ความเชื่อความศรัทธา "หลวงพ่อผอม" พระพุทธรูปทองสำริด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจชาวบ้านในตำบลสายทองและใกล้เคียงมากว่า 100 ปีเคยถูกขโมยไปชาวบ้านออกติดตามพบทองปลิวลอยมาจากบ่อน้ำตามหาเจอ
วันที่ 5 มี.ค.63 ที่บริเวณศาลาหลวงพ่อผอม หมู่ที่ 4 ต.สายทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ชาวบ้านที่มีความเชื่อความศรัทธาจะมาบนบานศาลกล่าวขอพร "หลวงพ่อผอม" พระพุทธรูปทองสำริด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปางทรมานกายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ชาวบ้านในตำบลสายทองและใกล้เคียงมานานกว่า 100 ปี หลังประสบความสำเร็จได้ดังใจหวังก็นำสิ่งของมาแก้บน อาทิ กลองยาว ละครชาตรี หัวหมู ไข่ต้ม พวงมาลัย
โดยเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา หลวงพ่อผอม เนื้อทองสัมฤทธิ์หน้าตักกว้าง 1 ศอก 1 คืบที่ประดิษฐานอยู่ที่บริเวณศาลาไม้เก่าบริเวณแห่งนี้เคยถูกขโมยลักไป ซุกซ่อนอยู่ในบ่อน้ำแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้แสดงปฏิหาริย์เมื่อชาวบ้านในตำบลสายทอง ได้ออกตามหาผ่านไปยังพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีแผ่นทองเปลวที่ปิดองค์หลวงพ่อผอมปลิวออกมาติดตามตัวชาวบ้านที่ตามหาและได้เดินไปยังทุ่งนาทางทิศที่มาของทองคำเปลว พบว่าเป็นบ่อน้ำจึงได้ลงไปงบก็พบหลวงพ่อผอม และนำมากราบไหว้บูชาจนถึงปัจจุบัน
นายประทีป แก้วมณี กำนันตำบลสายทอง เล่าความเป็นมาว่า "หลวงพ่อผอม" มีจารึกอยู่บนแผ่นสัมฤทธิ์ที่ติดอยู่ในศาลาความว่า "เจ้าพนักงานตรวจโบราณคดีของรัฐบาลอินเดียส่งพระพุทธรูปปางบำเพ็ญเพียรหาโมกขธรรมกระทำทุกกรกิริยา หล่อด้วยปูนปลาสเตอร์ปิดทองคำเปลวมาให้เป็นของที่ระลึกสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพในรัชกาลที่ 5" พระผอมองค์จริงเป็น "ศิลา" ประดิษฐานไว้ในพิพิธภัณฑ์สถานที่เมืองละออ ช่างโยนกสร้างไว้เมื่อราว พ.ศ.900
พระผอมจำลองประดิษฐานไว้ในพระราชวังให้คนกราบไหว้บูชา 3 วัน ช่างคนไทยขออนุญาตหล่อจำลองพระผอมด้วยทองสัมฤทธิ์หน้าตักกว้าง 1 ศอก 1 คืบเพื่อนำไปกราบไหว้บูชา กลุ่มบุคคลตำบลสายทองเดินทางไปอัญเชิญพระผอม จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาประดิษฐานไว้ที่ตำบลสายทอง ขุนพน ภักดี โพธิ์สุวรรณ ได้สร้างศาลา (ไม้) เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อผอม
ต่อมาปี พ.ศ. 2516 หลวงพ่อผอม ได้ถูกขโมยไปจากศาลา ประชาชนได้ออกติดตามค้นหา พบหลวงพ่อผอมถูกซุกซ่อนไว้ในบ่อน้ำ ริมถนนสายป่าโมก-อยุธยา เขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้อัญเชิญหลวงพ่อผอมประดิษฐานไว้บนศาลาหลังเดิม ประชาชนได้ร่วมกันสร้างศาลา (ไม้) หลังใหม่และอัญเชิญหลวงพ่อผอมประดิษฐานบนศาลาหลังใหม่ ปี พ.ศ.2535 จากนั้นเริ่มก่อสร้างศาลาหลังใหม่และมณฑปเมื่อปี พ.ศ. 2540 และปี พ.ศ.2542 ประชาชนร่วมกันบริจาคเงินซื้อที่ดินถวายเป็นทรัพย์สินของหลวงพ่อผอมเนื้อที่ดิน 3 งาน 55 ตารางวา