แน่นอนว่า “ธุรกิจโรงแรม” เป็นหนึ่งใน Supply Chain ที่สำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบในลำดับต้นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และเมื่อรัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดอย่างการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดย โดยมีมาตรการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และล่าสุดได้มีมาตรการปลดล็อกสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกๆ ธุรกิจโรงแรมบางแห่งแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าพกเลย เพราะยังไม่มั่นใจว่าไวรัสโควิด*19 จะกลับมาได้อีกเมื่อไหร่ จนธุรกิจโรงแรมบางแห่งทนพิษโควิด-19 ไม่ไหวจนต้องปิดกิจการลง แต่ก็ยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่กัดฟันทนจนผ่านวิกฤตมาได้ เมื่อผ่านมาได้ต่อไปก็ต้องทำอย่างไรให้มีรายได้เข้ามา...
ทั้งนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้ลงพื้นที่เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในรั่วมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผ่าน “กัญญาภัค สุดใจ” หรือ “น้องเมจิ” อายุ 20 ปี ดาวคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม เกี่ยวกับ “ธุรกิจโรงแรมจะกลับมาฟื้นตัวและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้หรือไม่”
“กัญญาภัค สุดใจ” เปิดใจเล่าให้ฟังว่า ธุรกิจโรงแรมน่าจะกลับมาฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา จึงมีการรณรงค์ให้คนไทยเที่ยวในประเทศ เพื่อช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ และแน่นอนว่าสถานที่พัก อย่างเช่นโรงแรมก็ได้ลืมตาอ้าปากได้บ้างจากการที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปพักผ่อนในจังหวัดต่างๆ ถือว่าคนไทยไม่น้อยที่มาช่วยกันเที่ยวและพักตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ขณะเดียวกันทางภาครัฐก็ได้มีการส่งเสริมให้คนไทยมีวันหยุดเพิ่ม และจัดโครงการต่างๆขึ้นมา โดยมีส่วนลดให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
“กัญญาภัค สุดใจ” กล่าวอีกว่า ถือว่าช่วงที่ผ่านมาธุรกิจเกี่ยวกับการประกอบอาชีพโรงแรมอาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่วนหนึ่ง เพราะอย่างที่บอกว่าประเทศไทยยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศ แต่ก็ยังมีคนไทยไปพักและไปเที่ยวอยู่ แต่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขาดรายได้ไป
“ตนไม่กังวลที่เรียนทางด้านการโรงแรม เพราะคิดว่าภายในไม่กี่ปีข้างในเศรษฐกิจจะฟื้นตัวมาดีขึ้น พอถึงเวลานั้น ตนก็น่าจะเรียนจบพอดี และคิดว่าธุรกิจโรงแรมน่าจะดีขึ้นได้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัว และโควิด-19 หายไป” นางสาวกัญญาภัค กล่าว
ทั้งนี้ น้องเมจิ ยังให้ความเห็นอีกว่า คิดว่าภายในปี 2564 คนตกงานน่าจะลดลง เพราะคิดว่าเศรษฐกิจน่าจะกลับมาดีขึ้น ธุรกิจต่างๆ น่าจะปรับตัว และอาจจะมีบริษัทเปิดเพิ่มขึ้น มีการรับสมัครงาน ทั้งนี้ อยากให้หน่วยงานรัฐร่วมมือกับหน่วยงานด้านการศึกษาให้ช่วยเสริมทักษะทางด้านภาษา และอยากให้จัดอบรมคนที่ตกงานเกี่ยวกับการใช้ภาษาซึ่งอาจจะต่อยอดได้
“อยากให้ทุกคนสู้ไม่อยากให้คิดว่าการตกงาน ปิดกิจการเป็นทางออกสุดท้ายของชีวิต อยากให้โลกในแง่บวกคิดบวกเข้าไว้ เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนสู้ไปด้วยกัน” น้องเมจิ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี