19 พฤศจิกายน 2568 จังหวัดอำนาจเจริญ เข้าสู่ฤดูหนาวเต็มรูปแบบ เพราะมี กระแสลมหนาวพัดเข้าสู่จังหวัดอำนาจเจริญเป็นระลอก ประกอบ กระแสลมแรง ทำให้สภาพอากาศโดยทั่วไปหนาวเย็นจึงเหมาะสำหรับ การนำว่าวธนู ออกไปปล่อยวิ่งเล่น ตามท้องทุ่นนาไร้ต้นข้าว ที่โล่งกว้าง กลายเป็นสนามกีฬาท้าลมหนาวใกล้บ้าน สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน แก่ เด็กนักเรียน ในหมู่บ้าน ตำบลยิ่งนัก เพื่อเป็นการออกกำลังกาย และห่างไกลยาเสพติดอีกด้วย

การเล่นวิ่งว่าวธนูเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬา ที่พบเห็นเด็กนักเรียนนำว่าวมาปล่อยวิ่งเล่นกันเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีกระแสลมพัดตลอดเวลา ทำให้ว่าวติดลมได้ง่าย บางคนปล่อยว่าวให้ลอย อยู่บนอากาศ จนถึงเช้าก็มี

สำหรับ ว่าวที่นิยมวิ่งเล่นกันมากในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เรียกว่า ว่าวธนู ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับว่าวจุฬา ทว่าว่าวธนู ของ จ.อำนาจเจริญ แปลกกว่าที่อื่นคือที่ปลายหัวว่าว จะมีธนูติดตั้งอยู่ ทั้งนี้ ธนู จะมีรูปร่างคล้ายธนูยิงศรทั่วไป แต่ธนูว่าว บริเวณสายจะทำจากใบลาน เชือกผูกยึดสองข้างที่ปลายธนู เมื่อว่าวปล่อยติดลม ใบลานกระทบกับกระแสลม จะเกิดเสียงดัง กลายเป็นเสียงเพลง อย่างไพเราะ เสนาะหูมาก เมื่อถึงฤดูหนาว กระแสลมพัดทั่วท้องทุ่งนา ชาวอีสาน จึงนิยมทำว่าวธนู ออกไปปล่อยติดลม ผูกยึดไว้กับต้นไม้ หรือ เสาเถียงนา(กระท่อมนา) เพื่อให้เกิดเสียงเพลงดังทั่วท้องฟ้ากระจายทั่วท้องทุ่งนา ขับกล่อม บรรเลงบทเพลงจากท้องฟ้าลงมาให้ ชาวนานอนฟัง อย่างเพลิดเพลิน หลับสบายในช่วงนอนนา เฝ้าข้าว ที่เกี่ยวเสร็จ เพื่อ รอส่งขาย หรือ ใส่ยุ้งข้าว ซึ่งเสียงว่าวธนูจะขับกล่อม ฟังแล้วเพลิดเพลิน ตลอดทั้งคืน เรียกว่า เป็นเพื่อนนอนนา จนรุ่งเช้า ก็จะนำว่าวลงมาเก็บและรอปล่อยในตอนเย็นของวันถัดไป

เด็กชายสมาร์ท อายุ 11 ปี มี พักอยู่กับบิดา มารดา ที่หมู่บ้านเมืองเก่า ต.คำเขื่อนแก้ว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ ระหว่างวิ่งเล่นปล่อยว่าวธนูกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน บอกว่า หลังโรงเรียนเลิกทำการบ้านแล้วเสร็จ จะชวนเพื่อนๆ นำว่าวธนูออกไปปล่อยวิ่งเล่นกันที่ท้องทุ่งนา เพื่อให้สมองโล่ง สบายอารมณ์ ส่วนว่าวธนูทำขึ้นมาเองกับมือ เพราะ ก่อนนั้น บิดาเป็นคนสอนทำและพาเล่นว่าวธนู

เด็กชายสมาร์ท บอกวิธีทำว่าวธนูพอเข้าใจว่า  ไม่ได้ยุ่งยากอะไร โดยเริ่มแรก นำไม้ไผ่มาเหลา ให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ แล้วประกอบเป็นโครงว่าว ต่อมา ใช้กระดาษปูนซีเมนต์ที่ใช้แล้ว สาเหตุที่ใช้เพราะทนทาน มาติดกาวแล้วแปะตามโครงว่าว เสร็จแล้ว นำธนูมาติดตั้งที่ปลายหัวว่าว พร้อมกับใบลาน ผูกยึดกับด้ามธนูสองข้าง เมื่อปล่อยว่าวขึ้นสู่อากาศ ติดลม ใบลานกระทบกับกระแสลม จะเกิดเสียงดังลงมาจากท้องฟ้า เป็นเสียงเพลงไพเราะ  เป็นอันแล้วเสร็จ นำว่าวไปใส่หาง และทำที่ผูกเชือกว่าวด้วย ที่สำคัญ ก่อนจะนำธนู ติดตั้งส่วนบนของว่าว หรือ หัวว่าว จะต้อง ทำการทดสอบเสียงธนูก่อน ว่า จะมีเสียงดังไพเราะมากน้อยแค่ไหน ด้วยการแกร่งธนูไปรอบๆตัว เพื่อฟังเสียง เรียกว่า ทดสอบเสียง เมื่อทดสอบเสียงดังไพเพราะ ตามที่ต้องการแล้ว จะนำธนูไปติดตั้งที่หัวว่าวบนสุด เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ นำว่างธนูไปปล่อยได้

ด้าน นายสายัน แซมลำ อายุ 48 ปี ชาวบ้านเมืองเก่า ต.คำเขื่อนแก้ว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ในวันเสาร์ – อาทิตย์ หรือ วันธรรมดา หลังโรงเรียนเลิก จะพบเห็นเด็กนักเรียนในหมู่บ้าน วิ่งว่าวธนูที่ทุ่งนาเป็นกลุ่ม โดยเฉพาะช่วงนี้มีกระแสลมพัดตลอดเวลา ทำให้การปล่อยว่าวธนูติดลมง่ายขึ้น เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเด็กๆในหมู่บ้าน นำว่าวธนูมาวิ่งเล่น เกิดความเพลิดเพลินสนุกสนาน สร้างความรักความสามัคคีในชุมชน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมส์ คอมพิวเตอร์ นับว่า เป็นสิ่งที่ดี สมควรให้การส่งเสริม สนับสนุน และที่ผ่านมา งานประจำปีของหมู่บ้านเมืองเก่า จัดให้มีการแข่งขันกีฬาว่าวธนู เพื่อให้เด็กมีที่แสดงออก และอนุรักษ์ว่าวธนู จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ไม่ให้สูญหายอีกด้วย  

และที่ผ่านมา ผู้นำหมู่บ้านได้มีการประกาศเสียงตามสาย หอกระจายข่าว ในหมู่บ้านทุกวัน  เรื่อง ขอให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ดูแล ตักเตือน บุตรหลาน ในการเล่นว่าว ใกล้สายไฟฟ้าแรงสูง หากสายว่าวไปพันพาดเกี่ยวสายไฟฟ้า อาจถูกไฟฟ้าช็อตเป็นอันตรายถึงชีวิตและส่งผลให้ไฟฟ้าดับได้ ซึ่ง เด็กๆ ที่วิ่งว่าวธนู เชื่อฟังทำตามทุกคนและไม่เกิดเหตุการณ์ที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด...