วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 โรงพยาบาลเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายแพทย์ทรงยศ ชญานินปรเมศร์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะสมุย ได้เปิดกิจกรรมสัปดาห์สุขภาพจิต ภายใต้ชื่อกิจกรรม "สุขภาพจิตไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" ทั้งนี้ ด้วยคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้สัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ซึ่งเริ่มดำนินการมาตั้งแต่ ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปีนี้กิจกรรมสัปดาห์สุขภาพจิตจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 -8 พฤศจิกายน 2562 ณ โรงพยาบาลเกาะสมุย
เนื่องจากปัจจุบันพบว่าชาวเกาะสมุยมีปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น จากปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่นค่าครองชีพที่สูงขึ้น ภาวะว่างงาน ปัญหาการเมือง ปัญหาอาชญากรรม และสารเสพติด โดยพบว่าผู้ป่วยด้านจิตเวชโรคซึมเศร้านับจากต้นปี 2562 ถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษา และขอคำปรึกษามากถึง 5,452 ราย เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในปี 2561 มีจำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาจากอาการโรคซึมเศร้าถึง 4,713 คน พบว่าสถิติผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและผู้ป่วยทางจิตเวชในปี 2562 มีปริมาณผู้ป่วยที่มากกว่า สาเหตุหนึ่งเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่โรงพยาบาลเกาะสมุยวิตกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้จัดกิจกรรมสัปดาห์สุขภาพจิตขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจภาวะสุขภาพจิตของตนเอง รู้จักหลากหลายวิธีผ่อนคลายความเครียด และสามารถนำไปใช้กับตนเองและคนใกล้ชิดได้ เนื่องจากบุคคลที่มีภาวะเครียด ถ้าได้ระบายความรู้สึก กับผู้ที่รับฟังอย่างใส่ใจจะช่วยให้ผ่านพันวิกฤติทางจิตใจที่เกิดจากโรคซึมเศร้าไปได้
โดยกิจกรรมมีการจัดนิทรรศการความรู้ "สุขภาพจิตไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" การฉายวิดีทัศน์ เรื่องสุขภาพจิตไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง บริการตรวจวัดภาวะสุขภาพจิต บริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตเบื้องตันทุกวัย การนวดฝาเท้าคลายเครียด การตรวจโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทย ตรวจหากรุ๊ปเลือด การเสี่ยงเซียมซีความสุข ดื่มน้ำสมุนไพร รวมทั้งสามารถรับสื่อความรู้สุขภาพจิต ฟรึในงาน ตลอดทั้งสัปดาห์
ส่วนอาการของผู้เป็นโรคซึมเศร้ามักมีอาการดังต่อไปนี้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ เช่น เก็บตัว แยกตัวออกจากสังคม รู้สึกเศ้รา ท้อแท้ และสิ้นหวัง รู้สึกตนเองไร้ค่า รู้สึกผิดและโทษตนเองตลอดเวลา ขาดความสนใจหรือความเพลิดเพลินในการทำกิจกรรมต่างๆ เคลื่อนไหวช้าลงหรือกระสับกระส่าย เหนื่อยและอ่อนเพลียตลอดเวลา ขาดสมาธิ ความสามารถในการคิดและการตัดสินใจน้อยลง เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น นอนมากหรือน้อยกว่าปกติ มีความคิดหรือพยายามฆ่าตัวตาย มีปัญหาในการทำงานและการใช้ชีวิตในสังคม
การรักษาโรคซึมเศร้า การรักษาหลักของโรคซึมเศร้าคือ การพูดคุยให้คำปรึกษา การทำจิตบำบัดและการใช้ยากลุ่มต้านเศร้า ผู้ป่วยทีมีอาการรุนแรงอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถดีขึ้นได้จนสามารถทำงานและดำรงชีวิตได้อย่างปกติหากได้รับการรักษาที่เหมาะสม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี