เตรียมย้ายจุดปล่อยลูกช้างป่าห้วยขาแข้ง เพื่อเพิ่มโอกาสพบโขลงแม่ ด้านสัตวแพทย์เข้าฟื้นฟูหลังพบซูบผอมลง อาการทั่วไปแข็งแรงและร่าเริง ล่าสุดเตรียมหาแม่รับจาก ขสป.ดอยผาเมือง เพื่อให้ลูกช้างได้รับนมแม่
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เปิดเผยว่า วานนี้ (29 มิถุนายน 2563)เวลา 15.00 น. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องกับการปล่อยลูกช้างคืนป่า ทั้งจากพื้นที่และส่วนกลาง เข้าร่วมประชุมหารือกันที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้นายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เป็นผู้แทนทำหน้าที่ประธานการประชุม
โดยที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าให้เคลื่อนย้ายลูกช้างจากคอกเตรียมปล่อยที่ลูกช้างอยู่ในขณะนี้ (จุดห้วยน้ำขุ่น ) มาไว้ที่คอกเตรียมปล่อยหอต้นผึ้ง โดยให้จัดสร้างคอกใหม่ขยายจาก ขนาด 9X9 เมตร เป็นขนาด 40x40 เมตร (1 ไร่ ) โดยกำหนดให้สร้างคอกใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน จากนั้นให้ย้ายลูกช้างมาคอกใหม่ทันที ทั้งนี้เพราะบริเวณหอต้นผึ้ง มีแหล่งน้ำ และเป็นถิ่นหากินของช้างฝูงแม่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ช้างฝูงแม่มาหาลูกช้างสูงขึ้น และจุดนี้อยู่ไม่ลึกมาก ทำให้ทีมงานของนายสัตวแพทย์ สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวกและเร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังให้นายสัตวแพทย์ ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และนายสัตวแพทย์ จากส่วนกลางรวมทั้งเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทำการฟื้นฟูลูกช้างให้กลับมาอ้วนท้วนสมบูรณ์โดยเร็ว และให้ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จัดทำโครงการหาแม่รับไปด้วย และหากได้แม่รับมาแล้วให้ใช้คอกใหม่ขนาด 1 ไร่ นี้เป็นคอกอนุบาลเลี้ยงดูไปด้วย สำหรับแม่รับอาจใช้แม่รับจากช้างป่าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง ซึ่งขณะนี้มีลูกอ่อน และเชื่อง ในส่วนของการดูแลให้ฝึกลูกช้างให้ช่วยตัวเอง เพื่อให้อยู่ได้ตามธรรมชาติให้มากที่สุด ในส่วนของการเฝ้าระวังให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จัดชุดเฝ้าระวังภัยจากสัตว์ผู้ล่า รวมทั้งช้างโทน ที่อาจแตกฝูงออกมาหากินเดี่ยวด้วย
ด้านสุขภาพของลูกช้างจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ ที่เฝ้าระวังลูกช้าง อยู่บนห้างบนต้นไม้ พบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (คืนที่ 11 ของการปล่อยไว้ในคอกเตรียมปล่อยในป่า) ลูกช้างส่งเสียงร้อง 161 ครั้ง หลับพักผ่อน 2 รอบ รวม 2 ชั่วโมง 35 นาที กินนม 5 รอบ 11 ลิตร กินข้าวต้ม+แคลเซียม+วิตามิน 2 รอบ 2 ลิตร ตอนกลางวันในวันนี้มีกิจกรรมผ่อนคลาย เดินเล่น 1 ชั่วโมง 52 นาที
พฤติกรรมการตอบโต้ระหว่างลูกช้าง กับ ช้างโขลงแม่ ลูกช้างร้องฝ่ายเดียว ไม่มีเสียงตอบจากช้างแม่จากการสังเกตุดูลูกช้างจากภายนอก พบว่าลูกช้างแข็งแรง ร่าเริง แต่ซูบผอมลง ถึงวันนี้ลูกช้างอยู่ในคอกเตรียมปล่อยในป่าเป็นเวลา 11 วัน 11 คืน แล้ว พบว่าเฉพาะคืนที่ 6 และ คืนที่ 7 ลูกช้าง กับฝูงแม่ช้าง มีการส่งเสียงโต้ตอบกัน ซึ่งสื่อให้เห็นว่าต่างก็รับรู้กันและกันแล้ว แต่ช้างฝูงแม่ยังไม่เข้ามาหาลูกช้าง และหลังจากคืนที่ 7 คงมีแต่ลูกช้างร้องฝ่ายเดียว โดยไม่มีเสียงตอบจากช้างฝูงแม่ ประกอบกับลูกช้างมีอาการซูบผอมลง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ได้สร้างความหนักใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในระดับพื้นที่ เป็นอย่างมาก จึงได้จัดประชุมเพื่อหารือทำแผนการดูแลดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้เป้าหมายคือต้องการให้ลูกช้างกลับเข้าฝูงแม่ช้างป่า เพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรีตามธรรมชาติให้ได้ในที่สุด
ข้อมูลจาก : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี