วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีก่อนหน้านี้ "เพจ ฝ่ายข่าว สทท.ขอนแก่น" ได้รายงานข่าวผ่านเพจระบุว่า "แม่ของเด็กหญิง 10 ขวบโพสต์ Facebook ระบายถูกเจ้าหน้าที่ของเทศบาลในจังหวัดขอนแก่นสั่งห้ามเด็กหญิง 10 ขวบขายกระทงลายลิขสิทธิ์ เด็กนั่งร้องไห้รีบเก็บกระทงใส่ถุงกลับคืนทั้งที่ขายได้เพียงกำไรใบละ 5 บาท" (อ่านข่าวก่อนหน้านี้ : สาวน้อย10ขวบร่ำให้ถูก จนท.เทศบาลในขอนแก่นสั่งห้ามขายกระทงลายลิขสิทธิ์) 

ต่อมา "เพจ ฝ่ายข่าว สทท.ขอนแก่น" ได้รายงานความคืบหน้ากรณ๊ดังกล่าวอีกครั้ง โดยโปรยหัวข่าวว่า "ผู้ใหญ่บ้านยืนยันการตักเตือนเด็กหญิง 10 ขวบขายกระทงลายการ์ตูน เป็นการพูดคุยตักเตือน เพราะเด็กนักขายลำพังไม่มีผู้ปกครอง และเกรงจะมีตัวแทนลิขสิทธิ์เข้ามาจับตามที่เคยเป็นข่าว"

พร้อมระบุเนื้อหาว่า "วันที่ 13 พ.ย.62 Facebook รายหนึ่งโพสต์ระบายว่าลูกสาวได้ตั้งโต๊ะขายกระทงเป็นลงกลายกว่าตูน ที่บริเวณริมบึงหนองโคตรในเขตเทศบาลตำบลบ้านเป็ดอำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นโดยเด็กหญิงขายได้ก่อนหน้านี้ 4 อันได้กำไรใบละ 5 บาทหลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ สวมเสื้อกั๊กประมาณ 5-6 คนเดินมาบอกกับเด็กหญิง 10 ขวบว่าให้เลิกขายกระทงไม่งั้นจะถูกจับลิขสิทธิ์ ทำให้เด็กหญิงร้องไห้และรีบเก็บกระทงเหล่านั้นใส่ถุงทั้งที่เพิ่งจะขายได้สี่อันกำไรอันละ 5 บาทเท่านั้น

จากการสอบถามนายบุญตาชัย โพธิ์ศรี ผู้ใหญ่บ้านคำไฮ หมู่ 10 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 ซึ่งเป็นวันลอยกระทง โดยเป็นการจัดงานลอยกระทงของทางหมู่บ้านคำไฮ และทางวัดไทรทอง ที่บริเวณบึงหนองโคตรช่วงหาดทรายเทียม โดยมีคณะกรรมการจัดงานซึ่งเป็นลูกบ้าน ได้สวมใส่เสื้อแจ็คเก๊ตเป็นทีม ได้เดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณจัดงาน จนกระทั่งไปพบเด็กหญิงคนดังกล่าวได้นั่งขายกระทงคนเดียว และมีลวดลายการ์ตูนจึงทำให้คณะกรรมการจัดงาน ได้เข้าไปพูดคุยกับเด็กว่า ลายการ์ตูนเป็นลายแบบที่เป็นข่าว การมีตัวแทนลิขสิทธิ์มาจับกุมหรือไม่ ให้ระวังด้วยเพราะเป็นห่วง แต่เนื่องจากเด็กหญิงคนดังกล่าวเกิดความกลัวเพราะอยาคนเดียว จึงทำให้ตกใจและร้องไห้ จนกระทั่งแม่ ที่ได้ไปดูแลเครื่องเล่นสไลเดอร์เป่าลมกลับมาพบลูกนั่งร้องไห้ ลูกจึงเล่าให้แม่ฟังจนกระทั่งเป็นข่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านเป็ด ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ทราบเรื่อง พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งการให้สืบหาข้อเท็จจริง โดยได้มีการไปพูดคุยกับทางมารดาของเด็กหญิงแล้ว โดยทางมารดาไม่ติดใจอะไร เพราะเป็นความหวังดีของทางผู้จัดงาน กลัวจะมีการมาจับลิขสิทธิ์ลายการ์ตูน อีกทั้งเด็กหญิงได้อยู่เพียงลำพังโดยไม่มีผู้ปกครอง และทางผู้ปกครองไม่ติดใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด