ฮือฮา!! "พ่อท่านชัย" อดีตเจ้าอาวาสวัดปากแพรกเกจิดังเมืองคอน สร้างรูปปั้นตัวเองในวัดปากแพรก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชคู่กับรูปปั้น "ลุงเสมอ" เด็กวัดวัย 70 ปี-ก่อนเกจิดังมรณภาพแต่ "ลุงเสมอ" ยังมีชีวิตอยู่เชื่อโด่งดังเหมือน "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์"
วันที่ 16 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่เดินทางไปวัดปากแพรก หมู่ 5 ต.ปากแพรก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีอายุกว่า 500 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำขนาดใหญ่ เป็นวัดประจำตำบลปากแพรก ด้านหลังวัดเป็นที่รวมกันของแม่น้ำสามสายจากสามอำเภอ คืออำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอปากพนัง ที่ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย เรียกว่า "แม่น้ำปากพนัง" ย่านนี้จึงเรียกว่า "สามแพรก" และเรียกติดปากเรื่อยมาและเพี้ยนมาเป็น "ปากแพรก" และกลายเป็นชื่อวัดและชื่อตำบลหนึ่งของ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ วัดยังมีการสร้างมณฑปประดิษฐานรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัดปากแพรก ซึ่งล้วนเป็นเกจิดังของของจังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ เช่น พระครูสุกกธรรมวโรภาส หรือ "พ่อท่านขาว" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ก่อน พ.ศ.2485-2509 และพระครูปิยสีลาธิคุณ หรือ "พ่อท่านชัย" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509-2562 และเพิ่งมรณภาพเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 รวมสิริอายุ 96 ปี 100 วัน 77 พรรษา ปัจจุบันมีพระอธิการธราธิป ธีรธมฺโม ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส และได้สร้างเสนาสนะเพิ่มเติม โดยเฉพาะวิหารริมแม่น้ำประดิษฐานพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในลุ่มน้ำปากพนัง เช่น หลวงพ่อชูเฒ่า วัดพัทธสีมา อ.หัวไทร พระครูสุกกธรรมวโรภาส หรือ "พ่อท่านขาว", พ่อท่านเขียว วัดหรงมล เป็นต้น
แต่ที่สร้างความสนใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวคือ การสร้างรูปพระธุดงค์ผมยาว พระพุทธรูปสวมหมวกเงยหน้ามองขึ้นด้านบน และรูปเหมือนนายเสมอ คงทอง หรือ "ลุงเสมอ" อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นชายสติไม่สมประกอบที่อาศัยและช่วยเหลือวัดมาตลอดชีวิต โดยรูปปั้นลุงรวยเสมอ ปั้นไว้ครูกับรูปปั้นพระครูปิยสีลาธิคุณ หรือ "พ่อท่านชัย" ตั้งประดิษฐานไว้บริเวณลานตรงปากทางเข้าวัด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พระอธิการธราธิป ธีรธมฺโม หรือ "พ่อท่านอี๊ด" เจ้าอาวาสวัดปากแพรก อธิบายว่า พระพุทธรูปสวมหมวกแหนหรือเงยหน้ามองขึ้นด้านบน คือพระมหาอุปคุต หรือพระอุปคุต เป็นการสร้างตามตำนานความเชื่อตั้งแต่โบราณ โดยที่เงยหน้ามองด้านบนเพื่อดูว่าจะได้เวลาฉันภัตตาหารหรือยัง ส่วนที่เห็นว่าสวมหมวกนั้นไม่ใช่หมวก แต่เป็นใบบัวเข็มคลุมอยู่บนพระเศียรคล้ายสวมหมวกนั้นเอง
ส่วนรูปปั้นพระธุดงค์ผมยาวกว่าพระภิกษุทั่ว ๆ ไป เป็นพระพุทธรูปปางธุดงค์ คือพระสีวลี เป็นปางธุดงค์ที่ เมื่อใดที่เห็นรูปปั้นพระธุดงค์ ย่อมเข้าใจได้ในทันทีว่านั่นแหละคือพระสีวลี ปางนี้มีลักษณะเป็นพระยืนหรืออยู่ในท่าเดิน มือขวาถือไม้เท้ายันพื้น มือซ้ายถือกลด สะพายย่าม และ บาตร โดยสิ่งของแต่ละอย่างล้วนมีความหมาย ดังนี้ ไม้เท้า หมายถึง มีผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำชู กลด หมายถึง ความร่มเย็นเป็นสุข บาตร หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ ย่าม หมายถึง ความพรั่งพร้อมด้วยจตุปัจจัย
เจ้าอาวาสวัด ยังกล่าวถึงการสร้างรูปปั้น "ลุงเสมอ คงทอง" คู่กับรูปปั้นพระครูปิยสีลาธิคุณ หรือ "พ่อท่านชัย" อดีตเจ้าอาวาสที่ตรงประตูทางเข้าวัดว่า พระครูปิยสีลาธิคุณ หรือ "พ่อท่านชัย" เป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2555 ซึ่งขณะนั้นพ่อท่านชัย ยังมีชีวิตอยู่ เท่าที่สอบถามพ่อท่านชัย ให้เหตุผลว่า ลุงเสมอ แม้ดูไม่สมประกอบ แต่เป็นคนที่ซื่อสัตย์ ใช้เงินไม่เป็น เก็บเงินเป็นอย่างเดียวคนอย่างนี้จะไม่มีวันยากจน ชาวบ้านจึงเรียกว่า "ลุงรวยเสมอ" โดยอาศัยอยู่ในวัดกับพ่อท่านชัย มาตลอด ปัจจุบันนี้ยังมีชีวิตอยู่ แม้พ่อท่านชัย จะมรณภาพไปแล้วลุงเสมอ ก็ยังอาศัยอยู่ในวัด ช่วยกิจกรรมงานวัดทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งช่วยถือปิ่นโตให้พระที่ออกบิณฑบาตอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนผู้คนใน อ.ปากพนัง และใกล้เคียงรู้จักกันอย่างกว้างขวาง
"ก่อนพ่อท่านชัย มรณภาพ ได้สร้างรูปปั้นของตัวท่านเองคู่กับลุงเสมอ เด็กวัดขนาดเท่าคนจริง ไม่สวมเสื้อ มือขวาถือปิ่นโตและสะพายย่ามที่บ่าด้านซ้าย และยังจัดสร้างเหรียญลุงเสมอแจกจ่ายให้กับญาติโยมอีกด้วย ซึ่งจากการสอบถามพ่อท่านชัย บอกไว้ก่อนท่านมรณภาพว่า ปัจจุบันไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช กลายเป็นกุมารเทพที่โด่งดัง มีประชาชนและนักท่องเทียวจากทั่วทุกสารทิศแห่มากราบไหว้บูชา ทำให้วัดมีรายได้มหาศาล ซึ่งพ่อท่านชัย ท่านเชื่อว่าสักวันหนึ่งลุงเสมอ เด็กวัดปากแพรก จะโด่งดังเหมือนไข่เด็กวัดเจดีย์ จะมีผู้คนเคารพศรัทธาแห่กราบไหว้เหมือนไอ้ไข่ ทำให้วัดมีรายได้ มีปัจจัยนำมาพัฒนาวัดในพระพุทธศาสนาได้ไม่น้อย"
โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับนายเสมอ คงทอง หรือ "ลุงเสมอ" ได้ยินยอมมาถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นของตัวเอง แต่การสื่อสารพูดจาสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ได้แต่ชี้ให้ดูรูปปั้นของตัวเอง และบอกว่ามีบ้านอยู่ไม่ไกลจากวัด มาอยู่วัดกับพ่อท่านขาว พ่อท่านชัย และปัจจุบันยังอาศัยอยู่ในศาลาวัด และออกถือปิ่นโตให้พระบิณฑบาตเหมือนเดิมทุกวัน
สำหรับวัดปากพรกในอดีตเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมของเสนทางมนาคมทางน้ำหรือทางเรือ วัดปากแพรกเจริญรุ่งเรืองที่สุดในช่วงที่พระครูสุกกธรรมวโรภาส หรือพ่อท่านขาวเป็นเจ้าอาวาส โดยสมัยนั้นล่ำลือกันเป็นอย่างมาก ว่าพ่อท่านขาวท่านสามารถรักษาคนบ้า หรือที่คนที่ป่วยทางจิตให้หายขาดได้ ด้วยยาสมุนไพรที่ท่านได้คิดค้นเอง ที่วัดในสมัยนั้นจะมีคนวิกลจริตหรือคนบ้าอยู่เต็มวัดไปหมด เป็นเหมือน รพ.โรคประสาทขนาดใหญ่ แต่เป็นที่น่าแปลกใจที่เหล่าคนบ้าที่มารักษาในวัดปากแพรกไม่เคยทำร้ายพ่อทาขาว หรือหรือทำร้ายชาวบ้านเลย
จนเมื่อพ่อท่านขาวมรณภาพ ความเจริญของวัดปากแพรกช่วงหลังลดน้อยลง เพราะผู้คนในหมู่บ้านหรือชุมชนต่างย้ายออกไปอาศัยและทำงานในตัวเมืองกันหมด ประกอบกับการคมนาคมเดินทางไปทำมาค้าขายของคนในอำเภอต่าง ๆ ต่างนิยมเดินทางโดยเส้นทางการเดินทางทางถนนแทนการคมนาคมทางน้ำหรือทางเรือ จนถึงปัจจุบันพระอธิการธราธิป ธีรธมฺโม หรือ "พ่อท่านอี๊ด" เจ้าอาวาสวัดปากแพรกรูปปัจจุบันได้ร่วมกับพุทธศาสนิกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพัฒนาวัดแพรกเพื่อนำอดีตความยิ่งใหญ่กลับคืนมา จนมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากราบไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และเที่ยวชมทัศนียภาพริมฝั่งคลองมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังมีเป้าหมายที่จัดสร้างตลาดน้ำขนาดใหญ่ในอนาคตอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี