กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มร่วมกันหาออกฟื้นฟูการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหลังกรมป่าไม้เข้าไปจัดระเบียบ ทำให้รีสอร์ทเกือบทั้งหมดปิดให้บริการ
สำหรับพื้นที่ม่อนแจ่มนั้นปัจจุบันมีผู้ประกอบการรีสอร์ท ทั้งหมด 116 หลัง มีบ้านพัก 500 กว่าหลัง เต็นท์ที่พัก 1,000 กว่าหลัง หลังกรมป่าไม้จัดระเบียบทำให้มี ผู้ประกอบการที่รุกล้ำพื้นที่ป่าถูกดำเนินคดีไป 27 ราย ซึ่งขณะนี้ทางกรมป่าไม้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และให้มีคำสั่งให้บางรีสอร์ทรื้อถอนบ้านพักที่รุกล้ำพื้นที่ป่าออก ขณะที่ทางอำเภอแม่ริมได้ออกหนังสือให้ผู้ประกอบการทุกรายยุติการเปิดให้บริการเนื่องจากไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ
ขณะที่ๆพักบนดอยม่อนแจ่มต่างพากันปิดให้บริการ ล่าสุดวันนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มเสวนาหาทางออก "แนะนำการท่องเที่ยวและร่วมอนุรักษ์ม่อนแจ่ม" ขึ้นเพื่อหาทางออกและแนวทางแก้ปัญหาให้เพื่อคงไว้ซึ่งการเป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการดูแลผืนป่าพร้อมวอนหน่วยงานภาครัฐลงพื้นที่เร่งแก้ปัญหาให้ความรู้การช่วยเหลือกับชาวบ้านผู้ประกอบการควบคู่กันไปเพื่อให้ชาวบ้านที่นี้มีรายได้เหมือนเดิม
นายวิชิต เมธาอนันต์กุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม เปิดเผยว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม จัดตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการกระจายรายได้ให้ชาวบ้านทุกกลุ่มได้รับผลประโยชน์ สนับสนุนสิ่งแวดล้อม การปลูกป่า การทำแนวกันไฟ และสร้างจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมให้รณรงค์ลดใช้สารเคมี ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับม่อนแจ่ม ร้อยละ 20 นอกจากนี้ยังได้เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนซึ่งม่อนแจ่มถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงใหม่และของประเทศไทยเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีคนไทยร้อยละ 70 ต่างชาติร้อยละ 30
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าขณะนี้ม่อนแจ่มยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าแต่ระยะยาวจะสามารถแก้ปัญหาร่วมกันได้ซึ่งการจัดระเบียบร่วมกันระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่มีความจำเป้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาและส่งเสริมสนับสนุนให้การท่องเที่ยวของม่อนแจ่มเติบโตขึ้นอย่างมีทิศทางไปพร้อมกับการอนุรักษ์และปฏิบัติให้ถูกต้องกฏหมาย และเบียบต่างๆที่มีอยู่ทั้งนี้เพื่อให้ม่อนแจ่มสามารถเติบโตได้อย่างมีเป้าหมายและยั่งยืน
ด้านนายเอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้นำชุมชน และผู้ประกอบการม่อนวิวงามบอกว่า ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวในพื้นที่ม่อนแจ่มนั้นส่งผลดีต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ปัญหาด้านยาเสพติดแทบไม่มี ปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นทั้งการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อสร้างแรงกดดันต่างๆให้กับชาวบ้านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่การโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งชาวบ้านก็ปฏิบัติตามจนสามารถประกอบเป็นอาชีพหลักได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาม่อนแจ่มได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในด้านต่างๆ ทั้งการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ การปรับปรุงที่พักให้ถูกหลักอนามัย การดูแลรักษาป่า การกำจัดขยะอย่างถูกต้องรวมถึงการดูแลระวังไฟป่า เป็นต้น โดยชาวม่อนแจ่มทุกคนมีความคาดหวังว่าจะได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ให้คำร่วมแนะนำและปรับปรุงรักษาม่อนแจ่มร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้วิถีชีวิต การท่องเที่ยว และการอนุรักษ์ ควบคู่กันไป
สำหรับพื้นที่ม่อนแจ่มนั้นปัจจุบันมีผู้ประกอบการรีสอร์ททั้งหมด 116 หลังมีบ้านพัก 500 กว่าหลัง เต็นท์ที่พัก 1,000 กว่าหลัง หลังกรมป่าไม้จัดระเบียบทำให้มีผู้ประกอบการที่รุกล้ำพื้นที่ป่าถูกดำเนินคดีไป 27 ราย ซึ่งขณะนี้ทางกรมป่าไม้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบพื้นที่และให้มีคำสั่งให้บางรีสอร์ทรื้อถอนบ้านพักที่รุกล้ำพื้นที่ป่าออก ขณะที่ทางอำเภอแม่ริม ได้ออกหนังสือให้ผู้ประกอบการทุกรายยุติการเปิดให้บริการเนื่องจากไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี