แสงแรกในยามเช้าที่ทอแสง เห็นทะเลสายหมอกที่สวยงามบนยอด "ภูกะโดน" ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล เป็นการค้นพบของคนชุมชนบ้านหัวควน หมู่ที่ 8 ต.ควนสตอ ที่ต้องการเปิดหมู่บ้านให้ผู้คนได้รู้จักและเข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์ความงดงามของชุมชนแห่งนี้ที่พร้อมจะเป็นจุดเช็คอินชมทะเลหมอกแห่งที่ 4 ของอำเภอควนโดน
เส้นทางขึ้น "ภูกะโดน" ระดับความสูงจากน้ำทะเล 250 เมตร ตลอดเส้นทางมีชาวบ้านหลายรายได้อุทิศพื้นที่เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดป่าในเมืองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้จากทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อคนในชุมชน
"ภูกะโดน" อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าของป่าชุมชนซึ่งมีพื้นที่รอบถึง 55 ไร่ สามารถมองเห็นได้ไกลถึง 270 องศาไปถึง อ.สะเดา จ.สงขลา และ อ.ควนกาหลง จ.สตูล รวมทั้งแนวเขตประเทศมาเลเซีย จึงเหมาะกับการท่องเที่ยวแนวผจญภัย ท่ามกลางธรรมชาติและวิถีเกษตร
เนื่องจากสองฝั่งตลอดเส้นขึ้นยอดภูกะโดน จะพบเห็นป่าและพืชผลไม้ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจและลิ้มชิมรสผลไม้พื้นเมืองตามฤดูกาลอย่างจำปาดะ ทุเรียน เงาะ ลองกอง บนยอดภูกะโดน ซึ่งมีชาวบ้านนำมาบริการให้นักท่องเที่ยวได้ทานกันอย่างสนุกสนานและจุใจ ไปพร้อมกับการเชคอินแหล่งท่องเที่ยว แหล่งศึกษาพันธุ์ไม้ที่อนุรักษ์อย่างต้นหลุมพอ และต้นตะเคียนไม้หากยาก รวมทั้งสัตว์น้อยใหญ่พื้นถิ่นอย่างลิง เต่าเผือกและไก่ป่า
"ภูกะโดน" มีจุดชมวิวด้วยกัน 4 ภู ได้แก่จุดชมวิว 2 จุด จุดตั้งแคมป์ จุดศึกษาธรรมชาติ แม้วันนี้สิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่พร้อมมากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้คือความสามัคคี ความร่วมไม้ร่วมมือพัฒนาหมู่บ้านของคนในชุมชนที่ต้องการผลักดันให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในหมู่บ้าน เกิดการกระจายรายได้ เพื่อลดปัญหายาเสพติด
ขณะที่ด้านท้องถิ่นจังหวัดสตูล พร้อมท้องถิ่นอำเภอควนโดน, นายดาเระ นาปาเลน นายกองค์การบริหารส้วนตำบล (อบต.) ควนสตอพร้อมคณะลงพื้นที่ภูกะโดน โดยมีนายวิทยา มะแอเคียน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ประธานป่าชุมชนตำบลควนสตอและคณะทำงานให้การต้อนรับ เพื่อร่วมกันพัฒนาเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยว ต.ควนสตอ อ.ควนโดน
พันจ่าเอกสาคร สิทธิศักดิ ท้องถิ่นจังหวัดสตูล กล่าวว่า การมาดูสถานที่แห่งนี้พบว่ามีความเหมาะสมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนอย่างมากไม่เหมือนที่ไหน เข้ากับยุคที่รัฐบาลต้องการเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากหลังสถานการณ์โควิด 19 ในยามที่เศรษฐกิจล่มสลายไปทั่วโลก การจะทำให้ธุรกิจฟื้นตัวต้องเริ่มต้นจากชุมชนก่อน
นอกจากชมธรรมชาติแล้วที่นี่มีป่าที่กินได้โดยเฉพาะผลไม้อย่างทุเรียน จำปาดะ ลองกอง เงาะ นับเป็นพื้นที่มีศักยภาพมากแม้สิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่มี ซึ่งต้องพัฒนาต่อคือถนนที่ยังยากลำบากอยู่โดยขณะนี้ได้ประสานกับทาง อบต.ควนสตอแล้วในการเข้ามาดูแล รวมทั้งจุดชมวิว แลนมาร์ค ห้องน้ำ พร้อมเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจ.สตูลและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยต่อไป
นายดาเระ นาปาเลน นายก อบต.ควนสตอ กล่าวว่า ทางท้องถิ่นพร้อมสนับสนุนและเข้ามาส่งเสริมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวภูกะโดน หลังสถานการณ์โควิด - 19 การท่องเที่ยวเชื่อว่าจะช่วยตอบโจทย์ในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและชุมชน หลังมีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก
นายวิทยา มะแอเคียน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ประะานป่าชุมชนตำบลควนสตอ กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้านคาดหวังหลังเกิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้คือ ชาวบ้านจะได้ประโยชน์คือเยาวชนห่างไกลยาเสพติดและมีรายได้ เยาวชนมีงานทำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวป่าในเมืองเนื่องจากห่างจากที่ว่าการอำเภอควนโดนไม่ถึง 1 กิโลเมตร โดยชาวบ้านร่วมกันต่อสู้จนได้เส้นทางจากท้องถิ่นมาสนับสนุน จุดขายนอกจากบรรยากาศธรรมชาติและวิถีชีวิตที่ชาวบ้านจะนำมาเป็นจุดขายด้วย
สำหรับพื้นที่ อ.ควนโดน จ.สตูล มีภูเขาน้อยใหญ่มากมายและถูกค้นพบเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วถึง 4 จุดชมวิวได้แก่ จุดชมวิวเขาภูน้อย - พญาบังสา ต.ย่านซื่อ, จุดชมวิวเขารูปช้าง ม.6 ต.ควนโดน, จุดชมวิวเขาบอฆะ ต.ควนสตอ และแหล่งที่ 4 น้องใหม่คือจุดชมวิวภูกะโดน ต.ควนสตอ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจมาสัมผัสบรรยากาศทะเลหมอกป่าในเมือง ป่ากินได้ โดยมีสตาร์ฟของป่าชุมชนและแม่บ้านชุมชนคอยเตรียมอาหารอำนวยความสะดวกพร้อมคำแนะนำ โดยสามารถติดต่อประธานป่าชุมชนตำบลควนสตอได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-291-6930, 086-974-3024
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี