nn...หลังโควิดระบาดสองระลอกใหญ่ กระทบไปทั่ว พอ ศบค.ชุดใหญ่ เริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จนเดินทางข้ามจังหวัดได้แทบเป็นปกติ..ยังไงก็ “ห้ามการ์ดตกเด็ดขาด” แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ติดต่อได้...สิ่งที่น่าเป็นห่วงตามมาอีกมาก ในการดูแลความสงบเรียบร้อย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2564 ให้ทุกพื้นที่รับทราบ มาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มีการ “ตั้งด่าน” ได้ แต่ต้องมีความพร้อมตามมาตรฐานสตช.กำหนด คือ“ความโปร่งใส เป็นมาตรฐาน ตรวจสอบได้”โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งการตั้งจุดตรวจต่างๆ ต้องมีความโปร่งใส พร้อมที่จะตรวจสอบจากประชาชน...งานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ด้านมั่นคงและกิจการพิเศษ ว่า “สิ่งที่จะทำให้โปร่งใสได้ คือโดยเฉพาะ “กล้องซีซีทีวี” เคลื่อนไหวได้ที่จะต้อง “มีประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ตรวจ”และด่านต่างๆ เช่น ด่านกวดขันวินัยจราจร ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด่านตรวจวัดมลพิษทางอากาศ ด่านอาชญากรรม ฯลฯ จะต้องมีมาตรฐานเดียวกัน...ต้องมีป้ายที่มีมาตรฐานและนำเทคโนโลยีมาใช้ อาทิ “ด่านเมา”จากเดิมเคยมีปัญหาร้องเรียนต่างๆ ก็จัดให้มีกล้องบันทึกภาพแบบเรียลไทม์ไว้ประจำจุดที่มีการยืนยันผลด้วย...การจะตั้งจุดตรวจ“ผู้บังคับการ” ในแต่ละพื้นที่ เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแล และมีป้ายแสดงข้อความ หากต้องการร้องเรียนได้ที่ สายด่วน ตร.1599 และเบอร์โทรศัพท์ผู้บังคับการด้วย...โดย ผบ.ตร.ได้ให้ทำฐานข้อมูล TPCC (Traffic Police Checkpoint Control) เพื่อกำหนดจุดตั้งด่าน ลงรายชื่อ ผู้ปฏิบัติในด่านต่างๆ ลงในแผนที่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาสามารถตรวจสอบได้ว่ามีตั้งจุดตรวจ อยู่จุดใด ซ้ำซ้อนหรือไม่และได้รับอนุมัติจากผู้บังคับการหรือไม่..“ด่านทุกด่าน จะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการ ต้องมีเหตุผลในการตั้งด่าน อาทิ บริเวณจุดตั้งด่านมีอาชญากรรมสูง มีเด็กแว้น เป็นทางผ่านขนยาเสพติด เป็นจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อย หรือมีสถานบริการอยู่จำนวนมากที่ต้องตั้งเพื่อป้องปราบผู้ที่เมาแล้วขับ ยกเว้นกรณีเดียวที่ไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับการในกรณีฉุกเฉินคือการสกัดจับคนร้าย”...พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยังบอกถึงสาเหตุที่ต้องกลับมาตั้งด่านตรวจของตำรวจ หลังชะลอตั้งด่านไว้ ได้กลับมาศึกษาข้อดี ข้อเสีย จนคณะทำงานเห็นว่า“การไม่มีด่านเลยจะมีข้อเสีย เรื่องการบังคับใช้กฎหมายในด้านต่างๆ มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายมากขึ้น..เมาแล้วขับ ขับรถ จยย.เลนห้ามวิ่ง ไม่สวมหมวกกันน็อกเพิ่มมากขึ้น ปัญหายาเสพติดรวมถึงปัญหาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง...หากไม่มีด่านสกัด จึงจำเป็นต้องตั้งแต่ต้องทำให้รอบคอบ รัดกุม โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมที่จะถูกร้องเรียน และแก้ปัญหาให้ประชาชน”...หากเกิดการทุจริตผู้บังคับบัญชาที่อนุญาตให้ตั้งจุดตรวจต้องรับผิดชอบ ในส่วนที่กำกับดูแลไม่ดีพอ...“ตอนนี้หลายสถานี มีความพร้อม ตั้งไปแล้วส่วนหนึ่งในเมืองใหญ่ๆ อุบลราชธานี นครราชสีมา เมื่อมีความพร้อมแล้ว 1 เม.ย. เราก็อยากจะให้บังคับใช้กฎหมายเลยเนื่องจากใกล้ช่วง7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์ ในกทม.ยังไม่ได้ตั้งจริงจัง หากพร้อมอาจจะเริ่ม 1 เม.ย.เช่นกัน” รองผบ.ตร.ทิ้งท้าย...เพราะฉะนั้น“1 เมษายนนี้”ขับรถไปไหนมาไหนต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรให้ถูกต้อง..ถ้าโดนจับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน...nn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี