ผู้สื่อข่าวได้สำรวจบรรยากาศวันคริสต์มาสของเกาะสมุยเมื่อคืนวันที่ 25 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา โดยได้สำรวจบริเวณถนนเลียบชายหาดเฉวง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นถนนย่านเศรษฐกิจของเกาะสมุย ซึ่งในทุกปีช่วงวันคริสต์มาสบริเวณถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวคนไทยส่งผลให้ร้านค้าร้านอาหารที่เปิดให้บริการเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ทำให้ในค่ำคืนวันคริสต์มาสของเกาะสมุยคุกคักสร้างรายได้ช่วงวันคริสต์มาสไม่ต่ำหนึ่งพันล้านบาท
จากการสำรวจบรรยากาศคืนวันคริสต์มาสช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วในหลายจังดพบว่าบรรยากาศเงียบเหงาอย่างมากร้าค้าปิด ไฟฟ้าที่เคยส่องแสงสว่างเพื่อสร้างสีสันให้กับถนนสายเลียบชายหาดเฉวงแห่งปิดเช่นกัน ทำให้บรรยากาศของเกาะสมุยในวันคริสต์มาสปีนี้ดูหดหู่ แต่ก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาเที่ยวภายในอาร์คบาร์ ซึ่งเป็นบาร์ชื่อดังของเกาะสมุยจากที่เคยมีนักท่องเที่ยวเต็มชายหาด และเต็มพื้นที่ของบาร์แต่กับพบที่นั่งยังเหลือจำนวนมาก โดยร้านได้จัดให้มีการควงกระบองไฟเป็นการสร้างสีสันในคืนวันคริสต์มาสที่เงียบเหงาสำหรับการให้บริการของพนักงานโดยพนังกงานทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยและแว่นป้องกันเชื้อทุกคนที่มห้บริการแก่ลุกค้า
สำหรับบนถนนสายเลียบชายหาดแห่งนี้ได้มีกลุ่มผู้ขับรถแท็กซีที่มาจอดรอรับลูกค้า ได้จับกลุ่มเพื่อรอรับผู้โดยสารอย่างมีความหวัง จากการสอบถามนายอภิวัช กุลฉวะ ผู้ขับรถแท็กซี่ กล่าวว่า บรรยากาศวันคริสต์มาสปีนี้กับปีที่แล้วต่างกันอย่างมาก จากที่ถนนที่เคยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากกลับไม่มีนักท่องเที่ยวเลยสักคนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลทำให้รถแท็กซี่จากที่เคยมีประมาณห้าร้อยคันกับเหลือไม่ถึงหนึ่งร้อยคันในขณะนี้เนื่องจากได้ถูกบริษัทไฟแนนซ์มายึดรถไปเพราะขาดการส่งค่างวด
ปัจจุบันพวกตนได้นำรถแท็กซี่มาจอดรอรับลูกค้าบริเวณถนนเลียบชายหาดเฉวงบางคันมาจอดรอประมาณ 05.00 น.ถึงเวลาประมาณ 03.00 น.ของอีกวันบางครั้งไม่ได้รับลูกค้าแม้แต่รายเดียว ซึ่งพวกตนเองก็ต้องทำเพราะมันคือความหวังที่จะได้เงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งเงินที่ได้นั้นอย่าหวังว่าจะได้ส่งค่าผ่อนรถ แค่เลี้ยงครอบครัวยังยากเลย ถึงแม้จะไม่มีลูกค้ามาขึ้นรถพวกตนก็ต้องขับรถมาจอดรอบางคนจอดทั้งวันยังไม่มีลูกค้าขึ้นรถส่งผลให้บางวันหาเงินไม่ได้สักบาท แต่ก็ยังดีกว่านอนอยู่บ้านเพราะอาจฟลุ๊คได้รับผู้โดยสาร ซึ่งการนำรถแท็กซี่มาจอดรอผู้โดยสารยังดีกว่านอนที่บ้าน การขาดรายได้ทำให้รถแท็กซี่ถูกยึด และยังถูกค่าทวงถามจากบริษัทไฟแนนซ์ครั้งละ 400 บาท
จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานขอให้บริษัทไฟแนนซ์ดำเนินการหยุดพักชำระค่างวดของผู้ประกอบการรถแท็กซี โดยขอให้พักชำระหนีในปีหน้าอีกหกเดือน เพื่อที่จะทำให้เจ้าของรถแท็กซีประคองตัวเองให้ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี