วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปแนวหน้า : สยบ‘โควิด’อยู่หมัด  ถอดบทเรียน‘เวียดนาม’

สกู๊ปแนวหน้า : สยบ‘โควิด’อยู่หมัด ถอดบทเรียน‘เวียดนาม’

วันอาทิตย์ ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 07.40 น.
Tag : สกู๊ปแนวหน้า โควิด19
  •  

“Vietnam economy gradually reboots in May” เป็นพาดหัวข่าวจากสำนักข่าว VnExpress International ของเวียดนาม เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563ระบุว่า “เศรษฐกิจเวียดนามกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว” จากเดือน เม.ย. 2563 รัฐบาลเวียดนามใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดกิจการต่างๆ ให้เหลือเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดการรวมกลุ่มคนอันเป็นช่องทางการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก แต่ต่อมาในเดือนพ.ค. ปีเดียวกัน ซึ่งเป็นช่วงผ่อนคลายล็อกดาวน์แล้ว หลายตัวชี้วัดชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น

อาทิ ยอดขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 มีมูลค่า 1.66 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 5.3 แสนล้านบาท จำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศอยู่ที่ 563,700 คน เพิ่มขึ้น 4 เท่า จำนวนรถยนต์บนท้องถนน รวมถึงผู้ใช้บริการรถไฟเพิ่มขึ้น 3 เท่า บริษัทจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้น 10,700 แห่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ36 ขณะที่ธุรกิจซึ่งถูกระงับกิจการลดลงร้อยละ 19 และดัชนีจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) เดือน พ.ค. 2563 อยู่ที่ 42.7 เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. 2563 ซึ่งอยู่ที่ 32.7 เป็นต้น


ซึ่ง “เวียดนามเป็นอีกประเทศหนึ่งที่สามารถคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดี” โดยสื่ออีกสำนักของเวียดนาม สำนักข่าว Vietnam Plus เสนอข่าว “Vietnam goes through 50 days without local transmission of COVID-19” เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2563 ระบุว่า “เป็นเวลา 50 วันแล้วที่เวียดนามไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่แบบระบาดในประเทศ” โดยนับตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. 2563 นอกจากนี้ แม้จะทยอยให้กิจการต่างๆ กลับมาเปิดดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 2563 เป็นต้นมา ก็ไม่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ระลอก 2 อย่างที่กังวลกันแต่อย่างใด

เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนาออนไลน์ เรื่อง “จับตาความเคลื่อนไหวสถานการณ์เอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : เบื้องหลังการประกาศชัยชนะต่อโควิด-19 ของเวียดนาม” โดยผู้บรรยายคือ ผศ.มรกตวงศ์ภูมิพลับ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์เล่าถึงขั้นตอนการรับมือโรคระบาดของเวียดนาม เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. 2563 กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม ออกหนังสือแจ้งเตือนทุกหน่วยงานให้เฝ้าระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เริ่มมาตรการตรวจและกักโรคได้รวดเร็ว

“มีการแกะรอยผู้ติดต่อกับผู้ติดเชื้อในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ติดต่อโดยตรง ผู้ติดต่อระดับ 2 ระดับ 3 และระดับ 4 ซึ่งทั้งหมดจะถูกควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่แพร่กระจายเชื้อไปยังบุคคลอื่นอีก จึงตัดสินใจเด็ดขาดและรวดเร็วในการใช้มาตรการล็อกดาวน์ หรือปิดเมือง ตัวอย่างหนึ่งคือเมืองเล็กๆ ในจังหวัดหวิงฟุก ใกล้กรุงฮานอย ประชาชนทั่วเมืองราว 10,000 คน ถูกสั่งให้กักตัวนานกว่า 3 สัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อภายในเมือง” อาจารย์มรกตวงศ์ กล่าว

จากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในเวียดนาม ณ ขณะนั้น จำนวน 16 คน แต่หลังจากนั้นเพียง 20 วัน เวียดนามก็ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มแม้แต่รายเดียว ความสำเร็จขั้นต้นนี้
ทำให้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐอเมริกา (CDC) ถอดเวียดนามออกจากบัญชีประเทศกลุ่มเสี่ยงที่แพร่ระบาดโควิด-19 ต่อมารัฐบาลเวียดนามประกาศให้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เข้าสู่เฟส 2 ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2563 ขณะที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 30 ราย ก่อนจะห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศในวันที่ 22 มี.ค. 2563 จากนั้นจึงประกาศเข้าสู่เฟส 3 ในวันที่ 23 มี.ค. 2563 หลังพบผู้ติดเชื้อ 2 กลุ่ม ในฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อสะสมขณะนั้นอยู่ที่ 123 ราย

ทั้งนี้ ความสำเร็จในการรับมือโควิด-19 ของเวียดนาม ถือเป็นตัวอย่างราคาประหยัด เมื่อเทียบกับจีน ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้ ที่มีทรัพยากรมากพอจะทำการทดสอบหาผู้ติดเชื้อแบบจำนวนมาก เมื่อเวียดนามไม่มีทรัพยากรและบุคลากรด้านสาธารณสุขที่มากมายเช่นนั้น ทางเลือกที่เหมาะสมและจำเป็นคือการดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดในเชิงรุก ก่อนที่การระบาดจะลุกลาม

อีกหนึ่งปัจจัยความสำเร็จของรัฐบาลเวียดนามคือการขับเคลื่อนกระแส “ชาตินิยม” ในภาวะการระบาดของไวรัส “รัฐบาลเวียดนามตีกรอบโควิด-19 ให้เป็นศัตรูต่างชาติ และเรียกร้องให้ประชาชนร่วมมือกันเอาชนะ สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของประเทศที่ต้องเผชิญภัยสงครามจากการรุกรานของต่างชาติ” คำขวัญ“สู้กับโรคระบาด ก็เหมือนสู้กับศัตรู” ถูกใช้นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19

“การสื่อสารที่โปร่งใสและเป็นไปในเชิงรุก ทำให้รัฐบาลเวียดนามได้รับความมั่นใจจากประชาชน ด้วยสื่อหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำมิวสิกวีดีโอ ด้วยเนื้อหาและรูปแบบที่จำง่าย ติดหู โปสเตอร์ที่บอกถึงความสำคัญของการล้างมือใส่หน้ากาก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโรคนี้ได้ จึงทำให้ชาวเวียดนามได้แสดงความเห็นว่ารัฐบาลเวียดนามดำเนินการอย่างเพียงพอ และประชาชนก็ทำตามอย่างเคร่งครัด” อาจารย์มรกตวงศ์ ระบุ

ขณะเดียวกัน “รัฐบาลเวียดนามก็ไม่ละเลยที่จะบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประชาชน” โดยใช้งบประมาณ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8.32 หมื่นล้านบาท จ่ายเยียวยาประชาชน“รัฐบาลเวียดนามใช้วิธีจ่ายเงินโดยให้ท้องถิ่นกระจายเงินช่วยเหลือประชาชนในแต่ละชุมชน โดยไม่ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์แบบกรณีเงินเยียวยา 5,000 บาทของไทย” เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผู้ที่เดือดร้อนแต่เข้าไม่ถึงสิทธิ์

โดยสรุปแล้ว..ความสำเร็จของเวียดนามที่สามารถจัดการโควิด-19 ได้ มีทั้งการตัดสินใจที่รวดเร็วของผู้นำประเทศทั้งในการประกาศรับมือกับโรคระบาดตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น มาตรการกักกันโรค กักบริเวณไปจนถึงการเร่งตรวจโรค ทำให้แม้เวียดนามอาจจะดูไม่พรั่งพร้อมทรัพยากรแบบประเทศอื่น แต่ก็สามารถจัดการโรคได้ดีเพราะมีการตัดสินใจและการบริหารที่ดีมากพอ!!!

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แนวหน้าวิเคราะห์ : 7 วันป่วยโควิด 1.1 แสนคน-ตาย 31 ศพ อิทธิฤทธิ์โรคประจำถิ่นที่ยังอันตราย แนวหน้าวิเคราะห์ : 7 วันป่วยโควิด 1.1 แสนคน-ตาย 31 ศพ อิทธิฤทธิ์โรคประจำถิ่นที่ยังอันตราย
  • แนวหน้าวิเคราะห์ : หยุด‘โควิด’รีเทิร์น เริ่มได้ที่ตัวเราเอง แนวหน้าวิเคราะห์ : หยุด‘โควิด’รีเทิร์น เริ่มได้ที่ตัวเราเอง
  • สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’ สกู๊ปแนวหน้า : ฟื้น‘กะปิกุ้งเคย’ ภูมิปัญญา‘เกาะลิบง’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย
  • สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’ สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน
  •  

Breaking News

แนวหน้าวิเคราะห์ : หยุด‘คอกม้าจีนเทา’ แหล่งฟอกเงินแก๊งคอลฯ

เช็คอากาศวันนี้! ทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

ศบ.ทก.ข้องใจเอกสารหลุด! ยันไทยไม่มีนโยบายปิดด่าน

‘วิน เมธวิน’ ร่วมกิจกรรม ‘เทศกาลอาหารผู้ลี้ภัยเนื่องในวันผู้ลี้ภัยโลก’ ขอเป็นกระบอกเสียงเนื่องใน ‘วันผู้ลี้ภัยโลก’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved