วันที่ 29 กันยายน 2563 นายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานอำนวยการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์ กล่าวเปิดใจกับ “ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์” เกี่ยวกับกรณีที่โลกโซเชียลได้เปิดโปงพฤติกรรมของ "ครูจุ๋ม" ทำร้ายลูกศิษย์ ทั้งจิกผม ผลักจนล้ม จนเด็กหวาดผวา และแสดงอาการไม่อยากไปโรงเรียนให้ผู้ปกครองได้เห็น ขณะที่ครูที่อยู่ในห้องอีก 2-3 คนไม่มีใครเข้าไปห้ามปรามแต่อย่างใด ว่า พรุ่งนี้เราจะปรับเปลี่ยนในห้องอนุบาลใหม่ พูดตรงๆ เห็นว่าทางโรงเรียนเขาทำไม่ถูกต้องไปที่ไปให้เด็กอนุบาลเรียนหนังสือ ซึ่งมันผิดธรรมชาติของเด็กอนุบาล1เท่านั้นเอง จะไปเอาอะไรกับเขา ส่วนผู้ปกครองบางคนก็ไม่เข้าใจไปเรียกร้องมากเกินไป ซึ่งมีความคาดหวังในตัวลูกมากเกินไป ทั้งนี้ โรงเรียนของเราก็มีหลายแห่ง ผลกลับกันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาก็ดีเหมือนกับ ตนกลับมองว่าเป็นแง่บวกเพราะจะได้แก้ไขจุดบกพร่องได้ การมีข่าวออกมากระทบแบบนี้จะได้แก้ปัญหาได้ ถ้าเราทำไม่ดีเขาว่ามาก็ต้องขอบคุณเขา และต้องแก้ไขโดยด่วน ที่เกิดเหตุอย่างนี้เป็นเพราะติดกล้องวงจรปิดแต่ไม่ยอมเช็คดูกล้อง ผู้บริหารก็ไม่ยอมดูมันถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา
นายพิบูลย์ กล่าวอีกว่า มีหลายคนคนเป็นห่วง แต่ได้บอกว่าไม่เป็นไร เพราะโรงเรียนเรามีหลายแห่งบางแห่งก็มีผู้บริหารที่ดี และบางที่ก็มีผู้บริหารที่ไม่ดีเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็ต้องค่อยๆ แก้ไป ที่สุดแล้วผู้บริหารไม่ดี และครูก็เหมือนกัน ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ครูต่างประเทศในเครือกว่า 2,000 คน ครูในเครือกว่า 9,000 คน คนงานกว่า 1,000 คน ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปนกันไป แต่ครูต่างชาติเขากลับไปประเทศเขาแล้วกลับมาไม่ได้ ก็เลยต้องหาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้มาสอนก่อน จึงถูกกล่าวหาว่าเอาครูที่ไม่มีใบอนุญาตมาสอน แล้วประเด็นครูจุ๋มก็เหมือนกันจริงๆ เขาเป็นแค่พี่เลี้ยง จะมาใช้คำว่าครูก็ผิด แล้วอยู่มานานมีอิทธิพล ครูคนอื่นๆ ก็เลยไม่กล้า ซึ่งมาทำเด็กแบบนี้เป็นผู้ปกครองเขาก็รู้สึก
“เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของครูอนุบาลทั้งหลายไม่อย่างนั้นจะเป็นแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่ามีการติดกล้องแต่ไม่ระวังเป็นเพราะหัวหน้าอนุบาลมันไม่เอาไหน ครูใหญ่มันไม่เคยเดินมาดู พวกนี้ต้องรื้อทิ้งหมด บางคนเลิกจ้าง ย้ายไปอยู่ตำแหน่งอื่น ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเป็นเพราะครูและทีมผู้บริหารไม่เคยไปพูดคุยกับผู้ปกครองเลย เกิดเรื่องขึ้นมาก็สมควรแล้วเราจะได้ปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น เราต้องทำให้ดีจริง อย่ามาทำดีปลอมๆ เพราะดีปลอมๆอยู่ได้ไม่นาน” นายพิบูลย์ กล่าว
นายพิบูลย์ กล่าวในส่วนของกระแสเรียกร้องให้ปิดโรงเรียนว่า เด็กทั้งหมดกว่า 3,800 คน โรงเรียนผิดก็ต้องให้โอกาสแก้ไขปัญหา ต้องดูว่าก่อนหน้านี้เขาทำความดีอะไรไว้บ้าง เราต้องให้โอกาส ถ้าปิดจริงๆ เด็กได้รับความเสียหายอีกเท่าไหร่จะไปเรียนที่ไหน 3,800 คน ถามว่าที่ผ่านมาโรงเรียนเรามีคุณภาพหรือไม่ ถ้าไม่มีคุณภาพเด็กไม่มาเรียนมากถึง 3,800 คน และตอนนี้โรงเรียนสารสาสน์มีเครือข่ายทั้งหมด 50 แห่ง เด็กที่เรียนสองภาษาทั้งหมด 48,000 คน เด็กที่อยู่ในเครือข่าย 94,000 คน
“เรื่องการทำร้ายเด็กผมมีคำสั่งตั้งแต่ 10 ปีมาแล้ว ว่าห้ามเด็ดขาด แต่ครั้งนี้โรงเรียนทำผิดจริง ก็ต้องรีบแก้ไขทันที โดยพรุ่งนี้จะส่งครูดีๆที่คัดแล้วว่ามีคุณสมบัติไปโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ที่ชั้นอนุบาล 1 ประมาณ 3-4 คน ต้องให้โอกาสโรงเรียนบ้าง โรงเรียนรู้แล้วว่าผิด กำลังหาทางแข้ไขอยู่ แต่ต้องรอเวลาหน่อย เพราะการตัดสินใจจะต้องผ่านคณะกรรมการ ซึ่งมีผลบังคับตามกฎหมาย ขอเวลาให้เราหน่อย ผมมีหนังสือมา 10 ปี ที่แล้วว่าห้ามใช้กำลัง และทำร้ายเด็ก ผมไม่นิ่งเฉยกำลังเร่งแก้ไข” ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา นายพิบูลย์ ได้ส่งหนังสือถึง หัวหน้าภาค หัวหน้าเขต และผู้อำนวยการทุกท่าน โดยระบุว่า เรื่องการลงโทษนักเรียนนั้น โรงเรียนมีนโยบายไม่ให้ลงโทษนักเรียนโดยการตีหรือการทำร้ายร่างกาย ให้ผู้บริหารอบรมครูให้ดูแลนักเรียนด้วยความรัก ด้วยการอภิบาล ห้ามตีนักเรียนโดยเด็ดขาด เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันมานานแล้ว แต่ก็ยังมีฝ่าฝืนกันเป็นประจำ ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้บริหารระดับหัวหน้า รวมทั้งผู้อำนวยการเองไม่ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ได้บอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าให้ท่านอยู่ในห้องได้แค่วันละ 2 ชั่วโมง นอกนั้นให้ท่านเดินตรวจแต่ท่านปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แปลว่าท่านไม่เคยเดินตรวจ ติดกล้องไว้ก็ไม่ดู เพราะฉะนั้นให้หัวหน้าภาคไปตรวจสอบดู ผู้บริหารคนใดไม่ปฏิบัติตามนโยบายให้สั่งลงโทษ ดังนี้ 1 .ให้ทำทัณฑ์บน 2.ให้พักงาน และ 3.ให้ออกจากงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี