14 สิงหาคม 2563 จากกรณีที่ นายนพ สุขาภิรมย์ อายุ 67 ปี ชาวอำเภอเมืองราชบุรี เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน และนำเอกสารหลักฐานข้อความการสนทนายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดราชบุรี และร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามเงินและทรัพย์สิน รวมทั้งสินประมาณ 1 แสนบาท จากนางสาวอัจฉรา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี มีอาชีพเป็นครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
หลังรู้จักกันทางเฟสบุ๊ก โดยที่ทั้งคู่ขึ้นสถานะว่าโสดจึงได้คุยกันจนคบหาเป็นแฟน ประมาณปลายปี 2562 ถึงกระทั่งฝ่ายหญิงไปมาหาสู่และมาอยู่กินกันฉันสามีภรรยาช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ประมาณปลายเดือนมกราคม 2563 ที่บ้านของฝ่ายชายใน อำเภอเมืองราชบุรี และถูกหลอกให้ช่วยชำระค่าผ่อนงวดรถยนต์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมไปถึงค่าเตรียมปลูกบ้านของฝ่ายหญิงในจังหวัดพังงา ซึ่งได้มีการตกลงกับครอบครัวฝ่ายหญิงผ่านทางวีดีโอคอล
เมื่อถึงเวลานายนพ ขอฝ่ายหญิงจดทะเบียนสมรสและเดินทางไปกราบว่าที่แม่ยาย กลับถูกบ่ายเบี่ยงและหนีหายออกจากบ้านพักกลับไปยังบ้านที่จังหวัดพังงา ซึ่งนายนพ พยายามติดต่อกลับถูกครูสาวตัดขาดทุกช่องทาง และพยายามใช้สื่อออนไลน์ในจังหวัดพังงาช่วยตามหา จนเจ้าตัวติดต่อกลับและขอให้ลบภาพและข้อความ เพราะได้รับความเสียหายต่อตัวเองและหน้าที่การงาน จนกระทั่งมารู้อีกทีฝ่ายหญิงมีครอบครัวและเข้าพิธีหมั้นกับหนุ่มใหญ่ในบ้านเดียวกัน โดยที่พยายามติดต่อยาติฝ่ายครูสาวกลับไม่สามารถติดต่อได้ และรู้ตัวเองว่าถูกหลอก โชคดีไหวตัวทันก่อนสูญเงินที่มีอยู่กว่า 5 แสนบาทในตู้เซฟ
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากทนายความของครูสาวที่ถูกกล่าวหา เพื่อที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมด้วยทนายความ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบ
ครูสาว เล่าว่าตนเองรู้จักกับ นายนพ เมื่อปลายปี 2562 ตนเองรู้จักกันทางเฟสบุ๊ก เขาทักแชทมาตนจึงได้ทักแชทไป ก็มีการพูดคุยกันตลอด และตนเองก็โสด มีทะเบียนหย่าแสดงชัด หลังจากที่ได้พูดคุยกันสักระยะหนึ่ง จนขอคบหากันเป็นแฟน ตนเองเป็นฝ่ายขับรถยนต์ไปหาฝ่ายชายเองที่จังหวัดราชบุรี ช่วงวันหยุดจริง แต่ไม่เคยไปอยู่เป็นเดือนๆ มากสุดก็แค่ 2 คืน ส่วนเรื่องที่พูดคุยกับทางญาติของตนเองนั้น ไม่ได้พูดคุยกันเป็นทางการแค่พูดคุยหยอกเล่นกัน และเรื่องที่ตกลงกันว่าให้ช่วยผ่อนรถยนต์ ก็ไม่จริง เพราะตนเองไม่ได้ไปออกรถยนต์ใหม่ ที่ขับไปหาเขาก็ยืมรถยนต์ของน้องสาว ซึ่งซื้อก่อนที่จะรู้จักเขาด้วยซ้ำ และที่เขาอ้างว่าช่วยผ่อนค่างวดรถตั้งแต่เดือนกุมพันธ์ 2563 นั้นเป็นไปไม่ได้เพราะตนเองมีรายการเงินเข้าออกบัญชีอยู่
รวมไปถึงที่บอกว่าเขาเสียเงินไปร่วมแสนบาทนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเงินที่เขาโอนมาให้เป็นแค่ค่าใช้จ่ายการเดินทางไปหาเขา นับได้จำนวนปรมาณ 5 ครั้ง ซึ่งรวมเป็นเงินแล้วอยู่ที่ไม่เกิน 30,000 บาท และเรื่องที่เขาบอกว่าทางแม่และญาติตนเองถามว่าเขามีทรัพย์สินอะไรบ้างนั้น ตนเองก็ไม่เคยถาม เพราะไม่เคยคิดที่จะหลอกลวงเขา ช่วงที่คบกันเราก็ให้เขา อย่างคอมพิวเตอร์ ที่ขนไปให้จากพังงา ราคาก็หลักหมื่น ถ้าเราคิดจะหลอกเขาคงไม่ทำแบบนี้ ส่วนเงินที่เป็นค่าซื้อแอร์ จำนวน 13,000 บาท และค่าถมที่อีก 10,000 บาท นั้นทางตนเองได้มีการโอนเงินคืนให้แล้ว จำนวน 11,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.2563 และของพัดลม กับแอร์มือสอง ได้ส่งกลับไปให้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2563 แล้วเช่นกับ ตนจึงอยากทราบว่าทำไม่นายนพ ไม่พูดถึงเลย
ครู กล่าวต่อว่า หลังจากที่คบหากันมาประมาณ 4 เดือนกว่า ตนเองก็ได้คุยกับเขาว่า เราน่าจะไปด้วยกันไม่ได้ จึงขอยุติความสัมพันธ์ ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.2563 ซึ่งตอนเองก็ไม่ได้ติดต่ออีกเลย จนมาทราบข่างในโลกออนไลน์ ว่าเขาเอาเราไปโพสในกลุ่มต่างๆ ในด้านลบ ตลอดช่วงเดือนมิถุนายน โดยตนเองไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย และล่าสุดได้มีการนำเสนอข่าวในโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ หลายสังกัด จนทำให้ตนเองขายหน้า ถูกดูหมิ่น จนต้องลาออกจากการเป็นครู เพราะทนแรงเสียดทานไม่ไหว วันนี้เลยออยากออกมาพูดบ้างเพื่อให้สังคมรับรู้ ว่าเราไม่หลอกหรือต้มตุนเขา แต่ทุกสิ่งที่เขาให้มานั้นมันเป็นช่วงที่เราคบกันด้วยใจและไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนหหรือจะไปหลองลวง ต้มตุ๋นแต่อย่างใด
ทั้งหลังจากได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวครูสาวพร้อมทนายความ ก็ได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักสอบสวน สภ.คุระบุรี อ.คุระบุรี จ.พังงา เพื่อดำเนินคดีกับนายนพต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี