วันที่ 11 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณคลองชลประทาน หมู่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทองว่า มีป่าโสนขึ้นปกคลุมคลองชลประทานจนรกทึบเกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุและเป็นจุดที่มิจฉาชีพใช้เป็นที่ก่อเหตุจี้ปล้นคนที่ผ่านไปมาได้ รวมทั้งยังกีดขวางทางน้ำทำให้น้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร 

เมื่อผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบพบคลองดังกล่าวมีความกว้างประมาณ 10 เมตร มีถนนคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 4 เมตร ขนานทั้ง 2 ฝั่ง สภาพคลองมีต้นโสนและหญ้าวัชพืชขึ้นปกคลุมในคลองจนเต็ม และมีความสูงกว่าพื้นถนน คสล.สองฝั่งร่วม 2 เมตร จนไม่สามารถมองเห็นถนนฝั่งตรงข้ามที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางในหมู่บ้านไปสู่ทุ่งนาและพื้นที่การเกษตรกว่า 3,000 ไร่และยังเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ยุงลาย ตลอดจนอาจเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้สัญจรไปมาได้

นายมะนู ครองญาติ อายุ 60 ปี รองประธานหอการค้าจังหวัดอ่างทอง แกนนำเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตำบลศาลาแดง เปิดเผยว่า หลังเกิดภัยแล้งทำให้น้ำแห้งขอดคลอง แต่หลังจากเริ่มมีฝนตกลงมาทำให้ต้นโสน และวัชพืชต่างๆ ได้งอกงามขึ้นมาจนเต็มคลองปกคลุมเต็มไปหมด จนกีดขวางทางน้ำและทำให้น้ำในคลองเน่าเสียมีกลิ่นเหม็นตลอดสายเป็นระยะทางยาวกว่า 10 กม.กลายเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ยุงและมีสัตว์มีพิษต่างๆ อาศัยอยู่ 

นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ชาวบ้านที่ต้องสัญจรไปมา เพราะมองกันไม่เห็น รวมทั้งอาจมีมิจฉาชีพใช้เป็นที่ก่อเหตุจี้ปล้นคนผ่านทางได้ จึงขอฝากหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลคลองดังกล่าว ช่วยดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นคลองสวยน้ำใสแบบเดิมต่อไป