‘คิขุ ธีรพงษ์’ เดือน มรภ.ศรีสะเกษ แนะการโดนบูลลี่พูดไม่คิดถึงขั้นคร่าชีวิตคนได้

‘คิขุ ธีรพงษ์’ เดือน มรภ.ศรีสะเกษ แนะการโดนบูลลี่พูดไม่คิดถึงขั้นคร่าชีวิตคนได้

วันอาทิตย์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 12.08 น.

เราทุกคนเกิดมาเพศอะไรหน้าตาสีผิวแบบไหนเราทุกคนก็มีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปมีสิทธิและเสรีภาพเป็นตัวของตัวเอง แต่อาจจะมีบางกลุ่มคนที่มักตัดสินและมองต่างคิดต่าง จากสถานการณ์ในปัจจุบัน มีเหตุการณ์ต่างๆมากมายที่ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่า ความคิดของบางคนนั้นไปตัดสินรูปลักษณ์ภายนอกของบุคคลใดบุคคลหนึ่งนำจุดด้อยของผู้อื่นมาล้อเล่น เป็นเพียงเพราะเขาแตกต่าง จึงมีข่าวคราวออกมาให้เราสลดใจไม่น้อย กับเหตุการณ์การโดนBully เป็นการกลั่นแกล้งทางกาย ทางเพศ ทางวาจา หรือทางจิตใจ รวมถึงการกลั่นแกล้งทางอินเตอร์เน็ทด้วย บางรายถึงกับต้องจบชีวิต 

 


 

ผู้ที่กระทำการ Bully ผู้อื่นได้นั้น สาเหตุมีมากมาย อาทิเช่น บุคคลที่เป็นฝ่ายกลั่นแกล้งนั้น เกิดขึ้นจากความโกรธหรือมีปัญหากับผู้ที่โดนกระทำหรือเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรง วันนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็น “เหตุใดการ Bully ถึงได้ทำร้ายจิตใจถึงขั้นไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้” ผ่าน “นายธีรพงษ์ ศรีสุภา” หรือ “คิขุ” เดือนมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ 2563 นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา 

 

 

นายธีรพงษ์ ให้เหตุผลว่า ในนิยามของตนคิดว่าการ Bully เปรียบเสมือนการกลั่นแกล้งทำให้ผู้ที่โดนกระทำอับอาย โดยการล้อเลียน ใส่ร้ายและประจาน จึงทำให้ผู้ที่โดน Bully นั้นเกิดความเครียด ความวิตกกังวลเป็นโรคซึมเศร้าได้ เพราะว่าโรคซึมเศร้านั้นมักจะทำให้ผู้คนจบชีวิตได้ ตนให้เหตุผลอีกว่า ตนเคยโดน Bully เหมือนกัน ซึ่งตนนั้นเป็นคนที่ตัวเล็กและมักจะมีเพื่อนๆมาทักว่าตัวเตี้ยอยู่เป็นประจำ เมื่อประกวดดาวเดือนมีหลายเสียงที่พูดกันมากมายหลายคนไม่พอใจตนได้ตำแหน่งแต่สุดท้ายกรรมการได้ตัดสินใจเลือกตนและตนก็โอเคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดินหน้าและยอมรับความจริง  

 

 

นายธีรพงษ์ กล่าวอีกว่า หากตนเจอเหตุการณ์โดน Bully ตนจะตอบโต้กลับอย่างสุภาพ โดยให้ผู้ที่กระทำรู้ว่าตนนั้นไม่โอเคกับสิ่งที่เขาทำหรืออีกวิธีคือการนิ่งเฉยต่อคนพวกนั้น คนเราทุกคนเกิดมาในสังคมสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดและออกความคิดเห็นแต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บสิ่งเหล่านั้นมาคิดให้ตัวเราไม่สบายใจหรือรู้สึกไม่ดี เพราะตัวเราเองนั้นต้องสร้างพลังบวกให้กับตัวเราเอง เปลี่ยนจากคำดูถูกมาเป็นแรงผลักดัน  

 

 

บางครั้งความคิดของผู้ใหญ่นั้นอาจจะไม่ใช่ความหมายเดียวกับที่เด็กคิด ส่วนความหมายที่เด็กคิดก็อาจจะไม่ใช่ความหมายเดียวกับที่ผู้ใหญ่คิดเช่นเดียวกัน ผู้ใหญ่ก็ควรจะใช้ถ้อยคำและขยายความหมายด้วยท่าทีที่เหมาะสมเปิดใจและเข้าใจเด็กให้มากขึ้น การเข้าใจกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด 

 

 

“อย่านำจุดเด่นจุดด้อยของตนเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ทุกคนเกิดมามีสิทธิ์เท่าเทียมกันหมด ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน หันมาสามัคคีรักใคร่กันเพื่อสังคมจะได้ดีขึ้น  ตนอยากจะเป็นกำลังใจให้คนที่ถูก Bully สนใจคนที่เค้าเเคร์เราดีกว่า ไม่มีใครเพรียบพร้อมไปทุกอย่างจงตั้งสติ ไม่คิดแค้น นิ่งเฉยบ้าง รวมถึงพาตัวเองนั้นไปอยู่ในสิ่งเเวดล้อมที่ดี” นายธีรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย 

 

 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top