จักษุแพทย์โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ไขข้อข้องใจ โรคโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านทางดวงตาได้หรือไม่?
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันกำลังมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ไปทุกทวีปทั่วโลก จึงขอให้ประชาชนและผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เท่านั้น อนึ่ง ประเทศไทยกำลังเผชิญภัยคุกคามทางสาธารณสุขครั้งใหญ่ในขณะนี้จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ภาครัฐได้บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนในการคัดกรอง เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอย่างเข้มข้น จึงขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่น
แพทย์หญิงสายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้มีอาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ มีการศึกษาวิจัยในประเทศจีน พบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 จะมีอาการตาแดงร่วมด้วยประมาณ 0.8 % เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานการตรวจพบเชื้อไวรัสนี้ในน้ำตาและสารคัดหลั่งเยื่อบุตาอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้โดยได้รับสารคัดหลั่งเช่นน้ำมูก น้ำลายที่มีเชื้อโรคผ่านทางระบบทางเดินหายใจจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้
มีคำถามที่ประชาชนให้ความสนใจว่า “แล้วไวรัสชนิดนี้จะติดต่อทางตาได้หรือไม่” แพทย์หญิงดวงดาว ทัศณรงค์ จักษุแพทย์เชี่ยวชาญโรงพยาบาลเมตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวชี้แจ้งว่า เนื่องจากดวงตามีทางติดต่อกับโพรงจมูกโดยมีการระบายน้ำตาและสารคัดหลั่งเยื่อบุตาผ่านท่อระบายน้ำตาเข้าสู่โพรงจมูก ดังนั้น ถ้าได้รับเชื้อเข้าสู่ดวงตาในปริมาณที่มากพอ เช่น ถูกไอหรือจามใส่หน้าโดยตรงและมีสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าสู่ดวงตา ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ สารคัดหลั่งเหล่านี้จะถูกระบายเข้าสู่โพรงจมูก แต่โดยทั่วไปแล้ว ไวรัสที่ก่อให้เกิดโรค COVID-19 ไม่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยตัวมันเอง แต่จะอยู่ในน้ำมูกหรือน้ำลายของผู้ป่วยที่ถูกไอหรือจามออกมา
ดังนั้น ถ้าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมปกติโดยทั่วไปโอกาสที่จะมีไวรัสลอยเข้ามาสู่ดวงตา และระบายเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกนั้นเป็นไปได้ต่ำมาก และปัจจุบัน ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อผ่านทางดวงตา ส่วนการติดเชื้อจากการได้รับเชื้อจากน้ำตาหรือสารคัดหลั่งเยื่อบุตาของผู้ป่วยนั้น เนื่องจากมีรายงานการพบเชื้อ COVID-19 ในน้ำตาและสารคัดหลั่งเยื่อบุตา ดังนั้น ถ้ามีการสัมผัสของสารคัดหลั่งดังกล่าวจากตาผู้ติดเชื้อ และนำเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ก็อาจมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ถ้าในสารคัดหลั่งดังกล่าวมีเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่
ซึ่งมีข้อมูลเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่ยังไม่ประกาศจำกัดการเดินทาง สำหรับประเทศไทยได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกาศ ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 และประกาศให้ประเทศจีน เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย เมื่อวันที่ 5 มีนาคุม 2563 แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเขตโรคติดต่ออันตราย
หากไม่มีความจำเป็นกรณีที่จำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่ที่มีการระบาด ควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำวิธีป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะและไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอ จาม เลือกรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก ทั้งเนื้อสัตว์ไข่ และผักสด ผลไม้ หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่นานอย่างน้อย 20 วินาที หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือลูบมือจนกว่าจะแห้ง
ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็นไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและหากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงต่างประเทศ เมื่อหลังเดินทางเข้าประเทศไทย ภายใน 14 วันแนะนำให้สังเกตอาการ หากมีไข้ ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอมีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย แล้วล้างมือ และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ปอดบวม และอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี