พิษโควิด...น้ำใจคนไทย! 2เขมรถูกลอยแพ เดิน 8 วันจากลพบุรีถึงอรัญ หวังกลับบ้านเกิด
6 พฤษภาคม 2563 พ.อ.เอกพงศ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 (ผบ.ชค.กรม.ทพ.12) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ร่วมกันสั่งการให้ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201 (ผบ.ร้อย ทพ.1201) สนธิกำลังร่วมมือกับ พ.ต.ท.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก และ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ออกทำการลาดตะเวนและเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนบริเวณตลาดโรงเกลือ และด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายและคำสั่งของ พล.ต.ธราพงศ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ในการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมลาดตะเวนตรวจพื้นที่มาถึงบริเวณทางเข้าหมู่บ้านดงงู ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบชาย 1 คน หญิง 1 คน ท่าทางอิดโรยกำลังเดินเท้า มาตามถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าจะไปตลาดโรงเกลือ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่าทั้ง 2 คน เป็นชาวกัมพูชา ฝ่ายชายชื่อนายเชือน เม็ง อายุ 38 ปี ส่วนผู้หญิงชื่อนางนวม ซาเวือน อายุ 28 ปี ทั้ง 2 คนไม่มีเอกสารการเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันควบคุมตัวชาวเขมรทั้ง 2 คน มาสอบสวนที่ กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นโดยผ่านล่ามภาษากัมพูชา ชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนรับว่าเมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ตนทั้ง2คน ซึ่งเป็นญาติๆกันได้เดินทางไปทำงานที่ฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ที่ จ.ลพบุรี แต่ไม่รู้ว่าอยู่อำเภออะไร โดยลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยทางด้านด่านชายแดนบ้านแหลม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี โดยมีนายจ้างชาวไทยนำรถยนต์มารับไปทำงาน โดยได้ค่าจ้างแรงงานวันละ 150 บาท มีที่พักให้ แต่อาหารซื้อกินเอง ต่อมาจู่ๆประมาณวันที่ 25 เมษายน 2563 เจ้าของฟาร์มไก่ไข่ ได้สั่งปิดฟาร์มและเลิกจ้างพวกตน อ้างว่าโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ไม่มีไก่เข้าฟาร์ม ทำให้พวกตนไม่มีงานทำ อีกทั้งเงินก็หมดเพราะนายจ้างเลิกจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563
จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน 2563 เมื่อไม่มีจะกินแล้ว และไม่มีเงินติดตัว พวกตนจึงได้ตัดสินใจชักชวนกันเดินเท้าจากฟาร์มไก่ไข่ที่ จ.ลพบุรี เพื่อกลับบ้านเกิดที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยเดินเท้าและสอบถามทางเพื่อมาข้ามชายแดนที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ กับคนไทยมาตลอดทาง ค่ำไหนก็จะหลับนอนตามวัดข้างทาง บางวันก็นอนตามศาลาริมทาง บางวันมีคนไทยใจดีให้ข้าวให้น้ำกินประทังชีวิต
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ได้เดินเท้ามาถึงบริเวณวงเวียนปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จนเท้าพองจึงนั่งพักข้างถนนได้มีคนไทยใจดีสงสารนำข้าวและน้ำมาให้กิน และได้ให้เงินพวกตนคนละ 100 บาท แล้วฝากให้ขึ้นรถตู้โดยสารไม่ประจำทางจาก จ.ปราจีนบุรี มาลงที่ บขส.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นพวกตนก็เดินเท้าต่อมาอีก 6 กม.จนมาถึงทางเข้าหมู่บ้านดงงู ก็มีเจ้าหน้าที่ไทยมาตรวจพบและควบคุมตัวมาสอบสวนดังกล่าว
ต่อมา พ.ต.ชาญ เมื่อรู้ว่าชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนถูกนายจ้างลอยแพ และต้องเดินเท้าถึง 8 วัน ยังไม่ได้กินข้าวจึงได้นำข้าว และน้ำมาให้ชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนได้กินตามหลักมนุษยธรรม โดยชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนเมื่อเห็นข้าวที่ทหารพรานนำมาให้ถึงกับดีใจคว้ามากินกันอย่างหิวกระหาย ปากก็พร่ำพูดเป็นภาษากัมพูชาและภาษาไทยว่า “ขอบคุณมากๆ”
หลังสอบสวนและทำประวัติเบื้องต้นแล้ว พ.ต.ชาญ ได้นำชาวกัมพูชาทั้ง2คนไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว จากนั้นได้ประสานไปยังฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา แล้วนำชาวกัมพูชาทั้ง 2 คน ไปผลักดันกลับประเทศ ที่ช่องทางอนุโลม (จต.ส.38) บ้านโนนหมากมุ่น ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยก่อนส่งผลักดันกลับประเทศ ด้วยความสงสาร เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเงินกันคนละเล็กละน้อย แล้วมอบให้กับชาวกัมพูชาทั้ง 2 คนได้ติดตัว และใช้ระหว่างเดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี