าวต้มลูกโยน กล้วย ที่ผ่านพิธีอันเป็นมงคล ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวนำกลับไปรับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
ประเพณีอุ้มพระดำน้ำเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานมานาน เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลกของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ออกหาปลาในแม่น้ำป่าสัก แต่อยู่มาวันหนึ่งเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น โดยกระแสน้ำในบริเวณวังมะขามแฟบ มีพรายน้ำผุดขึ้นมาทีละน้อยจนแลดูคล้ายน้ำเดือด จากนั้นกลายเป็นวังวนดูดเอาองค์พระพุทธรูปองค์หนึ่งลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ทำให้ชาวประมงต้องลงไปอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิ แต่ในปีถัดมาตรงกับวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 วันประเพณีสารทไทย พระพุทธรูปดังกล่าวหายไป ชาวบ้านต่างพากันระงมหา
สุดท้ายไปพบพระพุทธรูปกลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณที่พบพระพุทธรูปองค์นี้ในครั้งแรกกำลังอยู่ในอาการดำผุดดำว่าย จึงได้ร่วมกันอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดไตรภูมิ อีกครั้งหนึ่ง พร้อมร่วมกันถวายนามว่า "พระพุทธมหาธรรมราชา" หลังจากนั้นต่อมาในวันสารทไทย หรือวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 เจ้าเมืองเพชรบูรณ์จะทำพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา ลงประกอบพิธีดำน้ำเป็นประจำทุก ๆ ปี โดยเชื่อว่าจะทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ไพร่ฟ้าประชาชนมีความสุข บ้านเมืองปราศจากจากโรคระบาดคุกคาม จนกลายมาเป็นประเพณีอุ้มพระดำน้ำอันยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน ณ บริเวณท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร อำเภอเมืองเพชรบูรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี