เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เฟซบุ๊กแฟนเพจ "ThaiRAP" หรือ Thailand Road Assessment Programme เผยแพร่ผลการประเมินสภาพถนนบริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 มุ่งหน้าลาดกระบัง ม.12 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุรถกระบะบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันพลิกคว่ำส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 ศพ เมื่อคืนวันที่ 28 ต่อเข้าวันใหม่ 29 ก.ย.2562 และมีข้อมูลว่ารถกระบะคันเกิดเหตุใช้ความเร็วถึง 120 กม./ชม.โดยระบุว่า ถนนดังกล่าวผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.หากใช้มากกว่านั้นก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนี้

"ถนนกิ่งแก้วบริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 เป็นถนนกว้างทิศทางละ 4 ช่องจราจร มีการแบ่งทิศทางการจราจรด้วย concrete barrier ทีม ThaiRAP ได้ประเมินสภาพทางกายภาพของถนนด้วยมาตรฐาน iRAP พบว่าหากรถยนต์ใช้ความเร็วที่ระดับ 80 กม./ชม. ถนนช่วงนี้จะได้คะแนน 3 ดาว ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่อยู่ในระดับปลอดภัย แต่หากผู้ขับขี่ขับด้วยความเร็วสูงกว่านั้น ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อขับขี่ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ถนนช่วงนี้จะได้เพียง 2 ดาวเท่านั้น จึงจัดเป็นถนนที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน"

"ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่ายานพาหนะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่การใช้ความเร็วบนท้องถนนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นเดียวกัน"

สำหรับโครงการ Thailand Road Assessment Programme นั้นเป็นความร่วมมือกันระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับองค์กร International Road Assessment Programme (iRAP) ที่มีภารกิจวิเคราะห์และประเมินผลถนนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยประเมินความเสี่ยงของผู้ใช้ทางทั้งหมด 4 กลุ่ม คือคนเดินเท้า รถยนต์ มอเตอร์ไซค์และจักรยาน จัดอันดับจาก 1 ดาวคือเสี่ยงมากที่สุด ไปถึง 5 ดาวคือเสี่ยงน้อยที่สุด