ตร.บ้านฉางนำสองผัวเมียทำแผน งัดตู้เงินทำบุญวัดประชุมมิตร ชาวบ้านเชื่อไอ้จุกกุมารทองมีส่วน ช่วยตามจับหลังเจ้าอาวาสเปรยเดียวก็แกะรอยตามจับคนร้ายได้(ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ) พร้อมมอบวัตถุมงคลทีมสืบสวน2 เมษายน 2563 พ.ต.อ.ไพทูรย์ ปาปะคัง ผกก.สภ.บ้านฉาง พ.ต.ท.สถาบันซึมกลาง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศิริ ศิริมี สว.สส.สภ.บ้านฉาง พ.ต.ต.อนันต์ การดี ชุดสืบ สภ.บ้านฉาง นำตัวสองผัวเมียผู้ต้องหา นายณรงค์ ใสยพร อายุ 36ปี และนางพิตญา ปักกาสี อายุ 31 ปี ก่อเหตุงัดประตูรั่ว เพื่อเข้าไปงัดตู้บริจาค และเงินพุ่มผ้าป่า ที่ชาวบ้านทำบุญภายในศาลาวัดประชุมมิตรบำรุง สารภาพได้เงินไปทั้งสิ้น 5600 บาท โดยผู้ต้องหาใช้วิธีขับขี่ รถ จยย.ซ้อนท้ายกันเข้ามาในวัด แล้วนำเงินไปหยอดตู้บริจาคก่อนเพื่อเป็นการดูลาดเลา ก่อนที่จะกลับมาลงมือช่วงดึก ตามที่เสนอไปแล้วนั้น หลังทำแผลเสร็จสิ้น ผกก.สภ.บ้านฉาง ได้นำตัวนายณรงค์ ใสยพรไปกราบขอขมา พระครูพิพัฒน์กิจจาภิรมย์ เจ้าอาวาสวัด พร้อมทั้งเทศนาสั่งสอนถึงบาปบุญที่ก่อไว้ ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมายของบ้านเมือง

นอกจากนี้แล้วเจ้าอาวาสยังได้เปิดเผยอีกหลังก่อเหตุเมื่อเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ราวตี 4 อาตมาจำวัดอยู่ในกุฏิได้ยินเสียงเรียกหลวงพ่อๆ อยู่สองครั้ง ซึ่งก็รู้ว่าเป็นไอ้จุกกุมารทองที่วิ่งเล่นอยู่ในศาลามาตะโกนเรียกจนตนสะดุ้งตื่น เอะใจ เพราะได้ยินเสียงไอ้จุกวิ่งเล่นทุกคืนอยู่แล้ว พอลงมาจากกุฏิจึงพบว่าเงินบริจาคได้หายไป ซึ่งอาตมาก็คาดว่าตำรวจเดียวก็จับมาดำเนินคดีได้ ตามที่เคยเปรยไว้ก่อนหน้า

ส่วนนางบำรุง วงษ์ทองดี แม่บ้านวัดประชุมมิตรเล่าว่า สำหรับตนแล้วจะรู้ว่าไอ้จุกที่หลวงพ่อพูดถึงเป็นกุมารทองที่วิ่งเล่นในศาลาทุกคืน เพราะว่า บางครั้งตนจะเห็นของเล่น กระจัดกระจายเกลื่อนศาลา ตนเช้าเป็นประจำ หรือรถจักรยานที่หลวงพ่อซื้อไห้มัน ออกไปอยู่นอกศาลา ถ้าไอ้จุกไม่ดีจริงคงยังจับได้ไม่เร็ว ตนเชื่อว่าไอ้จุกก็ช่วยชุดสืบเกาะรอยตามตัวคนร้าย เพราะวัดเคยโดนคนร้ายบุกเข้ามาขโมยเงินบริจาคไปก็ตามจับได้ทันควัน แต่ก็ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานไปก่อน หลังจากนั้นพระครูพิพัฒน์กิจจาภิรมย์ เจ้าอาวาสวัดยังได้มอบวัตถุมงคลที่ปลุกเสกด้วยเกจิชื่อดัง แห่งภาคตะวันออก เป็นเสมาเสือตัวเท่าปลายนิ้วก่อนที่เป็นความเชื่อเรื่อง การป้องกัน อันตรายจากแก่ชุดสืบ สภ.บ้านฉาง ก่อนที่จะนำตัวสองผัวเมียแจ้งข้อกว่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป