สำหรับเทศกาลกินเจ 2563 ใครตั้งใจจะเริ่มกินเจ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี การกินเจ คือ การละเว้นไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน การกินเจเปรียบได้ว่าเป็นการชำระล้างร่างกาย ขับสารพิษสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากตัวเรา ซึ่งนอกจากจะได้บุญแล้วยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย
วันนี้ ‘ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์’ ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ กับ ‘นายแพทย์ กฤษดา ศิรามพุช’ ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ชะลอวัย เรื่อง กินเจอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพและเตรียมร่างกายให้พร้อมในการทานเจมีวิธีอย่างไร
เทศกาลกินเจ คือ พิธีกรรมที่พุทธบริษัทไทยเชื้อสายจีนถือปฏิบัติมานับร้อยปี “เทศกาลกินเจ” ตรงกับ วันที่ 1 เดือน 9 ถึง วันที่ 9 เดือน 9 ตามจันทรคติ ของปฏิทินจีน จะละเว้นไม่กินเนื้อสัตว์ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นการช่วยชีวิตสัตว์ส่วนหนึ่ง และลดการฆ่าสัตว์ ผู้ที่ถือศีลเจจึงนุ่งเสื้อผ้าสีขาวเข้าวัด เข้าโรงเจ นำดอกไม้ธูปเทียนบำเพ็ญศีลสมาทาน การถือศีลกินเจเป็นเวลา 9 วัน การกินเจ คือ การบริโภคแต่อาหารจำพวกพืชผัก และ ผลไม้เป็นหลัก ละเว้นการเบียดเบียนสัตว์โลก ผู้ที่จะเข้าสู่เทศกาลนี้ จะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมพอสมควร
โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช ได้เผยว่า ข้อดีของการกินเจนั้นมีมากมายและข้อที่ทุกคนจะต้องทราบไว้ ข้อดีของการกินเจนั้นจะเน้นกินพืชผักเต้าหู้โปรตีนที่มาจากพืชหรือเปรียบได้ว่าคล้ายการกินคลีนแบบธรรมชาติได้บุญแถมได้สุขภาพอีกด้วยข้อที่ควรรู้ หากใครมีโรคเฉพาะหรือประจำตัว โรคที่ค่อนข้างอ่อนไหวง่ายต่อระดับของความเค็มหรือโซเดียมเพราะอาหารเจหลายอย่างจะเป็นของหมัก อาทิเช่น หัวไชโป๊ว ของพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีความเค็ม มีโซเดียมสูง เพราะฉะนั้นคนที่มีโรคหัวใจหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคไต ต้องระวังเป็นพิเศษ
นพ.กฤษดา กล่าวอีกว่า ในส่วนของสารอาหาร ในช่วงของการทานเจนั้น อาจจะทำให้น้ำหนักขึ้นได้เพราะจะได้รับ น้ำมัน แป้ง โดยตรง หากใครที่ต้องการกินเจและดูแลสุขภาพไปด้วยต้องคำนึงถึง เค็ม หวาน แป้ง และไขมันเป็นหลักอย่างเหมาะสม ในส่วนของการกินเจนั้นหลายคนกังวลว่าไม่ได้รับสารอาหารจากเนื้อสัตว์เลยและจะขาดสารอาหารไหม คนที่ทานมังสวิรัติ เสี่ยงที่จะขาดสารอาหารที่สำคัญต่อระบบประสาท สมองและ เลือด คือ บี12 แต่เราสามารถทานอาหารเสริมได้ หากใครต้องการทานอาหารธรรมชาติโดยตรง อาทิเช่น สาหร่ายบางชนิดและ เห็ดหอม(Shiitake Mushroom)
เทคนิคง่ายๆก่อนกินเจและหลังกินเจ หลายคนยังคงสงสัยว่าต้องล้างท้องก่อน กินเจเราอาจจะล้างท้องด้วยอาหารที่มีผักเป็นหลัก เช่น ผักปรุงสุก อย่าพึ่งกินผักดิบมากเกินไปช่วงแรกอาจจะทำให้ท้องไส้แปรปรวน และเนื้อสัตว์แบบย่อยง่าย เลี่ยงพวกเนื้อแดง อาทิเช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ หลังกินเจควรทานอาหารที่มีผักเป็นหลัก หรือการแบ่งครึ่งผักครึ่งจานกับเนื้อสัตว์อีกครึ่งจาน จัดให้มีความเหมาะสมกัน สิ่งสำคัญที่จะทำให้เรากินเจอย่างมีความสุขและไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพอีกต่อไปคือ ไม่ควรกินอาหารรสชาติจัดจ้าน อาทิเช่น เผ็ดเกินไป หวานเกินไป ควรกินรสชาติที่พอดี
สุดท้ายเทคนิคการกินเจอย่างไรให้ได้บุญและยังชะลอวัยได้อีกด้วย คือ พยายามกินเจให้หลากหลายไม่ซ้ำเมนู ไม่ใช้ยึดติดอยู่ที่เมนูใดเมนูหนึ่ง และพยายามทานผลไม้ด้วยหากทานอาหารเจอย่างเดียวอาจจะทำให้หมักหมมได้หลังทานเจแล้วสามารถทานผลไม้ตามไปด้วยได้ นอกจากนี้ คนใดที่ทานเจและมีโรคประจำตัวควรทานยาประจำของตัวเองให้ตรงต่อเวลาด้วย
“สำหรับผู้ที่กินเจพึงตระหนัก สิ่งที่คิดดีทำดี ระมัดระวังคำพูดจา รักษาศีล 5 รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ให้คงที่ ทำบุญ ทำทาน นุ่งขาว ห่มขาว ผู้ที่ถือศีลกินเจนั้นจะต้องเปี่ยมไปด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์และขาวสะอาด”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี