เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ในขณะที่หลายอาชีพต่างดิ้นรนเพื่อให้ตนเองฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ไปให้ได้ แต่มีอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ที่ทำคือ อาชีพหมอดู สำหรับอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีหมอดูขึ้นชื่อและเป็นที่นิยม โดยแต่ละวันจะมีผู้คนหลากหลายอาชีพต่างเดินทางมาเข้าคิว เพื่อให้หมอดูรายนี้ดูดวงไม่ต่ำกว่าห้าสิบราย ถึงขนาดจะต้องลงคิวจองล่วงหน้า และนั่งรอเพื่อให้หมอดูรายนี้ดูดวงให้ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว พบว่าหมอดูรายนี้ชื่อนางสาวไปรยา นุสคง อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างและมีชื่อเรียกกันติดปากในเกาะสมุยในนาม 'หมอดูถั่วเขียว' หรือหมอดูเขียว

ทางด้านนายทัศนพงศ์ เพชรรัตน์ ลูกค้ารายหนึ่งที่มาดูดวง กล่าวว่า ตนเองได้มาใช้บริการเพื่อปรึกษาชีวิตประจำวัน และอนาคต เพื่อวางแผนการใช้ชีวิตในอนาคตเช่น เรื่องการงาน เรื่องการขายที่ดิน ซึ่งการมาให้มาดูเพื่อเป็นกำลังใจสู้ชีวิต ที่สำคัญความหวังของเราที่คาดหวังไม่ต้องหวังให้เยอะแต่ต้องไปให้ถึง

นางสาวไปรยา นุสคง หรือหมอดูเขียว กล่าวว่า ตนเองประกอบอาชีพหมดูมาแล้วประมาณเก้าปี ซึ่งก่อนหน้าที่เปิดร้านเสริมสวย แต่ได้มาเปลี่ยนอาชีพเพราะเห็นคนเดือดร้อนขาดที่พึงทางจิตใจ ประกอบกับตัวเองพอมีความสามารถจึงได้ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน จากการช่วยเหลือดังกล่าวคำแนะนำที่ตนได้แนะนำไปสามารถแก้ปัญหาให้กับเพื่อนๆ และคนสนิทจนเป็นที่ยอมรับ จึงได้หันมาประกอบอาชีพดูดวงเพียงอย่างเดียว ที่จริงตนเองไม่อยากประกอบอาชีพนี้ แต่ด้วยที่ตนเองมีสัมผัสพิเศษจึงได้นำความสามารถพิเศษนี้มาใช้ช่วงสังคม

ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาให้ดูดวงจะขอให้ดูเรื่องอะไร หมอดูเขียว กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาให้ดูดวงจะเป็นผู้หญิง ส่วนเรื่องที่ให้ดูคือ เรื่องการเงิน เช่น จะได้งานทำเมื่อไหร่ จะขายที่ดินได้มั้ย และจะทำธุรกิจอะไรถึงได้เงิน จะมีโชคลาภวาสนาอะไรเข้ามาในชีวิตบ้าง ซึ่งเรื่องพวกนี้ในปัจจุบันตนเองในฐานะหมดดู ดวงชะตาต้องตอบอยู่ตลอด ซึ่งตนได้แนะนำหลักการดำเนินชีวิตในช่วงวิกฤตให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้ไว้

ถึงแม้ตัวเองจะประกอบอาชีพหมอดูแต่ไม่เชื่อทั้งหมดดูเพื่อให้เป็นแนวทาง เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องโดยอยู่บนหลักวิทยาศาสตร์ สำหรับอาชีพหมอดูตนเองคิดว่าเป็นอาชีพที่ช่วยคนหาทางออกของชีวิตไม่เจอ และการที่มีผู้มาดูดวงจำนวนมากก็ได้ส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

บางครั้งมีโทรศัพท์เข้ามาให้ช่วยเหลือถึงแม้ตนเองจะไม่รู้จักก็ได้ช่วยเหลือไป บางคนตนเองดูดวงให้เห็นว่าลำบากขาดที่พึงทางใจ ตนเองก็จะไม่รับเงินในการดูดวงถึงแม้จะมีค่าดูเพียง 199 บาท นอกจากนี้บางรายที่มาให้ดูดวงยังได้ให้เงินช่วยเหลือเพื่อให้ไปตั้งตัวอีกด้วย ซึ่งถือว่าว่าเงินที่เราได้จากการดูดวงสามารถให้ผู้ที่เดือดร้อนไปต่อชีวิต และเป็นที่พึงสุดท้ายของทุกคน