เกษตรกรชาวอำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร รวมกลุ่มปลูกแตงโมกินรี เลือกเสี่ยงปลูกในช่วงฤดูฝนสามารถเก็บจำหน่ายในช่วงฤดูหนาวที่มีราคาสูงกว่าในช่วงหน้าแล้งสร้างผลผลิต 1 ไร่ 3,000 กิโลกรัม สร้างรายได้ทดแทนจากการทำนาโดยมีพ่อค้าแม่ค้ามารับถึงหน้าสวนในราคากิโลกรัมละ 10-12 บาท
สวนแตงโมกินรีของเกษตรกรชาวสวนตำบลวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร กว่า 15 ไร่ที่กำลังออกผลผลิตเต็มสวน รอเก็บผลผลิตจำหน่ายออกสู่ท้องตลาดหลังเกษตรกรชาวสวนได้รวมกลุ่มเกษตรกรกัน 5-6 ราย ปลูกแตงโมในช่วงฤดูฝนทดแทนการทำนาข้าวที่ให้ผลผลิตน้อยและแนวโน้มราคาข้าวที่ราคาถูก เกษตรกรจึงรวมกลุ่มการทำแตงกวาในช่วงฤดูฝนเพื่อเก็บผลผลิตในช่วงต้นฤดูหนาว เนื่องจากมีราคาสูงเป็นที่ต้องการของตลาด
โดยนางอัจฉรีพร อรัญมิ่ง เกษตรกรชาวสวนแตงโม หมู่ที่ 9 ตำบลวังทรายพูน อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า การทำแตงโมสามารถทำได้ปีละ 2-3 ครั้งโดยในช่วงฤดูแล้ง ในช่วงเดือนเมษายนจะมีผลกระทบกับภัยแล้งและแมลงจึงหันมาปลูกในช่วงหน้าฝน คือในช่วงเดือนสิงหาคมจะสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือนปลายเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ให้ผลผลิตดีและแตงออกสู่ตลาดน้อยจึงส่งผลทำให้มีราคาสูงถึงกิโลกรัม 10-12 บาท จากปกติมีราคาเพียงกิโลกรัมละ 5-8 บาทเป็นที่ต้องการของท้องตลาด
สิ่งที่ควรระวังในการทำแตงโมในช่วงหน้าฝน ถึงแม้จะเป็นช่วงที่ทำยากกว่า ในช่วงฤดูแล้งเกษตรกรควรเลือกพื้นที่การทำสวนแตงโมให้พ้นจากน้ำท่วมโดยการทำล่องยกสูงเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังและควรระวังโรคเชื้อราในช่วงฤดูฝน ซึ่งการทำแตงโมต้องอาศัยความชำนาญในการปลูกเพื่อกำหนดเวลาให้สามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงต้นฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่แตงโมขาดตลาดและมีราคาสูงก็ยิ่งเพิ่มรายได้มากว่าในช่วงฤดูแล้ง
การทำแตงโม ซึ่งทางกลุ่มที่ทดลองปลูกมา ใช้พื้นที่เพียง 1 ไร่จะได้ผลผลิตประมาณ 3,000 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับการทำนาที่ข้าวให้ผลผลิต เพียง 7,000 บาทต่อ 1 ไร่ซึ่งเมื่อเทียบกับการทำแตงโมเพียง 1 ไร่สามารถสร้างรายได้ 3,000 กิโลกรัม อย่างน้อยต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000-20,000 บาทต่อไร่
สำหรับการทำแตงโม ซึ่งเป็นพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อย ให้ผลิตดี มากกว่าการทำนา ใช้เวลาเพียง 2 เดือนเศษก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงหน้าสวน ส่วนรายได้ เมื่อเทียบกับการทำนา ถือว่าการทำไร่แตงโมให้ผลผลิตและสร้างรายได้ดีกว่านาข้าวในช่วงราคาตกต่ำจึงเป็นพืชทางเลือกที่เกษตรกรนำมาปรับใช้ในการทำการเกษตรโดยเลือกช่วงเวลาในการปลูกในช่วงฤดูฝน และเก็บขายในช่วงต้นฤดูหนาว เป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี