นักท่องเที่ยวจังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้าชมพระอุโบสถรากไม้ มูลค่า กว่า 100 ล้านบาท สวยงามที่สุดในประเทศไทย ที่ใช้รากไม้ตะเคียนทอง ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ รากไม้กันเกรา มาตบแต่ง เกาะสลักพุทธประวัติอย่างสวยงาม พร้อมกราบไหว้ไม้ตะเคียนเกาะสลักเจ้าแม่กวนอิม  กับขึ้นยอดเขาถ้ำประทุน กราบไหว้รอยพระพุทธบาท ชมทิวทัศนียภาพ ด้านบนเขาสวยงาม ลงมาจากเขากราบไหว้ตะเคียนยักษ์ นั่งน้ำตกแบบธรรมชาติ เย็น ณ วัดเขาถ้ำประทุน หมู่ที่ 12 ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

พระอธิการบุญยืน ปริชาโน เจ้าอาวาส วัดเขาถ้ำประทุน กล่าวว่า ที่วัดมีจุดท่องเที่ยวหลายจุด พร้อมกับแนะนำจุดท่องเที่ยวภายในวัด โดยไฮไลท์บนยอดเขาถ้ำประทุนที่มีมณฑป ครอบรอยพระพุทธบาททางด้านเท้าขวา ของพระพุทธเจ้าไว้ เข้าชมพระอุโบสถ สร้างด้วยรากไม้หลายชนิด  และมีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งผิดแปลกกว่าพระอุโบสถตามวัดต่าง ๆ ในเนื้อที่ของวัดกว่า 200 ไร่ พร้อมกับกราบไหว้พระประธาน ที่แกะสลักด้วยไม้ตะเคียนทองที่มีอายุกว่าก่อนกรุงศรีอยุธยา และยังมีตอไม้ตะเคียนแกะสลักเป็นปริศนาธรรม  ได้ชมการนำไม้แกะสลักไม้ตะเคียนทอง ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ และ ไม้ อื่นๆ แกะสลักตามลวดลายต่าง ๆ มาให้นักท่องเที่ยวเขียนชื่อบรรพบุรุษที่เสียชีวิตแล้ว ติดหลังไม้แกะสลักเพื่อนำไปติดบนฝาหลังคาโบสถ์   เสาไม้สักขนาดใหญ่

โดยเกาะเป็นเป็นภาพพุทธประวัติ ต้นหนึ่งมีมูลค่าหลายแสนบาท  ส่วนอื่น ๆ นั้นได้นำเศษไม้ต่าง ๆ มาเกาะเป็นรูปพระเกจิดัง พร้อมกับรูปหลวงพ่อพุทธชินราช โดยใช้เครื่องกัด และแกะสลักควบคุมด้วยระบบ C N C คอมพิวเตอร์   พร้อมกับมีการจำหน่ายให้กับญาติโยมที่มาเข้าชมไปกราบไหว้ หรือนำไปเป็นของขวัญให้ญาติผู้ใหญ่ หรือในงานพิธีต่าง ๆ  เพื่อหารายได้เข้าวัดได้อีกด้วย  

นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวก่อนเดินขึ้นยอดเขา  แวะกราบไหว้รูปเกาะสลักของเจ้าแม่กวนอิม ด้วยไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในศาล ติดกับทางขึ้นบันไดปูน 700 ขั้น เพื่อขึ้นไปยังมณฑป บนยอดเขาถ้ำประทุน ที่ครอบรอยพระพุทธบาททางด้านเท้าขวา ของพระพุทธเจ้าไว้ เพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ เพื่อเป็นสิริมงคล ส่วนพระพุทธบาทด้านเท้าซ้าย นั้นทางเจ้าอาวาสนั้นได้พบแล้ว ซึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้ไปอีก 2 กิโลเมตร แต่ยังขาดปัจจัย ไปบูรณะ

หลังจากนักท่องเที่ยวได้กราบไหว้รอยพระพุทธบาทเรียบร้อยต่างมายืนโซฟี่ ตามมุมสูงรอบมณฑปได้บรรยากาศมุมสูง เย็นสบาย สวยงามตามท้องทุ่งนา และไร่อ้อย สร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนยอดมณฑป แบบเย็นสบาย

หลังจากที่ลงมาจากยอดเขาแล้ว มานั่งพักผ่อนที่น้ำตกแบบธรรมชาติ หน้าศาลาพระอุโบสถรากไม้  ใต้ต้นแบบธรรมชาติ  นั่งมองยอดเขาผ่านตัวมังกรเงิน  มังกรทอง  พอหายเหนื่อย  ขากลับบ้านแวะกราบไหว้  เจ้าแม่ตะเคียนทรายทองศรีประภาไพ  มีความยาวถึง 18 เมตร ลำต้นประมาณ 6.70 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 2 เมตร โดยทางวัดได้นำมาจากภาคใต้  เพื่อนำมาเกาะเป็นรูปพุทธประวัติ ที่ตั้งตระงานอยู่หน้าวัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวขอพร ขอโชคลาภ ที่มีชาวบ้านต่างถูหวยกันมาหลายงวดติดต่อกันอีก