8 พ.ย.63 นายจตุพงศ์ เกตุรักษ์ อายุ 49 ปี อาชีพเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 34/5 หมู่ 4 ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา ว่าพบเห็นจระเข้ ที่บริเวณริมคลองพังงา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ ชาวบ้านและ นายจตุพงศ์ ซึ่งได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ พบเห็นจระเข้ กำลังอ้าปาก อาบแดด บริเวณเนินทรายริมฝั่งคลองพังงา ซึ่งเป็นเขต หมู่ 1 ต.ป่ากอ อ.เมืองพังงา สร้างความตกใจให้แก่ตนเองขณะเลื่อยไม้ภายในสวนผักริมคลองพังงา เมื่อตั้งสติได้รีบวิ่งไปเอาโทรศัพท์เพื่อบันทึกภาพยืนยันการเจอ และยืนยันว่าขณะกำลังยกโทรศัพท์ถ่ายทาง จระเข้ตัวดังกล่าวแล่นลงพงหญ้ารกทึบ จึงแจ้งทาง นายชำนาญ ณ วิจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ป่ากอ นายเฉลิม เกิดกอบ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.นบปริง นางนิศานาค เรืองผล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.นบปริง อ.เมืองพังงา เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอ ประมงจังหวัด เข้าตรวจสอบ

นายเจริญไชย ศรีสุวรรณ ผู้ช่วยประมงจังหวัดพังงา รักษาการประมงจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายวิศิษฏ์ ขวัญดี ประมงอำเภอเมืองพังงา เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด นำทีม ผู้ใหญ่บ้านเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบเพียง รอยเท้าสัตว์คล้ายเท้าจระเข้ และรอยลักษณะคล้ายหาง เป็นแนวยาว ซึ่งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ทั้ง 3 หมู่บ้าน 2 ตำบล ได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณที่พบเห็นรับทราบและเตือนไม่ให้เข้าใกล้ริมคลองพังงา โดยเฉพาะ เด็กๆ ผู้หาปลา คนร่อนแร่ กิจกรรมทางน้ำ ขณะทางเจ้าหน้าที่ได้ประสาน ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืด สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทีมล่าจระเข้ เพื่อเข้าตรวจสอบและค้นหาจระเข้ตัวดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ต.ค.63 ที่ผ่านมา มีชาวบ้านกรุงศรี หมู่ 7 ต.นบปริง อ.เมืองพังงา ได้พบเห็นสัตว์คล้ายจระเข้ ในน้ำลอยคออยู่ในคลองพังงา ห่างจากจุดพบเห็นล่าสุดระยะทางห่างกันประมาณ 15 กิโลเมตร

โดยนายชำนาญ ณ วิจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ป่ากอ อ.เมืองพังงา กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบเห็นจระเข้อาบแดด ตนเองพร้อมผู้ช่วยได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพบร่องรอยลักษณะเป็นเท้าของสัตว์คล้ายจระเข้ หลายรอย และเป็นทางยาวเข้าพงหญ้ารกทึบเป็นโพลง เบื้องต้นได้แจ้งให้ชาวบ้านในละแวกริมคลองพังงา เตือนไม่ให้เข้าใกล้คลอง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยชาวบ้านที่อาศัยใกล้กับที่พบเห็นมีหลายหลังคาเรือน ซึ่งเกรงว่าเป็นอันตรายต่อชาวบ้านในละแวกดังกล่าว

ด้าน นายเจริญไชย ศรีสุวรรณ ผู้ช่วยประมงจังหวัดพังงา รักษาการประมงจังหวัดพังงา กล่าวว่า ได้ร่วมกับทางประมงอำเภอ และ นักวิชาการประมง ลงพื้นที่พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมเป็นแหล่งกบดานของจระเข้ได้ มีการยืนยันจากผู้พบเห็นว่าเป็นจระเข้จริง และพบรอยเท้าสัตว์คล้ายรอยเท้าจระเข้ จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืด สุราษฎร์ธานี ทีมล่าจระเข้ เพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งคาดว่าทีมดังกล่าวจะลงพื้นที่อย่างเร็วที่สุด