วันที่ 4 มิถุนายน 2563 นายอรุณ บุญเรือง อายุ 55 ปี พร้อมด้วยนางสาริยา บุญเรือง อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา ตั้งอยู่ ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ยึดอาชีพทำงานบั่นปลายชีวิต โดยตระเวนไปศึกษาเรียนรู้ วิธีการปลูก การดูแล และการคัดเลือกสายพันธุ์ตามไร่องุ่นในพื้นที่ภาคเหนือ และตัดสินใจเลือก 6 สายพันธุ์ที่เห็นว่ารสชาติดี ได้แก่ พันธุ์สการ์ล็อตต้า อิสราเอล, พันธุ์ไชน์ มัสคัส, องุ่นแดงชินาโนะ สไมล์, พันธุ์พิโอเน่, พันธุ์บิ๊กเพอเลท, สายพันธุ์ TG ซึ่งทั้ง 6 สายพันธุ์ มีรสชาติที่คลายกัน
นายอรุณ กล่าวว่า เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว ได้นำเงินเก็บที่มี มาลงทุนทำไร่องุ่นไว้ในช่วงบั้นปลายชีวิต ตามความฝันที่ตั้งใจไว้กับครอบครัว โดยเริ่มต้นศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจังเกี่ยวกับการปลูก การดูแล โรงเรือนต่างๆ ร่วมถึงการคัดเลือกสายพันธุ์ จากนั้นก็เริ่มสั่งกิ่งพันธุ์ทั้ง 6 สายพันธุ์มาปลูกในโรงเรือน ทั้งสิ้น 6 โรงเรือน รวม กว่า 500 ต้น โดยโรงเรือนสร้างเป็นโรงเรือนมุ้งลวดให้สามารถรับแสงแดดได้ แต่สามารถป้องกันแมลงต่างๆ ได้ด้วย เพราะต้นองุ่น เป็นพืชที่ค่อนข้างบอบบาง อ่อนแอต่อแมลงต่างๆ และเชื้อราทั้งราน้ำค้าง ราสนิม และราแป้ง ประกอบกันตั้งใจปลูกเป็นองุ่นอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมี
ซึ่งการปลูกเป็นโรงเรือนมุ้งลวด สามารถป้องกันได้กว่า 80% และใช้วิธีการให้น้ำด้วยวิธีต่อมินิสปริงเกอร์ ให้น้ำวันละ 2 ครั้งต่อวัน คือในช่วงเช้าและช่วงบ่าย และคอยดูแลอย่างใกล้ชิดทั้ง เรื่องการตัดแต่งกิ่งอาร์ม และกิ่งเคนแบบก้างปลา ถึงแม้จะมีศัตรูพืชตัวฉกาจอย่างเพลี้ยไฟ และไรแดง ก็ใช้วิธีใช้กาวดักและใช้สารชีวภาพในการกำจัดซึ่งก็ได้ผลดี ตอนนี้เริ่มปลูกมาได้ประมาณ 9 เดือน หลังจากการทำการพรุนกิ่งเมื่อ 3 เดือนก่อนตอนนี้ผลผลิตก็เริ่มออกให้สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้วบางส่วน ซึ่งราคาแต่ละสายพันธุ์ก็จะแตกต่างกันไป มีตั้งแต่ราคา กิโลกรัมละ 200-400 บาท
นายอรุณ บุญเรือง บอกต่อว่า ตอนนี้เป็นปีแรกที่ผลผลิตเริ่มออกซึ่งเป็นสายพันธุ์ TG ผลเล็ก สีแดงมีเมล็ด แต่มีรสชาติหวาน กรอบอร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนรับประทานหากนำไปแช่น้ำเย็นก็จะเพิ่มความกรอบและหวานเข้าไปอีกด้วย สำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนหัวแท ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันตนก็จะลดราคาให้เหลือเพียงกิโลกรัมละ 100 บาทเท่านั้น และให้เข้าไปเลือกตัดได้ตามใจชอบได้ถึงต้นองุ่นเลย โดยจะมีภรรยาคอยดูแล อธิบายว่าพวงไหนสามารถตัดได้หรือไม่ได้
นอกจากนี้ ตนได้เริ่มปรับปรุงสถานที่โดยรอบเพื่อทำเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่จะมีผลผลิตจากองุ่นไว้นำหน่าย อาทิ น้ำองุ่นปั่น แยมองุ่น รวมถึงไวท์องุ่นในอนาคต รวมถึงอาหารและกาแฟไว้บริการนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวไร่องุ่น และคาดว่าในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวต้นปีหน้าก็จะสามารถเปิดไร่องุ่น อรุณรุ่งได้อย่างเป็นทางการ สำหรับในช่วงนี้หากใครที่สนใจอยากจะมาศึกษาเรียนรู้วิธีการดูแลองุ่น หรืออยากจะมาเที่ยวชม หรืออุดหนุนตัดผลองุ่นซื้อนำไปรับประทานก็ได้อีกบรรยากาศ สามารถเดินทางมาได้ที่ไร่องุ่น อรุณรุ่ง หรือสอบถามเส้นทางได้ทางเบอร์ 089-5558178
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี