วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รื้อกำแพงโบสถ์กลางน้ำ เตรียมฟื้นเมืองบาดาล เป็นแหล่งท่องเที่ยวคู่เมืองสังขละบุรี

รื้อกำแพงโบสถ์กลางน้ำ เตรียมฟื้นเมืองบาดาล เป็นแหล่งท่องเที่ยวคู่เมืองสังขละบุรี

วันอาทิตย์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 13.33 น.
Tag : ฟื้นเมืองบาดาล รื้อกำแพงโบสถ์กลางน้ำ สังขละบุรี
  •  

พระมหาสุชาติ สิริปัญญโญ นำทีมชาวบ้านเข้าดำเนินการรื้อกำแพงโบสถ์กลางน้ำ เพื่อดำเนินการซ่อมแซมให้กลับมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว UNSEEN THAILAND คู่เมืองสังขละบุรี

วันที่ 2 สิงหาคม 2563 ที่บริเวณวัดจมน้ำ หรือ เมืองบาดาล  ซึ่งเป็นวัดวังก์วิเวการามหลังเก่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ช่วยกันนำเครื่องมือมาสะกัดกำแพงโบสถ์จมน้ำของวัดที่ถูกกระแสลมและคลื่นจากเรือนำเที่ยวพัดพังเสียหายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการก่อสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง


ทั้งนี้ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ ลดลงจนสามารถลงไปเดินได้ จึงนับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะในการซ่อมแซม  อีกทั้งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการซ่อมแซมจะทำให้กำแพงอุโบสถ ในส่วนที่เหลืออาจได้รับความเสียหายจนยากแก่การบูรณะซ่อมแซม  โดยกำแพงที่ต้องซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ในครั้งนี้มีความยาวประมาณ 15 เมตร สูง 10 เมตร โดยยังคงใช้วัสดุที่เป็นอิฐมอญในการก่อสร้างเหมือนเดิม โดยก่อนหน้านี้ทางกรมศิลปากร ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญลงดูพื้นที่พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการซ่อมแซมอุโบสถ แก่พระมหาสุชาติ และคณะกรรมการวัดวังวิเวการาม เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน

 

 

ในส่วนของการบูรณะซ่อมแซมทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแล ของพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ และคณะกรรมการวัด ส่วนงบประมาณในการก่อสร้างเป็นเงินของวัดส่วนหนึ่ง ในส่วนที่เหลือจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการทำบุญ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ในการก่อสร้าง  เช่น  อิฐมอญ หิน ทราย เหล็ก ปูนซีเมนต์ โดยชาวบ้านออกแรงช่วยการในการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ประชาชนและผู้ที่ต้องการร่วมทำบุญในการซ่อมแซมดบสถ์เก่าวัดจมน้ำ สามารถติดต่อได้โดยตรงที่พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวาการาม

ทั้งนี้โบสถ์หลังดังกล่าว ก่อสร้างขึ้นในปี 2479 พร้อมวัดวังก์วิเวการาม เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระหยกขาว พระพุทธรูปสำคัญของวัด โดยพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ )  อดีตเจ้าอาวาส พระเกจิชื่อดังของชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวมอญในประเทศไทยและประเทศพม่า โดยการก่อสร้างเกิดจากความร่วมมือของชาวอำเภอสังขละบุรี ทั้งคนไทย คนกะเหรี่ยง และคนมอญในสมัยนั้น   โดยหลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างด้วยตัวเอง โดยใช้วัสดุที่มีอยู่ในพื้นที่ เช่น  หินทราย จากริมแม่น้ำแควน้อย

 

 

ต่อมาในปี 2527 ภายหลัง กฟผ 1 ได้ทำการปิดเขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ) ทำให้น้ำท่วม จึงได้มีการย้ายชุมชนและวัด ขึ้นมาอยู่ในสถานที่ปัจจุบัน ด้วยความงดงามของวัดที่ตั้งอยู่กลางน้ำและความไม่เหมือนใคร ทำให้ในเวลาต่อมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ยกให้วัดจมน้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว UNSEEN THAILAND โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนั่งเรือมาท่องเที่ยวและชมความงดงามและแปลก ของโบสถ์แห่งนี้จำนวนหลายแสนคน

กระทั่งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 กำแพงโบสถ์ได้ถูกกระแสลมแรงและกระคลื่นจากเรือนำเที่ยว พัดจนผนังด้านทิศเหนือของโบสถ์แห่งนี้ได้พังลงมา โดยเบื้องต้นมีความยาวเพียง 5-7 เมตร ทางพระมหาสุชาติฯ  ได้พาชาวบ้านนำไม้ไผ่มาผูกเพื่อยึดผนังโบสถ์ในส่วนอื่น เพื่อป้องกันการพังเพิ่มขึ้นและรอการซ่อมแซมในช่วงที่น้ำลด เพื่อรักษาและอนุรักษ์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสังขละบุรี ให้อยู่คู่ชุมชนชาวมอญสังขละบุรีต่อไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ท่องเที่ยววันสงกรานต์สังขละบุรีเงียบเหงา คาดผลกระทบจากข่าวแผ่นดินไหว ท่องเที่ยววันสงกรานต์สังขละบุรีเงียบเหงา คาดผลกระทบจากข่าวแผ่นดินไหว
  • ชาวสังขละบุรี นทท.แต่งชุดประจำถิ่นร่วมพิธีเปิดสะพานลูกบวบ คู่สะพานมอญ ชาวสังขละบุรี นทท.แต่งชุดประจำถิ่นร่วมพิธีเปิดสะพานลูกบวบ คู่สะพานมอญ
  • อุทยานฯเขาแหลมปิด\'น้ำตกเกริงกระเวีย\'ชั่วคราว ประสบปัญหาภัยแล้งน้ำมีน้อย อุทยานฯเขาแหลมปิด'น้ำตกเกริงกระเวีย'ชั่วคราว ประสบปัญหาภัยแล้งน้ำมีน้อย
  • \'หมอชลน่าน\'นำทีมสวมใส่ชุดพื้นเมืองปะแป้งทานาคาทำบุญตักบาตรตามวิถีชีวิตชาวมอญ 'หมอชลน่าน'นำทีมสวมใส่ชุดพื้นเมืองปะแป้งทานาคาทำบุญตักบาตรตามวิถีชีวิตชาวมอญ
  •  

Breaking News

‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้

รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.

'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'

ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved