วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ธุรกิจท่องเที่ยวพัทยาวิกฤตหลังโควิดพ่นพิษ ยอดนักท่องเที่ยวลดเหลือ 0

ธุรกิจท่องเที่ยวพัทยาวิกฤตหลังโควิดพ่นพิษ ยอดนักท่องเที่ยวลดเหลือ 0

วันเสาร์ ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2563, 16.14 น.
Tag : โควิดพ่นพิษ ธุรกิจท่องเที่ยว พัทยา วิกฤต โคโรนา-19
  •  

ธุรกิจท่องเที่ยวพัทยาวิกฤตหลังโควิด-19 พ่นพิษยอดนักท่องเที่ยว 0 % เสนอ 6 เรื่องด่วนตรงนายกเมืองพัทยาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเยียวยา ระบุคาดสถานการณ์ยืดเยื้อนับปีแหล่งท่องเที่ยวอาจปิดตัวถึง 80 %

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรครุนแรงมากยิ่งขึ้น จนภาครัฐได้ออกมาตรการในการป้องกันและควบคุมอย่างจริงจัง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีแต่ก็ต้องยอมรับว่ากรณีนี้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างรุนแรง ทั้งในส่วนของรายได้จากการท่องเที่ยว สถานประกอบการทั้งโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องปิดกิจการ รวมถึงแรงงานลูกจ้างจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบไปด้วย


สำหรับสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยานั้นต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่นิยมมาพักผ่อนที่เมืองพัทยาอย่างกลุ่มนักท่องเที่ยวรัสเซีย ซึ่งแต่เดิมแม้จะมีปัญหาเรื่องของโรคแต่ก็ยังมีการจับจองเพื่อเดินทางมาพักผ่อนในพื้นที่อยู่บ้าง แต่หลังจากที่ภาค รัฐได้ออกมาตรการที่เข้มข้น อาทิ การที่ต้องมีหลักประกันสุขภาพ 1 แสนเหรียญ หรือการรับรองทางการแพทย์ จึงมีการยกเลิกการเดินทางทั้งหมด หรือเรียกได้ว่าปัจจุบันยอดนักท่องเที่ยวเป็น 0 % 

 

 

อย่างไรก็ตาม จากมาตรการของภาครัฐนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น และผู้ประกอบธุรกิจก็เห็นดีไม่ขัดข้องแต่ประการใด เพราะจะเป็นการป้อง กันและแก้ไขการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ได้ แต่จากสถานการณ์นี้คาดว่าจะทำให้มีผู้ประกอบการและแหล่งท่องเที่ยวกว่า 80% โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ที่ต้องปิดตัวลงชั่วคราวหรือถาวร และอาจมีการขายกิจการทิ้งให้ชาวต่างชาติหากสถานการณ์ยืดเยื้อซึ่งคาดการณ์กันว่าอย่างน้อยน่าจะประมาณ 10-12 เดือน

นายธเนศ กล่าวต่อว่า ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ใช้แรงงานจำนวนมาก และอีกทั้งยังมีภาระค่าใช้จ่ายคงที่สูง ได้แก่ เงินเดือนและสวัสดิการของพนักงาน โดยเฉพาะเรื่องของค่าจ้างซึ่งแม้จะมีการปิดตัวชั่ว คราว แต่ผู้ประกอบการก็ยังต้องแบกรับภาระอยู่ในอัตรา 75% ของเงินเดือน รวมถึงเงินประกันสังคมที่แต่เดิมมีการชำระในสัดส่วน 5 % สำหรับผู้ประกอบการและแรงงานผู้ประกันตน แต่มีการปรับลดมาเหลือเพียง 4% ขณะที่รายได้ของผู้ประกอบการเป็น 0% นี่ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายด้านระบบสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้า ประปา ภาษีต่างๆ ได้แก่ ภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนภาษีท้องถิ่นอื่นๆ 

 

 

เช่น ภาษีที่ดิน ภาษีป้าย ค่าธรรมเนียม เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้แม้ว่าภาครัฐจะได้กำหนดมาตรการต่างๆเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในภาคธุรกิจออกมาเป็นระยะๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การรักษาสภาพคล่อง" และ "การดำรงอยู่ของกิจการ" ส่งผลให้แหล่งท่อง เที่ยวธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและโรงแรมต่างๆทุกระดับเริ่มประกาศปิดกิจการ หยุดดำเนิน การอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเลิกจ้างแรงงาน ทำให้เกิดการว่างงานและการเดินทางกลับภูมิลำเนา สร้างความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 

โดยกรณีนี้ภาครัฐต้องหันมาใส่ใจและเข้ามาดูแลหรือช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่มอย่างจริงจังเหมือนนโยบายในต่างประเทศ เพื่อให้ทั้งในส่วนขององค์กร แรงงานและผู้รับผลกระทบสามารถดำรงชีวิตหรือประคองกิจการไปได้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง อย่างกรณีในส่วนของกระทรวงแรงงานที่ยังยืนยันว่าผู้ประกอบการยังคงต้องแบกภาระเรื่องเงินเดือนและเงินประกัน สังคมตามที่กำหนดต่อไป และจะไม่ปรับลดให้เหลือ 50 % ของรายได้พนักงาน หากผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เข้าข่าย 4 ประการ

คือ 1.การถูกเลิกจ้าง 2.การลาออก 3.มีผู้ป่วยในสถานประกอบการ และ 4.ราชการสั่งปิดกิจ การ ซึ่งดูแล้วขัดแย้งกับ มติ ครม.ที่ออกมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่นิยามของคำว่า “เหตุสุดวิสัย” ให้หมายรวม ถึงการปิดกิจการเพราะผลกรทบจากโรคติดต่อด้วย นอกจากจะเป็นภัยพิบัติ อย่าง อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย หรือธรณีพิบัติ

 

 

นายธเนศ กล่าวต่อไปอีกว่าจากปัญหาที่กล่าวมาล่าสุดตัวแทนจากสมาคม องค์กรภาคธุรกิจการท่องเที่ยวได้เข้าพบนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อเสนอขอ 6 มาตรการในการเยียว และลดกระทบต่อภาคธุรกิจจากปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาและเสนอต่อภาครัฐอย่างจริงจัง ประกอบด้วย 

1.กรณีหยุดกิจการชั่วคราวจากผลกระทบดังกล่าว ให้ทางกองทุนประกันสังคมจ่ายชดเชยลูกจ้างในอัตรา 70 % เป็นระยะเวลาสูงสุด 180 วัน 

2.ให้ยกเว้นการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมทางฝั่งนายจ้างและลูกจ้างเป็นระยะเวลา 180 วัน โดยให้กระทรวงแรงงานเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ 

3.ให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินภาษีป้ายภาษีบำรุงท้อง ที่ในปี พ.ศ.2563 โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ 

4.ขอลดอัตราดอกเบี้ย 50% จากธนาคารพาณิชย์ที่ทางเอกชนกู้อยู่ โดยภาครัฐเป็นผู้ชดเชยส่วนลดให้ผู้รับผิดชอบโดยกระทรวงการคลัง 

5.ของดจ่ายค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งกรณีนี้เป็นมาตรการของประเทศต่างๆที่ประกาศใช้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน 

และ 6.ค่าใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคและอุปกรณ์สำหรับการดำเนินการป้องกัน COVID-19 สามารถนำมาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า ทั้งนี้ ข้อเสนอตามมาตรการดังกล่าว จะสามารถช่วยและลดความตึงเครียดให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่ทำรายได้ให้กับประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก โดยนายกเมืองพัทยา ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและจะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีและทางนายกรัฐมนตรีพิจารณาในลำดับต่อไป

"ส่วนตัวแล้วมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 น่าจะยืดยาวไปกว่า 1 ปี และการท่อง เที่ยวจะกลับมาเป็นปกติตามการคาดการณ์กลางปีหน้า สิ่งสำคัญในปัจจุบันคงไม่ใช่เรื่องของกำไร-ขาดทุน เพราะผู้ประกอบการไม่มีรายได้อยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้รัฐต้องเข้ามาช่วยพยุง ต้องดูแลเพื่อให้ทุกส่วนสามารถยังชีพและสู้สถานการณ์ต่อไปได้" นายธเนศ กล่าว
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • หาดวงศ์อมาตย์เผชิญ \'แพลงก์ตอนบลูม\' น้ำทะเลเขียวคล้ำส่งกลิ่นคล้ายกำมะถัน หาดวงศ์อมาตย์เผชิญ 'แพลงก์ตอนบลูม' น้ำทะเลเขียวคล้ำส่งกลิ่นคล้ายกำมะถัน
  • \'มาคาเลียส\'เผยเทรนด์นักท่องเที่ยวไทยปี 2025 คนไทยยังชอบเที่ยว แถมนิยมพักหลายที่ในทริปเดียว 'มาคาเลียส'เผยเทรนด์นักท่องเที่ยวไทยปี 2025 คนไทยยังชอบเที่ยว แถมนิยมพักหลายที่ในทริปเดียว
  • วันหยุดยาวชิล! เที่ยวพัทยา-เกาะล้าน คาดเงินสะพัดนับสิบล้านบาท วันหยุดยาวชิล! เที่ยวพัทยา-เกาะล้าน คาดเงินสะพัดนับสิบล้านบาท
  • นทท.จีนแห่เล่นสาดน้ำสงกรานต์พัทยายอดจองห้องพักวันละกว่า 3 พันคน นทท.จีนแห่เล่นสาดน้ำสงกรานต์พัทยายอดจองห้องพักวันละกว่า 3 พันคน
  • นทท.แห่ชมเทศกาลดนตรีเมืองพัทยาอาทิตย์ที่ 2 แน่นชายหาดจอมเทียน นทท.แห่ชมเทศกาลดนตรีเมืองพัทยาอาทิตย์ที่ 2 แน่นชายหาดจอมเทียน
  • หนุนยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออกสู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ หนุนยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออกสู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ
  •  

Breaking News

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้

รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.

'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved