2 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดอรัญญิกาวาส เดิมชื่อ “วัดเจริญธรรมวิหาร” ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีประวัติอันยาวนาน เป็นวัดโบราณสมัยขอม ประมาณศตวรรษที่ 10 ถึง 16 มีปูชนียสถาน คือ ปรางค์ขอม-เขมร ที่นับถือศาสนา พราหมณ์ มีพระปรางค์และระเบียงคด ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี สร้างเมื่อปี พ.ศ.2030-2035 โดย ขุนหาญ บุญไทย ซึ่งภายในวัดมีเจดีย์ 5 องค์ แบบบัวผันสร้างไว้ 4 มุม รอบพระปรางค์ปรางค์ ซึ่งปัจจุบันนี้เหลือแค่ทางทิศใต้เท่านั้น และบูรณะครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2425-2440
ซึ่งพระปรางค์ที่นี่ มีลวดลายประดับตามหน้าบัน และกลับขนุนเป็นรูปเทพพนม รอบๆองค์พระปรางค์มีระเบียงคดที่ประดับไปด้วยลายสลักภาพต่างๆ เช่น พระนารายณ์ทรงครุฑ และภาพวาดเทวดาต่างๆ ตามความเชื่อทางลัทธิพราหมณ์ อีกทั้ง ระเบียงคดนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินทราย พุทธศิลปะแบบอยุธยาประดิษฐานอยู่โดยรอบ เป็นพระพุทธรูปหินแดงสมัยลพบุรี ประดิษฐานอยู่จำนวน 41 องค์
ล่าสุด นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนางศาริสา จินดาวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี และนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ตรวจดูการบูรณะซ่อมแซมพระปรางค์และระเบียงคด วัดอรัญญิกาวาส หลังได้รับงบประมาณอุดหนุนการบูรณะ จำนวน 19 .4 ล้านบาท เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ซึ่งได้เริ่มนำเหล็กเส้นมาผูกต่อขึ้นไปบริเวณรอบพระปรางค์ พร้อมทยอยปรับปรุงรื้อระเบียงคดซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างไปแล้วบางส่วน
นายณัฐพล ระดาฤทธิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน เผยว่า แนวทางขอบเขตบูรณะจะมีพระปรางค์ประธานและพระปรางค์บริวารซึ่งเหลือเพียงองค์เดียว ตามหลักแล้วจะต้องมีอยู่จำนวน 4 องค์ หรือ 4 ทิศ จะบูรณะทั้ง 2 องค์ เสริมความมั่นคงลวดลายปูนปั้น ส่วนไหนที่หลุดหายไปก็จะเสริมเข้าไป จุดไหนที่อิฐชำรุดก็จะทำการซ่อมเปลี่ยนอิฐใหม่ เป็นอิฐเผาโบราณแบบดั้งเดิม มีการเคลือบน้ำยาป้องกันเชื้อรา บางส่วนที่โดนฟ้าผ่าไปพอมีหลักฐานเดิมจะปั้นขึ้นมา โดยรักษารูปทรงเดิมไว้
ส่วนกระเบื้องซีเมนต์เดิมที่เคยขุดเจอ พบว่า มีการปูด้วยอิฐโบราณเผา ซึ่งจะรื้อฟื้นกลับมาเป็นแบบเดิมตามหลักฐานที่ขุดพบทางโบราณคดี โดยการปูด้วยดินเผาและกระเบื้องดินเผา เป็นวัสดุที่ระบายความชื้นได้ดีกว่าซีเมนต์ ทำให้ตัวพระปรางค์และระเบียงคดมีอายุการใช้งานคงทน สามารถระบายผ่านวัสดุนี้ได้
ส่วนระเบียงคด มีหลักฐานที่ขุดเจอเป็นกระเบื้องดินเผาและกระเบื้องกาบกล้วยสมัยโบราณใช้มุงหลังคา กรมศิลป์จะยึดหลักฐานที่ค้นพบแบบเดิม สำหรับบริเวณระเบียงคดมีการขุดค้นพบประมาณ 3 ยุค ยุคที่เห็นเป็นยุคที่ 3 เหลืออีก 2 ยุคที่ซ่อนอยู่ มีหลักฐานไม่สมบูรณ์ จึงคงยึดในยุคปัจจุบันไว้ ส่วนหลังคาจากเดิมเป็นสังกะสี จะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผากาบกล้วย และมีจุดที่สำคัญต้องดำเนินการซ่อมแซมอีกหลายจุด
ด้าน นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เมื่อครั้งมี ครม.สัญจรของนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายปี 2562 จังหวัดได้นำเสนอโครงการเกี่ยวกับบูรณปฏิสังขรณ์วัดเก่าแก่ มีโบราณสถานของราชบุรี ได้แก่ วัดอรัญญิกาวาส วัดมหาธาตุวรวิหาร วัดคุ้งกระถิน ในปี 2563 ได้รับงบประมาณผ่านทางกรมศิลปากร ได้แก่ วัดอรัญญิกาวาสและวัดคุ้งกระถิน
ขณะที่มีประเด็นสำคัญโบราณสถานบอมเบย์เบอร์ม่าที่ จ.แพร่ ได้ติดตามข่าววัดหมื่นล้านที่ จ.เชียงใหม่ มีความกังวลใจ จึงประสานรองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 มาร่วมรับฟังกับชาวบ้านในพื้นที่ถึงแนวทางของกรมศิลป์ที่บูรณะพื้นที่อย่างไรบ้าง เพื่อความสบายใจกับโบราณสถานเก่าแก่ที่สำคัญไม่ถูกทำลายไป อนาคตอยากให้วัดอรัญญิกาวาส กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่เชื่อมต่อเส้นทางของเมืองราชบุรีในอนาคตด้วย
จากนั้นคณะได้ไปที่วัดคุ้งกระถิน ต.คุ้งน้ำวน อ.เมืองราชบุรี บริเวณประตูอุโบสถระบุก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2469 หรือในสมัยรัชกาลที่ 3 เริ่มสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563 สิ้นสุดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 งบประมาณ 4.3 ล้านบาท มีพระอธิการเสกสรร พันธมุตโต เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน โดยได้เริ่มทำการบูรณะทั้งด้านในและด้านนอกบางจุดแล้ว อุโบสถหลังนี้เป็นอุโบสถที่คงความงดงามในสมัยรัชกาลที่ 3 หน้าบันปูนปั้น ตรงกลางจะเป็นแจกันข้างๆ จะมีสิงโต 2 ตัวหางเป็นหงส์ ด้านข้างยังมีหงส์อีก 2 ตัว ด้านบนเป็นดอกไม้สวยงาม เป็นรูปแบบที่ค้ำอยู่ชายคารอบๆ เหมือนกับวัดเทพธิดาราม และยังมีศิลปะการปั้นมะกรซึ่งเป็นสัตว์ผสมระหว่างตัวมังกรกับตัวนาคเป็นสัตว์มงคลในสมัยโบราณที่อยู่คู่กับพระพุทธศาสนา บริเวณด้านหน้าอุโบสถยังมีรูปปั้นคล้ายหมาจู แต่ไม่ค่อยพบบ่อยนัก
นางศาริสา จินดาวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี เปิดเผยว่า ส่วนวัดคุ้งกระถิน ได้งบประมาณเต็มจำนวน 5 ล้านบาท แต่เปิดซองมาเป็น 4 ล้านบาทเศษ ที่วัดนี้มีการบูรณะชั้นหลังคา ตัวรอบพระอุโบสถ พื้นลาน ตัวกำแพงแก้ว ตัวกำแพงแก้วจะมีปัญหาเรื่องต้นไม้ จึงได้สอบถามทางวัดจนได้ข้อสรุปให้นำออกและให้คงเหลือไว้เพียงบางต้น สันนิษฐานคาดว่าก่อสร้างระหว่างปลายอยุธยาต้นรัตนโกสินทร์
ส่วนวัดอรัญญิกาวาส เป็นงบอุดหนุนจำนวน 19 ล้านเศษ โดยวัดจะออก 25 เปอร์เซ็นต์ ทางกรมศิลป์ออกให้ 75 เปอร์เซ็นต์ จะปรับปรุงองค์พระปรางค์ เจดีย์ประจำทิศ กำแพงแก้ว มีการใส่ตัวหลังคาใหม่ การปรับพื้นลาย ส่วนพระนอนยังไม่ได้อยู่ในการบูรณะเพราะเคยได้รับการบูรณะแล้วเมื่อปี 2547 โดยกรมการทหารช่าง ซึ่งรับแบบจากกรมศิลป์ไปดำเนินการเนื่องจากพื้นที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้
ส่วนการดำเนินการบูรณะวัดอรัญญิกาวาสจะใช้เวลาประมาณ 300 วัน โดยสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี ดูแลพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ จะดูแต่ละพื้นที่ไหนเข้าขั้นวิกฤตมีความเสียหายเยอะจะได้เร่งบูรณะก่อน ส่วนจุดไหนที่ยังพออยู่ได้ก็จะเข้าไปจัดทำรูปแบบไว้เพื่อเตรียมของบประมาณปีถัดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี