วันนี้ว่าด้วยเรื่องการ "ตั้งศาลพระภูมิไว้ในใจ" กับ "หน้าที่ของพระภูมิ" คัดลอกจากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๕ หน้า ๑๒-๑๓ และหน้า ๑๔-๑๖ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง) อ่าน เรื่อง 'เทวดาต้องการศาล ๔ เสา' กับ 'เจ้าที่เจ้าทาง' : หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
ผู้ถาม : “กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างจริงใจ คือว่าลูกโชคดีมีสามีตรงข้ามเปี๊ยะ ตลอดเลย คือลูกสวดมนต์อีก็ว่า…จะทำกรรมฐานอีก็ชวนให้นอนเรื่อย…เรียกว่าไปคนละแควเลย แต่ลูกก็ทนอยู่ร่วมกันได้เพราะถือว่าเป็นการใช้เวรใช้กรรมในอดีต
ลูกฟังเรื่องศาลพระภูมิจากหลวงพ่อ ก็มีศรัทธาอยากจะตั้งบ้าง ก็บังเอิญที่บ้านเป็นที่ทรัพย์สิน บอกสามี สามีก็บอกว่า ที่ทรัพย์สิน ในหลวง ท่านเป็นพระภูมิใหญ่อยู่แล้ว ลูกก็เลยตั้งไม่ได้ เพราะความขัดคอกัน อยากเรียนถามว่า ถ้าหากว่าตั้งไม่ได้แต่จิตระลึกอยู่เสมอ และอยากจะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างใดอย่างหนึ่งให้เทวดาที่เป็นพระภูมิที่นั่นจะได้ไหมคะ…?”
หลวงพ่อ : (หัวเราะ) “เอายังนี้ซิ เวลาบูชาพระก็ตาม หรือกราบพระก็ตาม จิตใจยอมรับนับถือใช้ได้เลย”
ผู้ถาม : “และแกก็บอกว่า จะมีการอธิษฐานแบบไหน…สามีคนปัจจุบันจึงจะไม่เกิดมาเจอกันอีกเจ้าคะ…?”
หลวงพ่อ : “เขามีพรหมวิหาร ๔ คนนี้ เมตตา ความรัก ยังมีอยู่ กรุณา ความสงสาร ยังไม่อยากจากไป มุทิตา มีจิตอ่อนโยน เห็นชอบด้วยกับการกระทำของสามี อุเบกขา นอกจากชาตินี้กูไม่เอามึงแล้วใช้ได้เลย ไม่ได้พบกันอีก”
ผู้ถาม : “เอ๊ะ! แล้วที่บอกว่า ปุพเพ จะ กะตะปุญญตา บุญที่เคยทำไว้แต่ปางก่อนทำให้มาเจอกัน เอ…แล้วประเภทนี้ทำบุญ แบบไหนครับ?”
หลวงพ่อ : “ทำบุญผสมบาป ขัดคอกันเวลาทำบุญ!”
หน้าที่ของพระภูมิ
ผู้ถาม : “ผมเห็นศาลพระภูมิ…บางบ้านตั้ง ๒ ที่…”
หลวงพ่อ : “ดี…พระภูมิจะได้สบายๆ หลังนี้ร้อนไปอยู่หลังโน้น หลังโน้นหนาวไปอยู่หลังนี้ จะเป็นไรไป เป็นเครื่องแสดงการยอมรับนับถือ ไม่ใช่ของแปลก ไม่ใช่ว่าเกณฑ์พระภูมิมาอยู่ที่ศาล เรานี่คิดว่าพระภูมิมาอยู่ที่ศาลนี่ก็ไม่เป็นไรนะ แต่จริงๆ แล้ว ท่านมีวิมานของท่าน ท่านเป็นเทวดา องค์หนึ่งคุมพื้นที่เป็นกิโลนะ ไม่ใช่บ้านละองค์นะ
เรื่องพระภูมิเจ้าที่นี่มีเรื่องเยอะ ที่เคยพบมาเมื่อปี ๒๕๐๐ ฉันไปป่วยที่กรมแพทย์ทหารเรือ แล้วตอนนั้นก็ปรากฏว่าคืนวันหนึ่งตี ๒ ฉันตื่นขึ้นเห็นคนๆ หนึ่งขึ้นที่หน้าตึก ตึกคนไข้นะ ตึกเขาก็ใหญ่แต่มันก็มีฝา แต่เขาให้เห็น ไม่ใช่นั่งกรรมฐานนะ นั่งธรรมดา ตื่นขึ้นก็ลุกขึ้นหยิบนั่นหยิบนี่ หยิบน้ำขึ้นมากินบ้างอะไรบ้าง เห็นคนที่หน้าตึก ก็สังเกตดูคนๆ นี้จะไปไหนกัน เขาเดินไปตามเตียงคนไข้ ไปถึงแต่ละเตียงแกหยุดนิดหนึ่ง หยุดมอง แล้วเดินผ่านไปๆ แล้วทีนี้มาที่ห้องฉันอยู่ มันเป็นเตียงที่ ๓ มันเป็นเตียงกั้นกลางนะ
พอถึงเตียงนั้นแกยืนนาน ยืนมองอยู่นาน เดี๋ยวก็เลิกจากเตียงนั้นมาเตียงต่อมา แล้วผ่านมาถึงฉัน ฉันยังไม่นอน ยังนั่งอยู่ แล้วก็ถามว่าเดี๋ยวก่อนซิจะไปไหน…มาจากไหน…คุยกันก่อน แกเลยบอกผมตั้งใจจะมาคุยกับท่าน…ได้เรื่องเลย! ถามว่าคุณเป็นใคร…แต่งตัวเป็นคนธรรมดา ไม่มีเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น เก่าด้วยซิ คงจนใช่ไหม…น่ากลัวเมื่อเวลาจะตายแกจะแต่งตัวแบบนั้น โดยมากเขาจะมาในลักษณะตาย ในลักษณะจริงเขาสวย…พระภูมินะ ก็ยืนคุยกัน
ท่านก็บอกว่าผมเป็นภูมิเทวดา ถามว่ารักษาเขตไหนบ้าง…ในกรุงเทพฯ นี่นะ แกบอกระยะทางเป็นกิโล เลยถามว่าคุณคนดียวจะรู้ได้อย่างไร…มีหน้าที่อะไร…แกบอกว่าผมรับรู้การทำความดีและความชั่วของคน ใครทำความดีผมก็บันทึก ทำความชั่วผมก็บันทึก แล้วก็คนเป็นแสนในเขตของคุณนะ คุณจะรู้ได้อย่างไร…คนต่างคนต่างอยู่ ต่างกรรมต่างวาระ ทำไม่เสมอกัน บางทีก็ทำเวลาเดียวกัน คุณจะรู้ได้อย่่างไร…?
แกบอกว่าอย่าลืมว่าจิตใจผมเป็นทิพย์นะครับ แน่ะ…คุยเสียด้วย แล้วก็ถามว่าวิธีจด ทำอย่างไร…แกมามีมือเปล่า แกชูมือมาเป็นกระดาษแผ่น ขึ้นติ๊กๆ ขึ้นเป็นชื่อคนว่าทำอะไรๆ แกบอกว่าขึ้นอย่างนี้ครับ ของเขาไม่ต้องใช้เครื่อง แล้วเวลาเดินมาก็ไม่ต้องถือกระดาษ ต้องการกระดาษมาเลย แล้วถามว่าจริงๆ แล้วมีกระดาษจดแบบนี้หรือ…แกบอกเปล่า ท่านถามผมก็ทำให้ดู นี่เล่นกับพระภูมิ พระภูมิไม่ก้อยนะ ไม่งั้นท่านเป็นเทวดาไม่ได้ เทวดาต้องฉลาด ถ้าโง่เป็นเทวดาไม่ได้
ความจริงเขารู้กฎของกรรม กฎของกรรมไม่ต้องไปนั่งจด ถ้าเขาทำอะไรจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ หรือทำกรรมดีหรือไม่ดี มันปรากฏแก่ใจเขาเอง เขาเล่าตอนนี้ตอนนะ เลยถามว่าเมื่อกี้นี้คุณไปยืนที่ตรงนั้นทำไม…แกบอกว่าตี ๓ นี่ เจ้าคนนี้จะมีอาการเป็นแบบนี้ แล้วก็ถ้าอาการแบบนี้เกิดขึ้นนะ ต้องเอายาในตู้ของหมอนะ ให้หมอใช้ยาขนานนี้ฉีด แล้วแกคุยประเดี๋ยวแกก็ไป พอไปแล้วตี ๓ คนนั้นก็ดิ้นตึงตังโครมครามเป็นอาการแบบนั้น
พอดีขณะที่คุยอยู่นี่หมอพยาบาลเขาฟังอยู่ อยู่ใกล้ๆ เขาได้ยิน เขาเลยวิ่งไปเอายาหลอดนั้นมาฉีด มาบรรเทา ก็คิดว่าตายเหมือนกัน ปรากฏว่าพอรุ่งขึ้น ๔ โมงเช้า เดินที่สนามหญ้าหน้าตึก สบายขึ้น นี่อำนาจภูมิเทวดานะ ภูมิเทวดาที่เป็นหมอก็มีนะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี