กรณีมีการเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยป้องกันรักษาป่า ยะลา 3 จำนวน 12 คนโดยอ้างเหตุผลว่าไม่มีงบประมาณที่จะจ้างต่อ แต่กลับพบว่ามีการเปิดรับลูกจ้างใหม่เข้ามาแทนลูกจ้างเดิม จนสร้างความเดือดร้อนให้กับลูกจ้างเก่ากลุ่มดังกล่าวจนกลายเป็นหนี้สินจากการไปกู้ยืมมาเพื่อแลกกับการได้งานหวังจะได้บรรจุเป็นข้าราชการตามที่ได้ตกลงกัน แต่กลับถูกจ้างได้แค่ปีเดียวแล้วถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้กลุ่มลูกจ้างหน่วยป้องกันรักษาป่ายะลา 3 สังกัดป่าไม้นราธิวาสทั้ง 12 คนได้รับความเดือดร้อนจากการตกงานและเป็นหนี้ที่กู้ยืมมาก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันที่ 3 มกราคม 2563 ลูกจ้างทั้ง 12 คนที่เดือดร้อนจากการถูกให้ออกร้องขอความเป็นธรรมผ่านทีมข่าวโดยอ้างว่า ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ดำเนินการตามที่ได้มีการตกลงในเงื่อนไขมาก่อนหน้านี้
นายมูฮัมหมัดซูกิฟลี อาแว อายุ 35 ปี หนึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่ตรวจป่า ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยะลา 3 (เทือกเขาฮาลาบาลา) กล่าวกับทีมข่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 ตนเองถูกหัวหน้าหน่วยฯ มาบอกให้ออกจากงานโดยอ้างว่าไม่มีงบจ้างต่อ แต่หลังจากที่ตนออกแล้วกลับมีลูกจ้างคนใหม่เข้ามาทำงานแทนตำแหน่งเดิมที่ตนเองเคยทำมา ก็เลยเข้าใจทันทีว่านี้คือวิกกฤติการณ์ปกติของกรมป่าไม้ที่มีการคัดคนเก่าออกเพื่อเคลียร์ตำแหน่งให้ว่างแล้วให้คนใหม่เข้ามาพร้อมเงินใต้โต๊ะ
"ผมเองก็เข้ามาไม่ต่างจากคนอื่นๆ ทั่วไปที่มีจำนวนมากในวงการป่าไม้ที่จ่ายเงินเบิกทางเพื่อเข้ามาทำงาน หวังรับราชการตามที่เขามาบอก ผ่านผู้นำในพื้นที่ให้หาคนทำงานจ่าย 150,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) ภายใน 1 ปีจะได้บรรจุข้าราชการ ได้รับเงินเดือน 9,000 บาท (เก้าพันบาท) มีเงินเสี่ยงภัย มีประกันสังคม คิดว่าสบายแล้วเราจะได้รับราชการ อดทนจ่ายหนี้ 3 ปี จากนั้นก็สบาย จะได้อยู่กับครอบครัวได้อยู่บ้านหาที่ไหนอีกแบบนี้"
"ผมจึงตอบตกลงแล้วไปหากู้เงิน 150,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) เจ้าของเงินบอกปลายเดือนของช่วงนั้นจะได้เงินก็เลยแจ้งทางหัวหน้า นัดวันที่จะจ่ายเรียบร้อย แต่อยู่ๆ เขาก็มาบอกว่า ข้างบนต้องการเงินด่วนภายในวันนั้นเพราะมีคนที่ต้องการสมัครเข้าอีกมาก ผมเลยปรึกษาผู้นำเพราะเงินที่ไปกู้มาก็ยังไม่ได้ทุกคนก็พยายามช่วยกันหาเงิน จึงไปยืมเงินนายก อบต. ยืมเงินชาวบ้านจนครบแล้วจ่ายให้ทันที"
นายมูฮัมหมัดซูกิฟลี เล่าต่อว่า "เข้าทำงานวันที่ 5 เมษายน 2561 เดือนแรกได้เงินเดือน 9,000 บาท และไม่มีประกันสังคม ไม่มีค่าเสี่ยงภัยแต่ก็ยังมีความหวัง ทำงาน 1 ปีจะได้บรรจุเป็นข้าราชการ จึงอดทนมาตลอดได้เงินเดือน 9,000 บาท ส่วน 5,000 บาทเป็นค่าจ่ายหนี้เหลืออยู่ 4,000 บาทใช้จ่ายในบ้าน แต่ละเดือนโชคดีที่แฟน (ภรรยา) ขายลูกชิ้นเป็นรายได้เสริม เรามีลูกสองคนแฟนรับผิดชอบค่าใช้จ่าย จนยืดมาได้ปีกว่าจนกระทั่งเขาบอกให้ออก"
"เขาอ้างว่างบประมาณไม่พอ แต่ก็มีคนใหม่มาทำงานแทนที่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำอะไร หนี้ 5,000 บาทที่ต้องจ่ายทุกเดือนจากกู้ยืมก็ยังไม่จ่าย พวกเราทำงานจนถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2562 เงินเดือนสุดท้ายก็ยังไม่ออก เครียดไม่รู้จะทำยังไง เพื่อนที่ถูกให้ออกทั้งหมด 12 คน พวกเราก็ร่วมกันไปร้องเรียนที่ ศอ.บต., ปปช., กอ.รมน.4 แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า เรื่องกลับเงียบ ตอนนี้พวกเราอยากได้รับความเป็นธรรมและไม่อยากให้คนอื่นๆ ที่ยังไม่รู้ที่จะเข้ามาทำงานในสายงานนี้จะได้รู้ว่า วิธีการของเขา ทำการแบบนี้เป็นปกติ" นายมูฮัมหมัดซูกิฟลีกล่าว
ต่อมาทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับคนที่จ่ายเงิน 180,000 บาทเพื่อแลกกับการเข้ามาทำงานของลูกจ้างทั้ง 12 คน ซึ่งพวกเขาเล่าให้ฟังว่า หน่วยบอกว่าจะได้บรรจุภายใน 3 เดือน พวกเขารู้เรื่องของพวกเราเขาก็เครียด วงการนี้มีการจ่ายเงินมานานอย่างต่อเนื่องเริ่มจากจ่าย 70,000 บาท จนถึงตอนนี้ขึ้นมาเป็น 180,000 บาทแล้วต่อไปข้างหน้าอาจต้องมีคนจ่ายถึง 2 แสนบาท
"ใน 12 คนที่ถูกให้ออกในชุดนี้ก็มีคนที่เข้ามาแบบไม่ได้จ่ายเงินใต้ตก และทำงานมานาน 7-10 ปีก็มี แต่ที่เข้าทำงานในช่วงหลังๆ นี้ถือว่าเกิดกันทุกปีเอาคนเก่าออกคนใหม่เข้า ชาวบ้านในพื้นที่ถูกรังแกจากภาครัฐมาตลอดคือการสร้างเงื่อนไขจากรัฐ พวกเราจึงอยากให้ผู้มีอำนาจที่ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้องขอให้หยุดและให้ความเป็นธรรมกับพวกผมด้วย"
ส่วนกรณีที่จะส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ทำตัวไม่ดีจากที่อื่นเข้ามาในพื้นที่นั้น พวกเขากล่าวว่า "ขอให้หยุดส่งมา ทั้งนี้เพื่อระงับการสร้างเงื่อนไขให้คนพื้นที่ ขนาดคนที่อยู่ในพื้นที่มาแล้วยังทำแบบนี้แล้วคนที่ไม่ดีจากที่อื่นส่งมาที่นี่ปัญหาที่นี่จะไม่ยิ่งกว่าอีกหรือก็อยากฝากเสียงเล็ก ๆ นี้ส่งถึงอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย"
นายลุธมาน ยีเร็ง อายุ 36 ปี หนึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่ตรวจป่า ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยะลา 3 (ลำพยา) กล่าวว่า ตนนี้เข่าทรุดลงเลย ตอนกลางคืนเข้าเวรปกติพอตอนเช้าเขาบอกว่า "ให้หยุดทำงานก่อน" เพราะหน่วยไม่มีเงินจ้างต่อ แล้วพูดว่าพวกเธอมีบทบาทเยอะเกินไปด้วย ตนรู้ทันทีว่า ตนคือหนึ่งในคนที่จะต้องออกเพราะเขาต้องทำให้ตำแหน่งว่างเพื่อเอาคนใหม่เข้ามา ตนเข้ามาทำงานเกือบ 10 ปีไม่ได้จ่ายเงิน แต่ทุก ๆ ปีก็จะเห็นวงจรนี้เกิดขึ้นมาตลอด แค่รอดูว่าวันไหนเป็นวันของเราแล้ววันนั้นมันก็มาถึงแล้วจริง ๆ
"ตอนนี้ผมไม่มีงานทำภรรยาลูกอ่อน 18 วันเพิ่งคลอด คนโตอายุ 5 ปี คนกลางอายุ 1 ปี มันโหดร้ายมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเครียดจนร้องไห้ มองหน้าลูกมองหน้าภรรยาร้องไห้เลยร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่ต้องเจออยากขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี จากอธิบดีกรมป่าไม้ให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย พวกเราตั้งใจทำงานแต่หัวหน้าหน่วยกลับมาบอกว่าเรามีบทบาทเยอะเกินไปหน่วยไม่มีเงินจ้าง แต่ทำไมกลับรับคนใหม่มาทำงานได้ แต่ให้เราออกมันไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยแบบนี้ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยพวกเราด้วย ขอให้สื่อมวลชนช่วยพวกเราด้วยส่งข้อมูลนี้ให้อธิบดีกรมป่าไม้ได้เข้ามาให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย" นายลุธมาน กล่าว
ด้านนายสนั่น สนธิเมือง ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบายสังคมจิตวิทยา ศอ.บต. บอกว่า ได้รับทราบหนังร้องเรียนดังกล่าวและส่งให้เลขา ศอ.บต.เซ็นรับทราบเช่นกัน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของต้นสังกัดหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส
"ได้ดำเนินการสอบสวนลูกจ้างผู้เสียหายทั้ง 12 คนพร้อมได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาสแล้ว เพื่อให้ทางต้นสังกัดได้ชี้แจงความจริง เพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทราบเรื่องอย่างไรทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้จะดำเนินการตามความเป็นจริงและดำเนินตามขั้นตอนต่อไป" นายสนั่น กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี