“วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” ตั้งอยู่ในตำบลรั้วใหญ่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองมีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปี เป็นต้นกำเนิดของพระเครื่องหนึ่งใน “เบญจภาคี” ซึ่งวัดแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมาก เพราะมีชื่อเสียงด้านพระเครื่อง เนื่องจากที่นี่จะมีวิหารพระผงสุพรรณ

เนื่องจากว่าพระปรางค์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุมีการค้นพบพระเครื่องเป็นจำนวนมาก อาทิ พระผงสุพรรณ เนื้อดินโดยจำแนกเป็น 3 พิมพ์ คือ พิมพ์หน้าแก่ พิมพ์หน้ากลาง พิมพ์หน้าหนุ่ม และพระมเหศวรเนื้อชิ้นเงิน พระพิมพ์สุพรรณยอดโถเนื้อชินเงิน พระขุนแผน พระสุพรรณหลังพระ พระปทุมมาศ และพิมพ์ต่างๆ อีกมากมาย ทั้งเนื้อดินและเนื้อเงิน

ตามประวัติมีพระฤาษี 4 ตน เป็นประธานผู้สร้างโดยมีพระฤาษีภรตมุณี (พ่อแก่) เป็นประธาน 1 พระฤาษีพิลาลัย 2 พระฤาษีตาไฟ 3 พระฤาษีตาวัว 4 และมีพระฤาษีอีก 11 ตน เป็นผู้สร้างโดยมีพระมหาเภรปิยะทัสสะสึศรีสาลีบุตรเป็นองค์ประธานพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อทำถวายแก่พระพระยาศรีธรรมาโศกราชเพื่อบรรจุในพระปรางค์วัดพระศรีมหารัตนมหาธาตุ เพื่อเป็นการบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยอัญเชิญเทพยตามาช่วยกันทำพิธีปลุกเสกด้วยมนต์คาถาครบ 3 เดือน พระพุทธคุณจะเป็นไปในทางเมตตามหานิยมป้องกันอันตรายทั้งปวง

ทั้งนี้ เมื่อเข้ามาภายในวัดสิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ เข้าไปกราบไหว้ขอพรพระผงสุพรรณภายในวิหาร ซึ่งมีการจำลององค์พระผงสุพรรณ และพระมเหศวรองค์ใหญ่มาประดิษฐานภายในวิหาร เพื่อให้นักท่องเที่ยว และประชาชนได้ปิดทอง กราบไว้บูชา บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบเหมาะสมหรับคนที่อยากจะไปสงบจิตใจ และไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล

เมื่อเดินออกมาจากวิหารซ้ายมือก็จะเป็นพระปรางค์ที่เป็นที่มาว่าพระเครื่องต่างๆ อยู่ในกรุภายในพระปรางค์ ซึ่งด้านในจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ และด้านหลังของพระพุทธรูปจะมีเจดีย์ครอบทับกรุไว้อีกที โดยข้างในจะเป็นช่องลึกลงไปถึงพื้นดิน เรื่องราวต่างๆ ถูกบันทึกไว้ในรัชกาลที่ 6 พ.ศ. 2456 เกิดมีการลักลอบขโมยวัตถุมงคล หรือที่หลายคนเรียกว่า “กรุแตก” ที่ปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุนั้นเอง และมีการค้นพ้นแผ่นทองจารึก 4 แผ่น สันนิฐานว่าอยู่ในอยุธยาตอนต้นเลยก็ว่าได้ หากเดินย้อนมาทางด้านหน้าวัดก็จะมีพระนอนองค์ขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่สามารถเข้าไปกราบไหว้ได้เช่นกัน