ในสถานการณ์ปัจจุบัน... สิทธิมนุษยชนความเท่าเทียมของ “กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ” หรือ “LGBTQ” เป็นประเด็นสำคัญที่ถกเถียงกันบ่อย ในยุคนี้ ในทางเดียวกันก็ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่ยังไม่รู้ว่า “LGBTQ” คืออะไร หรือบางคนที่รู้แต่ปิดกั้น ไม่ยอมเปิดใจกับกลุ่มที่เป็น “LGBTQ” วันนี้ "ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้มีโอกาสไปพูดคุยแรกเปลี่ยนความคิดเห็น ในมุมมอง “เรื่องเพศที่สาม” หรือ “LGBTQ” บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ผ่าน “จ๊าบ วีระชน แจ่มจันทร์” บัณฑิตจบใหม่ป้ายแดง จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ซึ่งปัจจุบัน เป็นนักการตลาดคลินิกเสริมความงาม นักเขียนบทความการตลาดแห่งหนึ่ง
ก่อนอื่นมาเริ่มต้นทำความรู้จำคำว่า “LGBTQ” กันก่อน “LGBT” คือ คำที่ใช้เรียกกับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ และเป็นการนำตัวอักษรตัวแรกของ Lesbian, Gay, Bisexual และ Transgender มารวมกัน ปัจจุบันมีการเพิ่มเป็น “LGBTQ” ตัวอักษร “Q” มาจากคำว่า “Queer” เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่มีความหลากหลายทางเพศอื่นๆ
“นายวีระชน แจ่มจันทร์” ให้ความเห็นเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นการเป็น “LGBTQ” ของตัวเองว่าเริ่มรู้สึกเป็นตอนไหน?
"ตนเองไม่รู้ว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่ แต่รู้ตัวว่าเป็นตอนไหน ตนเริ่มชอบแต่งหน้าแต่งตัว ตอนช่วงมัธยมต้น ตอนนั้นรู้สึกว่าการใช้ชีวิตค่อนข้างลำบากเพราะ เรามีเพื่อนผู้หญิง และสิ่งที่เป็นด่านสำคัญที่ยากมาก ๆ คือ ครอบครัวของตนยังไม่รู้ว่าตนเป็น และ ตนอยากให้คนทั่วไปเลิกใช้คำว่าเพศที่สาม เพราะมองว่าสุดท้ายแล้ว อยากให้มองว่า พวกเรา “LGBTQ” ก็เป็นคนปกติเช่นเดียวกัน อยากให้ทุกคนมองว่าเราเท่าเทียมกันหมดไม่ว่าจะเป็นเพศไหน”
นาย วีระชน ให้เหตุผลอีกว่า การที่ทำให้ทุกคนมายอมรับในจุดยืนของพวกเรา เป็นเรื่องที่ยากมาก โดยตนเอง พร้อมที่จะอธิบายให้คนที่เปิดใจและยอมรับได้ แต่กลับบางกลุ่มที่ไม่ยอมรับหรือไม่เปิดใจเลย ตนคิดว่า ควรที่จะปล่อยผ่าน เอาเวลาที่อธิบายให้คนที่ไม่ยอมรับฟัง ไปพัฒนาตัวเอง เอาเวลามาทำในสิ่งที่เราชอบให้เกิดประโยชน์ดีกว่า และที่สำคัญ ครอบครัวควรเป็นด่านแรกที่ยอมรับเราได้ ส่วนตนรู้สึกโชคดีมาก ที่ได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวที่มีความทันสมัย ยอมรับที่เราเป็นเรา ซึ่งตัวเราเองก็ต้องพยายามทำความเข้าใจ และบอกเค้าไปตรง ๆ เพื่อเค้าจะปรับตัวอยู่กับเราได้
นายวีระชน ยังกล่าวอีกว่า การที่เราทุกคนจะมีความมั่นใจในตัวเองนั้น อันดับแรกคือต้องมองเห็นคุณค่าในตัวเราเองก่อน เรารู้ว่าเรามีดีอะไร เราสามารถนำด้านที่ดีของเราไปเปิดเผยให้คนอื่นเห็นได้ไหม ซึ่งส่วนนี้คือสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจ สุดท้ายแล้วมันเกิดขึ้นจากธรรมชาติในตัวเรา
“กลุ่มคน LGBTQ ต้องเสียสิทธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิเกี่ยวกับการรักษา หรือสิทธิเรื่องของประกันชีวิต ไม่ใช่เรื่องของความเท่าเทียมกันอย่างเดียวมันเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันด้วยและเรื่องของคุณภาพชีวิตด้วย” นายวีระชน กล่าว
ท้ายสุดการเป็น “LGBTQ” พ่อแม่เป็นห่วงกลัวว่าจะหางานทำไม่ได้ เพราะฉะนั้น เวลาทำงานที่องค์กรไหน ก็จะถามเลยว่าทางองค์กร มีความ bias กับกลุ่ม “LGBTQ” หรือป่าว เช่นเดียวกันเราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือวางตัวให้เข้ากับองค์กรนั้น ถ้าเราสามารถทำได้ดี งานทุกอย่างก็จะออกมาดี งานหลายๆ งานไม่ได้ปิดกั้น เลยสำหรับคนที่เป็น “LGBTQ” ขึ้นอยู่กับสายงานที่เราจะทำ ขึ้นอยู่กับความสามารถของเรา ถ้าเราเต็มที่กับสิ่งที่เราชอบ การหางานไม่ใช่เรื่องยาก
“สุดท้ายนี้ขอฝากถึงน้องๆเพื่อนๆ ที่เป็น “LGBTQ การที่สังคมจะยอมรับหรือไม่ยอมรับขึ้นอยู่กับการวางตัว เพราะการวางตัวคือสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน” จ๊าบกล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี