สัตวแพทย์ล้างทำแผลเจ้า "บ้านคา" หมีน้อยวัย 5 เดือนหลังพลัดหลงแม่วิ่งหนีไฟป่าจากอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อ.บ้านคา จ.ราชบุรี จนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดอาการดีขึ้นและยังน่ารักน่าเอ็นดูที่ได้คอยนั่งดูดนมเหมือนอยู่ในอกแม่ หลังหายปกติเตรียมแผนปล่อยคืนถิ่น
วันที่ 12 มี.ค.63 ที่คลินิกสัตว์ป่าเขาประทับช้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นที่อยู่ชั่วคราวของ "เจ้าบ้านคา" ลูกหมีหมาเพศเมียวัย 4 - 5 เดือนที่ได้พลัดหลงจากอกแม่วิ่งหนีตายออกมาจากป่าเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เมื่อ 2 วันก่อนนั้นโดยสัตวแพทย์พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมารักษาบาดแผลที่ข้อเท้าหน้าข้างขวา ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งหนีไฟป่าออกมาจากพื้นที่ โดยครั้งแรกที่มาที่ข้อเท้าหน้าข้างขวามีลักษณะบวมอักเสบ มีหนอนอยู่ข้างใน และลูกหมีหมายังอยู่ในอาการตื่นกลัว ยืนเหยียดขาไม่เต็มที่ แต่หลังจากให้ยารักษาแล้วเริ่มมีอาการดีขึ้น
นายสัตวแพทย์อนุรักษ์ สกุลพงษ์ สัตว์แพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) อ.จอมบึง เปิดเผยการดูแลว่า ช่วงแรกที่รับเข้ามาดูแลนั้นจะมีอาการตื่นกลัวตกใจและมีบาดแผลบริเวณข้อมือขวาด้านหน้า ลักษณะคล้ายมีบางอย่างตำเข้าไปข้างใน จนทะลุไปถึง 2 ข้าง ห่างกันประมาณ 5 ซม. บาดแผลทางรูเข้าไปห่างประมาณ 2 ซม. ลึกเข้าไปประมาณ 1 ซม. และยังมีหนอนอยู่ข้างในข้อมือขวามีกลิ่นเหม็น ช่วงนี้ได้ล้างแผลทุกวันเพื่อฆ่าเชื้อด้วยเบตาดีน ป้ายเจลฆ่าเชื้อพร้อมกับพันบาดแผลไว้
พร้อมกับฉีดยาปฏิชีวนะกับยาลดอักเสบเช้าและเย็น ภาพรวมตอนนี้แผลดีขึ้นมาก ลูกหมียังกินนมเก่งด้วย จะป้อนนมวันละ 6 ครั้ง ห่างกันทุก 2 ชั่วโมง เพราะยังไม่อดนม ยังเล็กมีอายุวัยประมาณ 4-5 เดือน ตามปกติจะเลิกกินนมแม่ประมาณ 7-8 เดือน พอฟันเริ่มขึ้นแล้วพอกินนมแม่ก็จะถูกนม แม่ก็จะดุไม่กล้าที่จะกินอีกต่อไป จากนั้นลูกหมีหมาก็จะเริ่มหันไปกินผลไม้อื่นๆแทน คาดว่าน่าจะหนีไฟป่าที่ไล่ตามหลังมาอย่างรวดเร็ว ทำให้พลัดพรากจากแม่ไปอยู่คนละทิศคนละทาง
นายตรศักดิ์ นิภานันท์ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) เปิดเผยว่า หลังจากที่ลูกหมีหมาหายเป็นปกติแล้วคงต้องอนุบาลให้มีสุขภาพดี แข็งแรงก่อน จากนั้นจึงจะทำโครงการเสนอกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่งกลับคืนถิ่นป่าธรรมชาติที่เคยมา คาดว่าน่าจะใช้เวลานาน เพราะว่าจะต้องนำไปฝึกอีกประมาณ 6 เดือน เพื่อสร้างการเรียนรู้และความเคยชินที่จะต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในผืนป่า
ซึ่งที่เขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชียังคงพบเห็นหมีหมาอาศัยอยู่ เป็นแหล่งกระจายพันธุ์ตั้งแต่พื้นที่ป่าทางภาคใต้ขึ้นมาจนถึงผืนป่าห้วยขาแข้งบริเวณทุ่งใหญ่ตะวันตกและทุ่งใหญ่ตะวันออกเป็นแหล่งกระจายพันธุ์ของสัตว์ชนิดนี้ สำหรับหมีหมาตามหลักสากลระดับโลกก็มีความสำคัญเพราะถูกคุกคามมาก ซึ่งในประเทศไทยมีการปกป้องที่ดีทำให้มีประชากรหมีหมาหลงเหลืออยู่
ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการล้างแผลเสร็จแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำนมจืดใส่ขวดนำมาป้อนให้กับลูกหมีหมา มีการตั้งชื่อแล้วว่า "เจ้าบ้านคา" ชาวบ้านที่ไปพบในจุดบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยมะกรูด เขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน อ.บ้านคา จึงได้นำชื่ออำเภอบ้านคา มาใช้ในการตั้งชื่อแทน เพื่อเป็นที่ระลึกของการรอดชีวิตจากเหตุไฟป่ามาได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งก็พบว่าอาการเริ่มดีขึ้น แต่ยังเดินไม่ค่อยปกติ เท้ายังยันกับพื้นไม่เต็มที่ เวลาหิวก็จะเดินตามคนไปมาอยู่ใกล้ๆ ไม่ยอมห่าง
"พอเอาขวดนมป้อนก็จะดูดจ๊วบ ๆ ขาอีกข้างเกาะมือของคนป้อนไว้กินจนหมดขวด คล้ายเหมือนกับได้ดูดนมจากอกแม่ สายตาก็ออกจะเศร้าๆ แต่ก็มีอาการร่าเริงเมื่อมีคนมาเล่นด้วยเป็นช่วงๆ โดยเจ้าหน้าที่จะเอาน้ำผึ้งเทราดผลไม้ เช่น กล้วยน้ำว้า เพื่อดึงดูดความสนใจและจะฝึกให้หันมาทดลองกินผลไม้แทนนมเป็นอาหารว่าง แต่ดูท่าทางก็ไม่ค่อยจะสนใจ ชอบแต่ดูดนมขวดอย่างเดียวและยังชอบคลุกคลี เกาะขาเจ้าหน้าที่อยู่ไม่ห่าง เวลารู้สึกหิวนมก็จะไปตะกายขาพร้อมกับส่งเสียงร้องอือๆๆๆ เป็นการส่งสัญญาณอาการให้รู้ว่าจะต้องเอาขวดนมมาให้ดูดกินแล้ว ถือเป็นภาพที่น่ารัก น่าเอ็นดู ที่ไม่ค่อยจะพบเห็นได้บ่อยนัก"
สำหรับผู้สนใจอยากจะสนับสนุนด้านเวชภัณฑ์ยารักษาโรค หรือนมจืด สามารถเดินทางไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) อ.จอมบึง ได้ตลอดในเวลาราชการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี