‘เต็มสุข เต็มอิ่ม เต็มถัง’! ตราดกางแผนใหญ่ดันท่องเที่ยว ปรับลุคใส่ใจ‘ไพรเวท’

22 กันยายน 2563 ที่ศูนย์รักษ์คันนา บ้านคันนา ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด เปิดประชุมหารือกับชุมชน และผู้ประกอบการเพื่อหารือแนวทางส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนในปี 2564 มีผู้ประกอบการท่องเที่ยว ชุมชนท่องเที่ยว สื่อมวลชน จ.ตราด และส่วนราชการร่วมประชุม

นายอิฐฏา กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง และต้องการหาแนวทางใหม่ในการส่งเสริมท่องเที่ยวในปี 2564 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งวันนี้มีการนำอาหารจากชุมชนท่องเที่ยว 14 ชนิดมานำเสนอให้ทุกท่านได้ลิ้มลองในรสชาติของอาหารชุมชน ส่วนกิจกรรมที่เราน่าจะยกระดับและพัฒนาต่อไปให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นโดย ททท.สำนักงานตราดได้จัดทำกิจกรรมและแนวนโยบายไปแล้ว โดยเฉพาะในปี 2564 จะจัดกิจกรรมครั้งใหญ่ใช้ชื่อว่า “ตราดเติมเต็ม” ประกอบด้วย กิจกรรมย่อย 3 กิจกรรม คือ ตราดเต็มสุข , ตราดเต็มอิ่ม และตราดเต็มถัง ซึ่งจะเน้นการส่งเสริมชุมชนของ จ.ตราด เป็นหลัก โดยในเดือนตุลาคม 2563 จะมีรถบิ๊กไบด์ 100 คันมาเที่ยว จ.ตราด ในถนนสายตราด-คลองใหญ่ เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมอื่นๆจะตามมา รวมทั้งการทำป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ที่สามแยกไป อ.คลองใหญ่ เพื่อประชาสัมพันธ์ จ.ตราด ด้วย

ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานตราด กล่าวว่า ที่ผ่านมาโควิด 19 เป็นเวลา 6 เดือน ททท.สำนักงานตราดได้ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว , ส่วนราชการ และภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ เช่น คิดให้ไกลไปให้ถึงตราด ที่ส่งเสริมให้ห้องพักซื้อ 1 คืน แถม 1 คืน ซึ่งมีการซื้อถึง 350 ห้อง และมีรายได้เข้ากว่า 2.5 ล้านบาท มีโรงแรมร่วม 50 แห่ง หรือการจัดกิจกรรมวันเดย์ทริปเที่ยวตราดใน 5 เส้นทาง มีประชาชนร่วม 700 คน เกิดรายได้ชุมชนหลายแสนบาท หรือการขับรถยนต์ท่องเที่ยวเป็นครอบครัวมีผู้เข้าร่วมกิจกิจกรรม 200 คัน , กิจกรรมอร่อยไปทุกที่ ชิมไปทุกสวน มีผู้เข้ามาซื้อจำนวน 1,700 ใบเสร็จ มีรายได้กว่า 8.5 แสนบาท หรือการจัดกิจกรรมยกระดับโรงแรมให้ถูกสุขอนามัย ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวน 234 คน จากการอบรม 4 ครั้งในทุกอำเภอ

สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และโรงแรมใน จ.ตราด ยังได้เสนอให้ชุมชนท่องเที่ยวจัดกิจกรรมที่เอื้อต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว จ.ตราด แบบไพรเวท หรือส่วนตัว เพราะกลุ่มนี้จะไม่ค่อยได้รับความสนใจเพราะชุมชนท่องเที่ยวจะเน้นรับกรุ๊ปทัวร์มากกว่า จึงทำให้เวลาไปท่องเที่ยวจะไม่ได้รับการดูแลเหมือนกรุ๊ปทัวร์เท่าไร