วันที่ 16 กันยายน 2563 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี 2563 ณ รร.แมนดาริน ย่านสามย่าน กรุงเทพฯ โดย น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า วันเยาวชนแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 20 กันยายน ของทุกปี ซึ่งในปีนี้ สสส. จัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “กับดัก เยาวชน” สื่อถึงเยาวชนต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง 4 ด้าน ได้แก่ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การหลงอยู่ในวังวนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน และอุบัติเหตุ
โดยภายในงานยังมีตัวแทนเยาวชนที่เคยผ่านประสบการณ์ก้าวพลาดมาบอกเล่าเรื่องราว อาทิ นายเอ (นามสมมติ) ผู้เคยติดการพนันออนไลน์ เปิดเผยว่า ตนเริ่มเล่นตั้งแต่อายุ 16 ปี นิยมเล่นบาคารามากที่สุด จากแรกๆ ใช้เงินเล่นเพียงหลักร้อยบาท ต่อมาเพิ่มเป็นหลักพันบาท ทั้งที่ตนมีงานทำแต่ก็ไม่มีเงินเหลือ ซ้ำร้ายยังต้องเที่ยวหยิบยืมคนอื่นทั่วไปหมด นานวันเข้าก็เหมือนถูกผีพนันเข้าสิง เพราะยิ่งเสียก็ยิ่งเล่นหนักขึ้น
“คืนเดียวเคยหมดเงินกับบาคาราไป 40,000 บาท เงินที่เสียไปก็ยืมมา ตอนนั้นเครียดมาก บอกที่บ้านก็ไม่ได้ จึงตัดสินใจขายรถมอเตอร์ไซค์คันโปรดใช้หนี้ แต่ก็ใช้ได้แค่ครึ่งเดียว ต้องไปขอร้องเจ้าหนี้ผ่อนจ่ายส่วนที่เหลือ กว่าจะผ่านมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย อยากฝากถึงคนที่คิดจะเล่นพนันว่าเราไม่มีทางชนะมันได้ เพราะเขาออกแบบมาให้เรามีแต่เสียกับเสีย อย่าเอาเงินและอนาคตมาเสี่ยงดีกว่า” นายเอ กล่าว
ขณะที่ นายบี (นามสมมติ) เล่าว่า ตนเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และเมื่อเป็นวัยรุ่นก็ดื่มหนักขึ้นเพราะติดเพื่อน ตั้งวงดื่มกันทุกวันและไม่สนใจการเรียน กระทั่งเจอกับเหตุการณ์ที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด นั่นคือวันหนึ่งตนขี่มอเตอร์ไซค์จะไปรับแฟนทั้งๆ ที่เพิ่งดื่มจนเมา ระหว่างทางมีคนเดินตัดหน้าจึงหักหลบไปจนกับเสาไฟฟ้าถึงกับสลบ ขาหัก 2 ท่อนและต้องใช้เนื้อสะโพกมาปะที่ขา ใช้เวลารักษารวมๆ แล้วราว 2 ปีกว่าจะกลับมาพูดคุยได้ปกติ จึงขอเตือนว่าถ้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วอย่าขับขี่ยานพาหนะโดยเด็ดขาด
อีกด้านหนึ่ง นายซี (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนใช้ชีวิตเป็นเด็กแว้น หรือนักซิ่งมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ชอบรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะความท้าทายอยู่ที่การสามารถขี่หนีการจับกุมของตำรวจได้ซึ่งเวลานั้นมองว่าเป็นเรื่องสนุก แม้จะเคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้งก็ตาม ทั้งนี้ตนเห็นว่า การจะปราบเด็กแว้นให้หมดไปคงทำได้ยาก เพราะสาเหตุที่คนเหล่านี้ออกมาเพราะเขาไม่มีพื้นที่ ควรจัดพื้นที่ที่เด็กๆ เข้าถึงได้สนุกได้ ตื่นเต้นได้ สร้างสรรค์ได้ แสดงออกตามที่ชอบ ซึ่งจะได้ผลมากกว่าการปราบ
นอกจากเรื่องเล่าพฤติกรรมเสี่ยงของ 3 วัยรุ่นชายข้างต้นแล้ว ยังมี น.ส.ข้างกาย เอรียาสกุล เจ้าของเพจ “KhangGuy-ผู้หญิงที่ชื่อข้างกาย" จากเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศเมื่อวัยเด็ก สู่การเปิดเพจให้คำปรึกษาและผลักดันกฎหมายแก้ปัญหาข่มขืน มาบอกเล่าอดีตที่เลวร้ายของตนว่า เคยเป็นเหยื่อจากการคุกคามทางเพศตั้งแต่อายุได้เพียง 4 ขวบ ซึ่งคนที่พยายามล่วงละเมิดทางเพศมีอยู่คนเดียวที่เป็นคนแปลกหน้า นอกนั้นเป็นคนที่รู้จักทั้งสิ้น
“ตัวเราเด็กเกินกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร แล้วก็สื่อสารไม่ได้ นี่คือปัญหาของเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ มันเลวร้ายมาก ในความคิดตอนนั้น รู้สึกหมดสิ้น ไร้ค่า รับตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นไม่กล้าแจ้งความ เพราะอาย และไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อน ไม่สนิทใจจะคุยให้ใครฟังหรือขอความช่วยเหลือ จึงเข้าใจเหยื่อที่โดนกระทำแล้วไม่พูดไม่บอก” น.ส.ข้างกาย ระบุ
น.ส.ข้างกาย ยังกล่าวอีกว่า เหตุที่ตนตัดสินใจนำอดีตที่เก็บไว้มาตลอด15 ปี ออกมาเปิดเผย เพราะอยากเป็นกระบอกเสียง เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่สังคมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เกิดการผลักดันกฎหมายแก้ปัญหาข่มขืน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำคลิปเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาล ด้านการใช้ชีวิต การทำธุรกิจ แต่ก็ยังไม่เคยคิดที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แต่ที่ต้องออกมาพูดคือ อยากให้สังคมในอนาคตปลอดภัยมากกว่านี้
เพราะไม่สามารถที่จะเปลี่ยนอดีตของตนได้ แต่ถ้าตอนนี้เริ่มทำอะไรสักอย่าง มันจะเริ่มปรับเปลี่ยนไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน นอกจากนี้สิ่งที่อยากให้สังคมปรับเปลี่ยน คือมีพื้นที่ให้เหยื่อออกมาพูดแบบที่ไม่โดนประณาม ขอความเห็นใจจริงๆ ไม่ใช่ไปให้ท่า แต่งตัวโป๊หรือไม่โป๊มันไม่เกี่ยว มันอยู่ความคิดคนที่ถูกปลูกฝังมาจากครอบครัว สถานศึกษา และสังคม การสอนให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวก็เข้าใจได้ แต่ผู้ชายก็ไม่ควรข่มเหงผู้หญิงเหมือนกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี