ย้อนรอยอดีตลือลั่น 3 ปี สู่ฝันวันชัยชนะ ทีมแกะสลักหิมะนานาชาติ อาชีวะอุบลฯ ความยากที่แฝงด้วยความท้าทายมีอยู่มากมายบนสนามแข่งขันแกะสลักหิมะ กับคำยืนยันที่ว่า "เด็กอาชีวศึกษาคือฝีมือชน คนสร้างชาติ" อย่างไม่ต้องสงสัย
หากกล่าวถึงทีมแกะสลักหิมะนาชาติที่สร้างปรากฏการณ์ให้คนไทยทั้งประเทศได้จดจำมากที่สุด คงต้องยกให้ทีมแกะสลักหิมะนานาชาติ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ที่สร้างความน่าทึ่งและความประทับใจ ด้วยการคว้าชัยชนะสุดยอด ในรางวัล TOP GRADE AWARDS ทีมที่มีคะแนนรวมสูงสุดจาก 57 ทีม 15 ประเทศทั่วโลก เมื่อปี 2560 ด้วย ผลงาน “Water-Fish-Paddy Field- Rice” หรือ "ในน้ำมีปลาในนามีข้าว" ที่นำแนวคิดหลักที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย เดินตามรอยพระบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ดังเช่นเมื่อครั้งที่พระองค์ได้รับพระราชทานปลานิล 100 ตัว จากสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ซึ่งด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงมีพระราชดำริให้เลี้ยงปลานิลจนกลายเป็นปลาที่คนไทยกว่า 70 ล้านคนได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และเป็นอาหารสำหรับบริโภคในปัจจุบัน
การเข้าร่วมแข่งขันในปี 2560 นั้นนับเป็นปีแรกที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เป็นตัวแทนชาวอีสานและชาวไทยทั้งประเทศ วาดลวดลายงานศิลปะจากการแกะสลักเทียนพรรษาอันเลื่องชื่อ บนก้อนหิมะท่ามกลางความหนาวเหน็บที่อุณหภูมิติดลบถึง 25 องศาเซลเซียส ทำให้ทุกคนต้องต่อสู้กับความหนาวเย็น เกิดการเรียนรู้ ทักษะการดำรงชีวิต ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เสื้อผ้าที่เตรียมสวมใส่แข่งขันก็ต้องจัดหาใหม่ เนื่องจากต้านความหนาวเย็นไม่ไหว อุปกรณ์เครื่องมือแกะสลักที่เตรียมมา ไม่สามารถนำมาใช้ได้ ต้องทิ้งระหว่างทาง เพราะน้ำหนักเกินพิกัดที่ งบประมาณจะจ่ายได้ ทุกช่วงเวลาคือประสบการณ์ชีวิตให้เรียนรู้และแก้ปัญหาต่างๆไปพร้อมๆกัน
แต่แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยพลังกาย พลังใจ และพลังศรัทธาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างหาที่สุดมิได้และเพื่อนำชัยชนะสู่ผืนแผ่นดินไทย แต่แล้วด้วยหัวใจที่กล้าแกร่งของทุกคนในทีม ก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง ด้วยการมอบความสุขและรอยยิ้มให้กับคนไทยทั้งประเทศ ต้อนรับศักราชใหม่ ด้วยรางวัล TOP GRADE AWARDS
งานนี้ต้องยกนิ้วให้ ครูพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ ครูสุระชาติ พละศักดิ์ นำเยาวชนคนสร้างชาติ ได้แก่ นายกฤษณะ คบสหาย นายธนากร ศักดิ์สิงห์ นายอภิสิทธิ์ ศรชัย และนายธนศักดิ์ พิพัฒน์ ทั้งหมดเป็นนักเรียน ปวช.2 สาขาวิชาวิจิตรศิลป์ ภายใต้การประสานงานโดย นางสาวเพ็ญใจ ชัยวงศ์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ผู้นำทีมที่ทุกคนต้องปรบมือให้ ทุกคนในทีมต่างดีใจเป็นที่สุด จนนายกฤษณะ คบสหาย หรือน้องแม็ค หนึ่งในทีมแกะสลัก ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจที่วันนี้ทำสำเร็จแล้วนั่นเอง นับเป็นความภาคภูมิใจ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เดินทางมาแข่งขัน และ นำรางวัลคะแนนสุดยอดฝีมือ ไปฝากคนไทยทั้งประเทศ
จากนั้นในปี 2561 การแข่งขันครั้งที่ 2 ทีมจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี มีพลังกาย พลังใจเต็มเปี่ยมจากปีที่ผ่านมา ทีมแกะสลักหิมะนานาชาติยังคงเป็นชุดเดิม เพิ่มเติมคือผู้นำทีมโดย นางสุวนิจ สุริยพันตรี รองผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ผู้ประสานงาน นำ นายพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ นายสุรชาติ พละศักดิ์ ครูผู้ควบคุมทีมการแข่งขัน พร้อมด้วย นายกฤษณะ คบสหาย นายธนศักดิ์ พิพัฒน์ นายธนากร ศักดิ์สิงห์ และนายอภิสิทธิ์ ศรชัย นักเรียน ปวช.3 สาขาวิจิตรศิลป์ เดินทางเข้าร่วมแข่งขันอีกครั้ง กับ 55 ทีม 12 ประเทศทั่วโลก ด้วยการนำแนวความคิดมาจากป่าหิมพานต์ คติพุทธศาสนาและฮินดู ที่ถือว่าเป็นดินแดนทิพย์ที่มีอยู่จริงในเขตสวรรค์ ชั้น 1 คือชั้นจาตุมหาราชิกาที่ใกล้ชิดกับมนุษย์โลกซึ่งส่งผลต่อคติความเชื่อของคนไทยมาจนถึงปัจจุบันด้วยพลังความศรัทธาเป็นมงคลชีวิตที่ดีงามของสัตว์ป่าหิมพานต์ที่เป็นตัวแทนของบุญวาสนาและความสำเร็จ มาเป็นแนวคิดในการออกแบบ
ในชื่อผลงานที่ว่า "อาชา-ปักษา-มัจฉา-วารี" (Belief… Faith… Miracle)ด้วยการนำ ม้า-นก-ปลาและน้ำ จากป่าหิมพานต์มาแกะสลักลงบนก้อนหิมะทั้งนี้ "นก" หมายถึง ความอิสระของพลังแห่งความคิด การกระทำ มักมีความฉลาดหลักแหลมด้านสติปัญญา และทะยานบินไกลสู่ความสำเร็จ “ปลา” หมายถึง สัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง การมีเงินทองล้นหลาม ความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย มีผลกำไร "น้ำ" หมายถึง ชีวิตแห่งการเริ่มต้นและสิ้นสุดเป็นสัญลักษณ์ถึงความอุดมสมบูรณ์ ความสุข ความชุ่มชื่นเย็นฉ่ำ และเป็นศูนย์รวมของสรรพสิ่งบนโลกใบนี้
แชมป์เก่ายังวาดลวดลายได้สวยงาม สวยสมดีกรีแชมป์ ด้วยการคว้า 2 รางวัลเกียรติยศเป็นของขวัญมาฝากคนไทยได้สำเร็จ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ (First Prize) และรางวัล Best Technique Award (รางวัลทักษะฝีมือใช้เทคนิคการแกะสลักยอดเยี่ยม) สร้างสถิติรักษาแชมป์สมัยที่ 9 ให้กับทีมที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยอย่างน่าชื่นชม จนน้องเก้า อภิสิทธิ์ ศรไชย หนึ่งในทีมเยาวชนที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า "วันนี้ได้ทำสำเร็จแล้วตามที่มุ่งหวัง แต่น่าเสียดายที่เป็นปีสุดท้ายที่ตนและทีมงานทั้งหมดจะสำเร็จการศึกษา กันแล้ว ส่วนปีต่อไปคงต้องให้เป็นหน้าที่ของรุ่นน้องได้รับใช้ชาติ อยากฝากบอกทุกคนว่า วันนี้เด็กอาชีวศึกษาคือฝีมือชน คนสร้างชาติ เป็นคำที่ยืนยันให้เห็นศักยภาพอย่างไม่ต้องสงสัย จากนี้ไปผมและเพื่อนจะได้นำประสบการณ์เหล่านี้ไปพัฒนาด้านวิชาชีพของเองในอนาคต"
ด้วยผลพวงจากความสำเร็จของเยาวชนทั้ง 4 คน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นเบญจมดิเรกคุณาภรณ์ (บ.ภ.) ประจำปี 2560 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2560 ให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์แก่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และประเทศชาติ ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 134 ตอน 48 ข วันที่ 28 กันยายน 2560 พร้อมกับในปีนั้น นาย อภิสิทธิ์ ศรไชย หรือน้องเก้า ได้รับรางวัลอันทรงคุณค่า ที่สร้างเกียรติประวัติให้กับตนเองและครอบครัว ด้วยรางวัลนักเรียนพระราชทาน ระดับอาชีวศึกษาประเภทสถานศึกษาขนาดใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2560 อีกด้วย
มาถึงครั้งที่ 3 คือปี 2562 ปีนี้เป็นปีที่ทีมวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ต้องปรับกระบวนการในการแข่งขันทั้งหมด เนื่องจากผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมดชุดใหม่ทั้งทีม มีครูพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ ครูสุระชาติ พละศักดิ์ ครูผู้ฝึกสอน นำนักเรียน นักศึกษา ได้แก่ นายมินธาดา ปักษาพันธ์ นายธนวัฒน์ สิงหะไชย นายอัฐกร แก้วหาวงค์ และนายธนาวัช ป้องแก้ว เข้าร่วมแข่งขัน นำทีมโดย นายธวัชชัย พันธ์นิกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี พร้อมด้วยนางสาวธนิดา วรรณแก้ว รองผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เดินทางมุ่งสู่เมืองฮาร์บิ้น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง
และครั้งนี้นำผลงานการแกะสลักที่มีความยากมากกว่าทุกๆ ปี รังสรรค์เหตุการณ์ความน่าประทับใจในน้ำใจ มิตรภาพ ของชาวไทยและชาวต่างชาติที่ร่วมแรง ร่วมใจกันจรรโลงโลกใบนี้ให้เกิดความงดงาม ด้วยผลงานที่มีชื่อว่า "มิตรภาพเหนือกาลเวลา" จากเหตุการณ์การหายไปของทีม 13 หมูป่าอะคาเดมี ณ เขตวนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย นำไปสู่การรังสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่า สื่อถึงการมีมนุษยธรรมของชาวโลก ที่มีจิตอาสาช่วยเหลือกันในยามตกทุกข์ได้ยาก
เหตุการณ์ครั้งนั้น ทุกคนทุกหน่วยงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลกต่างร่วมกันช่วยเหลือส่งกำลังใจมายังทีม 13 หมูป่าและคณะทำงานทุกคนให้ปฏิบัติภารกิจอันยากลำบากได้สำเร็จ กลายเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกต้องจดจำ เพราะถูกร้อยเรียงโดยเรื่องราวแห่งมิตรภาพ สายใยแห่งมนุษยชาติ ความสูญเสียที่กลายเป็นพลังผลักดันให้ภารกิจครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จึงเกิดเป็นผลงานที่แสดงถึงความขอบคุณจากหัวใจของชาวไทยสู่ชาวโลก ทำให้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ได้รังสรรค์ผลงานอย่างสุดฝีมือเหมือนเช่นทุกปี ผลงานจากการรังสรรค์ได้รับการยอมรับ สร้างความภาคภูมิใจให้กับนักเรียน นักศึกษา ทีมชุดใหม่ทั้งชุด แต่ลีลาการวาดลวดลายไม่ธรรมดาเลยทีเดียว คว้ารางวัลที่ 2 ในการแข่งขัน จาก 55 ทีมทั่วโลก
แม้จะไม่ใช่รางวัลสุดยอดฝีมือ หรือ รางวัล ที่ 1 จากทีมที่ส่งเข้าแข่งขันทั่วโลก ดั่งที่วันวานเคยทำได้ก็ตาม แต่ครูพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิย์ ก็รู้สึกพอใจกับผลงานที่ทุกคนร่วมกันทำ เพราะเป็นผลงานที่ทำดีที่สุดแล้ว ผลจากการแข่งขันทำให้ยอมรับว่าการออกแบบผลงานเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา ที่มีลักษณะผลงานเป็นตัวหลักสูงขึ้นไป เป็นจุดเด่น และมีตัวรองซ้าย ขวา เด่นรองลงมา คงจะต้องนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการแข่งขันในครั้งนี้มาปรับใช้เพื่อปรับปรุงรูปแบบโครงสร้างต่อไปในอนาคตให้มีความทันสมัย น่าสนใจ มากกว่านี้ในปีต่อไป
ล่าสุดปี 2563 ต้อนรับศักราชใหม่อีกครั้ง เข้าสู่ปีที่ 4 นายพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ หัวหน้าคณะวิชาศิลปกรรม นายสุระชาติ พละศักดิ์ หัวหน้าแผนกวิชาวิจิตรศิลป์ ครูผู้ฝึกสอน นำนักเรียน นักศึกษา ประกอบด้วย นายอัฐกร แก้วหาวงศ์ นักศึกษา ปวส.2 นายพลรบ รูปคม นักศึกษา ปวส.1 นายอนันตชัย วอทอง นักเรียน ปวช.3 และนายอำพล ธรรมทอง นักเรียน ปวช.1 ทั้งหมดเป็นนักเรียน นักศึกษาในสาขาวิชาวิจิตรศิลป์ เข้าร่วมแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ ด้วยนำผลงานที่ชื่อ "พลังแห่งความสามัคคี" "Unity is Strength" ด้วยการจำลองเหตุการณ์ในโลกจินตนาการของกลุ่มสัตว์ที่อยู่ในแดนป่าหิมพานต์ ได้แก่ ไกรสรคชสิงห์ คชสิงห์วารี เหรา สกุณาเหรา โดยมีเค้าโครงเรื่องว่า สัตว์ต่างๆที่อาศัยในป่าหิมพานต์กลุ่มนี้มีสัตว์ตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกลูกศรของนายพรานที่ลอบทำร้าย เพื่อนในกลุ่มที่มีพละกำลังแข็งแรงกว่า ได้เข้าช่วยเหลืออย่างไม่รีรอ ด้วยจิตใต้สำนึกแห่งสัญชาติญาณที่ดี จึงได้บังเกิดความช่วยเหลือขึ้น นับเป็นสิ่งที่ดี และงดงาม ควรค่าอย่างยิ่งที่จะปลูกฝังให้เกิดขึ้นในจิตใจของสังคมมนุษย์โลกในปัจจุบัน อันจะส่งผลให้โลกของเราอยู่อย่างกัลยาณมิตร สงบสุข ร่มเย็น ตลอดไป
ทีมแกะสลักหิมะนานาชาติชุดนี้ มีเพียงนายอัฐกร แก้วหาวงศ์ หรือน้องเกมส์ เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่มีประสบการณ์จากการแข่งขันในปีที่ผ่านมา นอกนั้นคือน้องใหม่ในสนามทั้งหมด โดยเฉพาะนายอำพล ธรรมทอง นักเรียน ปวช.1 แม้จะก้าวสู่การเรียนอาชีวศึกษาได้ไม่นาน ความสามารถก็เหลือล้นจนได้รับคัดเลือกให้ลงสนามแข่งขันระดับนานาชาติแล้ว ด้วยพรสวรรค์ในด้านงานศิลปะ เฉกเช่น นายพลรบ รูปคม และนายอนันตชัย วอทอง ทั้ง 4 คน คือเยาวชนทีมงานคุณภาพที่เคยร่วมงานในทีมมาก่อน ใช้ชื่อว่า "ช่างเทียนมีดคัตเตอร์" ในการแกะสลักต้นเทียนพรรษาเมืองอุบลราชธานีปีที่ผ่านมา ให้กับคุ้มวัดแสนสุข อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มาครอง ประเภท ต้นเทียนขนาดเล็ก ได้สำเร็จ นับเป็นการทำงานในฐานะช่างเทียนเมืองอุบลฯเป็นครั้งแรกของชีวิต
จากแรงบันดาลใจข้างต้น หล่อหลอมให้บังเกิดเป็นชิ้นงานที่นำศิลปะลวดลายไทย อันเป็นความอ่อนช้อยที่งดงาม ผนวกกับเทคนิคและรูปแบบที่มีการออกแบบ ฉีกแนวไปจากทุกปีที่ผ่านมา โดยมีการออกแบบให้ชิ้นงานถูกเจาะทะลวงตรงกลางก้อนหิมะ แต่ยังมีบางส่วนที่เกี่ยวร้อยเชื่อมโยงกันอยู่ เปรียบเสมือนสายสัมพันธ์ พลังแห่งความสามัคคีของการรวมกลุ่มกัน นับเป็นการใช้ฝีมือศิลปะชั้นสูงอีกขั้น ที่จะแตกต่างกว่าที่เคยทำมาก่อน นับเป็นความเสี่ยงมากเช่นกัน ซึ่งต้องใช้ฝีมือ ความแม่นยำ ทักษะขั้นสูง และความระมัดระวังในการเจาะทะลุก้อนหิมะที่สูงถึง 3 เมตร
ครูพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ ตอบอย่างมั่นใจและเชื่อมั่นว่า "เราต้องทำให้ดีที่สุดและให้ได้ตามแผนงานที่วางไว้แน่นอน เพื่อชาวอาชีวศึกษา คนอุบลฯ และคนไทยทั้งประเทศ"
เป็นความมั่นใจเหลือเกินว่า 3 ปีที่ผ่านมา กับประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่ผ่านความหนาวสะท้าน เยือกเย็น จะเก็บเกี่ยวเรื่องราวของการเรียนรู้ เพื่อมุ่งสู่การปรับปรุงแก้ไข ให้เกิดสิ่งใหม่และพัฒนาให้ก้าวสู่ผลสำเร็จ สิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอม ให้ทีมเยาวชนอาชีวศึกษาจากเมืองอุบล ถิ่นไทยดี ครูพิศิษฐ์ อู่ศิริกุลพาณิชย์ และครูสุระชาติ พละศักดิ์ 2 ครูผู้ฝึกสอนอาชีวะเมืองดอกบัว ผู้ที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ แม้ความยากจะปนกับความท้าทายอยู่มากมายบนสนามการแข่งขันหิมะ เราเชื่อมั่นเสมอว่าทีมงานทุกคนต้องทำได้ และทำให้ดีที่สุดเพื่อฝากชื่อเสียงและผลงานอันทรงคุณค่า ประทับใจควรแก่การจดจำอย่างแน่นอน
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ภายใต้การนำของ ดร.พงษ์ศักดิพล ทาแก้ว ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ก็พร้อมแล้วที่จะส่งเสริมสนับสนุน ผลักดันครูและเยาวชนไปสู่ฝั่งฝัน บนทุกเวทีของการแข่งขัน สมดั่งสโลแกนที่ว่า "อาชีวะ ฝีมือชน คนสร้างชาติ" จึงขอแรงเชียร์ แรงใจ จากชาวไทยทุกคน ช่วยคอยลุ้น ติดตามและให้กำลังใจพวกเขาทุกคน ให้นำทีมวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ตัวแทนประเทศไทย สร้างปาฏิหาริย์แห่งความศรัทธา ฝ่าฟันอุปสรรค และนำชัยชนะกลับมาสู่ประเทศไทยให้เลื่องลือระบือไกลอีกครั้งหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี