วันที่ 15 มิถุนายน 2563 นางสาววศิณี ทองเชื่อม เจ้าของสวนฟาร์มสุขของครอบครัว ในพื้นที่ตำบลทุ่งคาโงก  อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ทุกวันอาทิตย์ และวันอังคาร ภายในสวนแห่งนี้ จะมีคนงาน ซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชน รับจ้างมาเก็บสะตอสดๆ จากต้น และแกะเมล็ดสะตอสดออกจากฝัก เพื่อพร้อมแพ็คใส่ถุงสุญญากาศ ติดแบรนด์ “อร่อยนิ สะตอพังงา” ราคา 190 บาท เป็นสะตอพร้อมทาน 1 ชุด ซึ่งจะมีสะตอ 200 กรัม

พร้อมด้วยพริกแกงพังงา และพิเศษด้วยกะปิเคยจากทะเลพังงา เพิ่มความนัวให้เมนูสะตอขายในราคาชุดละ 190 บาท ส่งตามจำนวนยอดสั่งในเพจอร่อยนิ Aroi Ni และอินสตราแกรม Aroi ni โดยมีกลุ่มผู้บริโภคสะตอกระจายทั่วทั้งประเทศไทย ที่ต้องการลิ้มลองสะตอข้าวของชาวพังงามากกว่า 200 ชุดต่อเดือน

นางสาววศิณี กล่าวอีกว่า ปกติเปิดร้านจำหน่ายเครื่องเขียนในตลาดพังงา ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ยอดขายตก จึงคิดหารายได้พิเศษจากสะตอที่มีอยู่มากในสวนของครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมานั้นในช่วงที่ผลผลิตออกมาก ราคาจะถูก จึงคิดว่าน่าจะสร้างแบรนด์พร้อมสร้างแพคเกจขึ้นมาใหม่โดยแกะเมล็ดสะตอเอามาบรรจุในถุงสุญญากาศ แถมด้วยพริกแกงพังงาและกะปิกุ้งเคย ขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ ลูกค้าสามารถนำไปปรุงได้เลย โดยการใส่เนื้อสัตว์ต่างๆเข้าไปจะได้หลากหลายเมนู ผัดพริกแกงสะตอที่สุดแสนอร่อยจนต้องบอกว่าหรอยจังฮู้ สะตอในสวนเป็นสะตอข้าวที่พบมากในพื้นที่จังหวัดพังงาและภูเก็ต เมล็ดสะตอมีสีเขียวมันแววสวยงาม เมล็ดกลม อวบ กรอบ กลิ่นฉุนน้อยกว่าสะตอทั่วไป เมื่อนำมาผัดหรือปรุงเป็นเมนูต่างๆ จะได้รสชาติมันๆ กรอบๆ 

แม้ว่าวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นทั่วโลก และในประเทศไทย จะส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศ และเศรษฐกิจภายในครอบครัว แต่ในหลายเหตุการณ์จากภาวะวิกฤต กลับกลายเป็นบทเรียนให้หลายคนลุกขึ้นสู้ และลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เป็นแรงผลักดันในชีวิต ให้กล้าทำและกล้าลองมากขึ้น