ชาวอีสานส่วนใหญ่จะมีอาชีพทำนาปลูกข้าวเป็นอาชีพหลัก ทำนาปลูกข้าวปีละ 1 ครั้งเรียกว่านาปี ทว่าบางคนโชคดีที่นาใกล้แหล่งน้ำสาธารณะ ซึ่งมีน้ำตลอดปีก็จะทำนา 2 ครั้ง ทั้งนาปีและนาปัง ขายผลผลิตข้าวได้เงินตลอดทั้งปี
ส่วนชาวนาที่ทำนาปี หากหมดฤดูทำนาก็จะเดินทางไปหางานทำในกรุงเทพมหานครหรือต่างจังหวัด เพื่อหาเงินมาเป็นทุนในการทำนาปลูกข้าวในปีถัดไป อย่างเช่น นายประเสริฐ บุญสุภาพ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 5 บ้านเหล่าเจริญ ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ผู้ยึดอาชีพทำนาปลูกข้าวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เล่าว่า จำความได้เรียนรู้ การทำนาปลูกข้าว จนเข้าใจอย่างชำนาญ โดยทำนาเป็นเวลากว่า 20 ปี พอมีข้าวกิน โดยไม่ต้องพึ่งพาซื้อข้าวตลาดเลย เพราะ มีข้าวกินตลอดปี
หากว่างทำนาก็จะเดินทางเข้าไปในตัวเมืองอำนาจเจริญ ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นอำเภออำนาจเจริญ เพื่อรับจ้างทำงาน ทำทุกอย่างที่ว่าได้เงิน บางวันมีคนจ้าง บางวันไม่มีใครจ้าง วันที่ไม่มีงานทำก็ต้องเดินเท้าคอตกกลับบ้านไม่มีเงินแม้แต่ 1 บาทติดกระเป๋า วันที่โชคดีรถส่งสินค้าเข้าก็จะเรียกให้ไปแบกขนสินค้าส่งร้านค้าต่างๆในตัวเมืองอำนาจเจริญ ได้เงินครั้งละ 200 บาท พอได้ซื้ออยากซื้อกิน ประทังชีวิตไปวันๆ แต่ยังดี ซึ่งมีข้าวกิน เพราะทำนาปีการไปทำงานก็จะใช้วิธีเดินเท้าจากบ้านเหล่าเจริญ ไปตัวเมืองอำนาจเจริญ ระยะทางไปกลับ 20 กิโลเมตร ทุกวัน ถ้าถึงฤดูทำนาก็จะหยุดไปรับจ้าง ตั้งหน้าตั้งตาทำนาอย่างเดียว เมื่อเสร็จนา จะไปรับจ้างทำงาน ในตัวเมืองอำนาจเจริญ เหมือนเดิม เป็นเช่นนี้ทุกปี
กระทั่งวันหนึ่งระหว่างนั่งรองานทำในตัวเมืองอำนาจเจริญ เห็นคนตีเหล็กอยู่ในเพิง ไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก บริเวณที่ว่าง ด้านทิศใต้ของตลาดวิชิตสิน ตัวเมืองอำนาจเจริญ จึงเกิดความสนใจ และสมัครขอทำงาน ซึ่งนายสิน ไม่ทราบนามสกุล หัวหน้างานตีเหล็ก ขาดคนงานพอดี จึงตอบรับทันที จากนั้นได้ทำงานตีเหล็กโดยมีครู สิน เป็นอาจารย์สอนถ่ายทอดวิชาความรู้ วิธี ขั้นตอนการตีเหล็กต่างๆทุกขั้นตอยอย่างไม่ปิดบัง ซึ่งเรียนการตีเหล็กกว่า 10 ปีทำให้มีความชำนาญ สามารถตีเหล็กได้ด้วยตนเอง และนำไปประกอบอาชีพจนทุกวันนี้
ต่อมาในปี พ.ศ.2536 อำเภออำนาจเจริญยกฐานะเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ เจ้าของที่ดินขอที่ดินคืน ยกเลิกการเช่าที่ดินบริเวณเพิงตีเหล็ก ทำให้ครูสินและช่างตีเหล็ก 5 ชีวิต ตกงาน เพราะไม่มีที่ลงตีเหล็ก ระหกระเหิน แยกย้ายกลับถิ่นฐานบ้านเกิดของแต่ละคน ส่วนครูสิน กลับบ้านเกิดที่ จ.ศรีสะเกษ และไม่ได้พบเจอกันอีกเลย รวมเวลา 27 ปีแล้ว
นายประเสริฐ บุญสุภาพ ช่างตีเหล็กมืออาชีพ กล่าวอย่างเศร้าใจว่า ช่วงนั้นเป็นช่างตีเหล็กเร่ร่อนอยู่หลายปีโดยเดินสายรับจ้างตีเหล็กหลายจังหวัด เช่น อุบลราชธานี .ยโสธร, มุกดาหารและอำนาจเจริญ ซึ่งเหนื่อยมากและไม่มีเวลาให้ครอบครัว จึงขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขา อำนาจเจริญ ได้เงินมาก้อนหนึ่งนำเงินไปซื้อที่ดิน ติดถนนอำนาจเจริญ – ชานุมาน ทำเป็นเพิงอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบัน
นายประเสริฐ บุญสุภาพ คนตีเหล็กยุคใหม่ กล่าวต่อไปว่า หลังจากปลูกบ้าน ทำเพิงหน้าบ้านเสร็จ ก็ขึ้นป้าย คำว่า คนตีเหล็กอยู่ริมถนนให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้เห็นเด่นชัดซึ่งได้ผลดีมาก เพราะมีลูกค้าเห็กป้ายรับจ้างตีเหล็ก ก็นำเหล็กมาให้แปรรูป เช่น จอบ เสียม มีด พร้า ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง
ส่วนวิธีการตีเหล็ก นายประเสริฐ กล่าวว่า สมัยที่เรียนตีเหล็กกับครูสิน ในตัวเมืองอำนาจเจริญ เวลาเผาเหล็กแหนบจนแดง ก็จะใช้แรงงานคน โดยการใช้ค้อนปอนทุบตีเหล็กชิ้นงาน ทุบตีเหล็กแดงกลายเป็นรูปร่างตามต้องการจากนั้นจะใช้ตะใบตบแต่งมีด เสียม หรือ จอบ ให้สวยงาม ใช้เวลาอย่างต่ำ 2 วัน/1 ชิ้น จึงจะแล้วเสร็จ ทว่า ทุกวันนี้ เบาแรงกว่าเก่ามาก เพราะ หลังจากใช้ไฟเผาเหล็กชิ้นงานจนแดงแล้วก็จะใช้เครื่องกระแทกทุบตีจนขึ้นรูปได้งานตามต้องการ จากนั้นจะใช้หินเจียระไนตกแต่งให้สวยงามใช้เวลา 1 วันจะเสร็จแล้วจำหน่ายราคาเริ่มต้นที่ 70 บาทขึ้นไป สร้างรายได้เป็นอย่างดี
นายประเสริฐ บุญสุภาพ ช่างตีเหล็กในตำนาน กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำงานตีเหล็กจะต้องมีใจรัก อดทน ใจเย็น เพราะต้องทำงานกับเปลวไฟเผาเหล็ก ทำให้ร้อน ประกอบกับต้องสวมใส่เสื้อผ้า กางเกง หมวก แว่นตา รองเท้า อย่างรัดกุม เพื่อป้องกันอุปบัติเหตุ ยิ่งร้อนเพิ่มเป็น 2 เท่า และที่นี่ทำกัน 2 คนกับหลาน ซึ่งมาเรียนรู้วิธีการตีเหล็กเกือบ 1 ปีแล้ว เรียกว่าหลานเป็นลูกศิษย์คนแรกที่มาเรียกรู้ การตีเหล็กอย่างถูกวิธีเพื่อเป็นอาชีพ
สำหรับใครต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม อยากรู้กลเม็ดเคล็ดลับในการตีเหล็ก เพื่อประกอบอาชีพให้ติดต่อไปที่นายประเสริฐ บุญสุภาพ อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 5 บ้านเหล่าเจริญ ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ โทร.08 – 2869 – 4609 ได้ทุกวัน โดยจะบอกจะสอนให้อย่างไม่ปิดบัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี