บ่อยครั้งเราจะเห็นว่า ไม่ว่าจะงานไหนๆวันสำคัญอะไรหรือวันธรรมดาๆ วันหนึ่ง ก็จะมีกลุ่มอาสาแบกเปลนอน เข็มถุงเลือด และขนมนมเนยไปเปิดพื้นที่รับบริจาคเลือดจากประชาชนคนใจดีบริเวณนั้น ใครจะเชื่อว่าขนาดเปิดรับบริจาคมากมายขนาดนี้ แต่เลือดในคลังของสภากาชาดไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
โดยหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการรวบรวมโลหิตเพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลต่างๆ คือ “สภากาชาดไทย” เดิมชื่อว่า “สภาอุณาโลมแดง” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) เกิดขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) นำโดย ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ภริยาเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) และได้นำความกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) ขอให้ทรงเป็นชนนีบำรุง คือ เป็นองค์อุปถัมภ์ในการจัดตั้งองค์การ เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของทหารซึ่งขณะนั้นเกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศสเกี่ยวกับเขตแดนริมฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและมีการสู้รบเกิดขึ้น ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยชื่อสภาอุณาโลมแดง และสภากาชาดนี้ เรียกปะปนกันตลอดมา แต่เมื่อ พ.ศ. 2453 ชื่อ “สภาอุณาโลมแดง”ก็สูญไป คงใช้กันแต่ “สภากาชาดสยาม” หรือ “สภากาชาดไทย” จนปัจจุบัน
ทาง “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์”ได้สัมภาษณ์ความคิดเห็น นางสาวลิตา จันทร์วราภา หรือ “อิงแลนด์” สาวสวยคณะศิลปะศาสตร์ (BEC) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง “ทูตกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” โดยเธอบอกว่า สภากาชาดไทยมีพันธกิจหลักอยู่ 4 ด้าน หนึ่งในนั้นคือการบริการโลหิต ที่เปิดรับโลหิตจากผู้สมัครใจบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยเหลือบุคคลที่มีความจำเป็นต้องใช้โลหิต โดยร้อยละ 77 ของโลหิตที่ได้รับจากการบริจาคจะถูกนำไปใช้เพื่อทดแทนโลหิตที่สูญเสียไปในภาวะต่างๆ อาทิ อุบัติเหตุ การผ่าตัด โรคกระเพาะอาหาร การคลอดบุตร และอื่นๆ
ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 23 เป็นการนำโลหิตไปใช้เฉพาะโรคเลือด อาทิ โรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย เกล็ดโลหิตต่ำ ฮีโมฟีเลีย เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบเลือดจึงจำเป็นต้องให้เลือดเพื่อมีชีวิตต่อไปได้ เพราะทางศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ยังไม่สามารถหาสารประกอบใดๆ ที่สามารถนำมาใช้ทดแทนโลหิตได้ ทำให้คลังเลือดขาดแคลนจนถึงปัจจุบัน
ปริมาณเลือดในคลังจากเว็บไซต์ของศูนย์บริจาคโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยล่าสุด ระบุว่า ต่อเดือนมีผู้ต้องการใช้โลหิตไม่ต่ำกว่า 57,116 ยูนิต ซึ่งประกอบด้วย หมู่โลหิตเอ (A) ต้องการในปริมาณ 11,400 ยูนิตต่อเดือน แต่ขณะนี้ได้รับมาเพียง 9,852 ยูนิต ยังคงต้องการ 1,144 ยูนิต , หมู่โลหิตบี (B) ต้องการ 16,500 ยูนิตต่อเดือน ได้รับมาเพียง 15,010 ยูนิต ยังคงต้องการ 1,490 ยูนิต , หมู่โลหิตโอ (O) ต้องการ 22,000 ยูนิตต่อเดือน ได้รับมา 16,603 ยูนิต ยังคงต้องการ 5,397 ยูนิต , หมู่โลหิตเอบี (AB) ต้องการ 5,500 ยูนิตต่อเดือน ได้รับมา 3,323 ยูนิต ยังคงต้องการ 2,177 ยูนิต
และหมู่เลือดพิเศษที่เป็น Rh negative (อาร์เอชลบ) ซึ่งหมู่เลือดพิเศษเหล่านี้ยังไม่มีการบันทึกว่าได้มีการรับบริจาคเข้ามา ซึ่งหมู่โลหิต A Rh – (เออาร์เอชลบ) ต้องการ 91 ยูนิต , B Rh – (บีอาร์เอชลบ) ต้องการ 5 ยูนิต , O Rh- (โออาร์เอชลบ) ต้องการ 94 ยูนิต และ AB Rh – (เอบีอาร์เอชลบ) ต้องการ 7 ยูนิต
“การที่ตนตัดสินใจมาเป็นทูตกิจกรรมฯ เนื่องจากต้องการช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเรื่องของการรับบริจาคโลหิต ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทางทูตกิจกรรมฯ จัดขึ้น คือกิจกรรม “เลือดไม่แบ่งสี” ที่จัดขึ้นไปแล้วก่อนวันงานฟุตบอลประเพณีฯ โดยจัดร่วมกับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการเปิดรับบริจาคโลหิตจากประชาชน โดยรวบรวมเลือดที่ได้รับบริจาคส่งต่อให้กับสภากาชาดไทย เพื่อประโยชน์ในการนำไปช่วยเหลือคนอื่นๆ ต่อไป”
นางสาวลิตา กล่าวต่อไปว่า คนในสังคมไทยอาจจะคิดว่าการบริจาคเลือดมีอยู่เป็นประจำ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร แต่อยากให้มองจุดนี้ว่า ที่จริงแล้วสภากาชาดไทยยังคงขาดแคลนเลือดประมาณครึ่งต่อครึ่งของปริมาณที่ต้องการใช้ ซึ่งเราสามารถดูปริมาณเลือดที่สภากาชาดต้องการได้ที่เว็บไซต์ของทางสภากาชาดไทย โดยจะบอกว่าต่อเดือนต้องการหมู่เลือดใด เท่าไหร่ ในขณะวันนั้นได้รับบริจาคไปแล้วเท่าไหร่ และยังขาดอีกเท่าไหร่
“ซึ่งการบริจาคเลือดเป็นเรื่องที่เร่งด่วนและใครที่คิดว่าอยากบริจาคให้เดินออกไปบริจาคตอนนั้นเลย อย่าคิดว่าพรุ่งนี้หรือเดี๋ยวค่อยไป เพราะมีคนต้องการเลือดจริงๆ อยากให้ทุกคนในสังคมไทยหันมาสนใจว่าในสังคมไทยของเราขาดแคลนเลือดอยู่ เราไม่ควรคิดว่า ไม่บริจาคก็ได้ เพราะเห็นว่าคนบริจาคเยอะอยู่แล้ว หรือคิดว่างานนู้นงานนี้ก็มีคนมาโฆษณาให้ไปร่วมกันบริจาคเลือดน่าจะมีคนบริจาคเยอะ” นางสาวลิตา กล่าวเสริม
สุดท้ายนี้ นางสาวลิตา อยากเชิญชวนให้ทุกคนไปบริจาคโลหิตกันเยอะๆ ซึ่งเราอาจจะไปตามสถานบริการรับบริจาคโลหิตตามศูนย์สภากาชาดไทย หรือสถานบริการโลหิตเคลื่อนที่ ที่มักไปตั้งตามจุดต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ,สถานที่ส่วนราชการ โดยผู้ที่ต้องการบริจาคเลือดควรเตรียมร่างกายให้พร้อมตามเงื่อนไขการรับบริจาค และอย่ารอที่จะออกไปให้เลือด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญผู้ป่วยไม่สามารถรอได้ อีกทั้งการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นกุศลใหญ่ที่ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี