8 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันถึงแม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะก้าวหน้าไปไกล แต่กระแสการหันกลับมาใช้ยาสมุนไพรพื้นบ้านก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นเช่นกัน และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นไปตามกระแสของการใช้ชีวิตหันเข้าหาธรรมชาติในการดูแลตนเอง ซึ่งพืชสมุนไพรมีส่วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์มาตั้งแต่อดีต เพราะสมัยก่อนเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยหรือแม้ว่าจะเจอโรคภัยใดๆก็ตาม เราล้วนนำสมุนไพรมารักษาหรือบรรเทาโรคทั้งสิ้น ด้วยผลิตผลที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ และมีสรรพคุณทางยามากมาย จึงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากธรรมชาติอันมีค่ายิ่งของอารยธรรมของประเทศนั้นๆ ที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษ
โดยเฉพาะ “สมุนไพรไทย” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ที่ใช้พืชสมุนไพรเป็นทางเลือกในการดูแลรักษาสุขภาพ แต่ในปัจจุบันเรานำสมุนไพรมาแปรรูปเพื่อใช้ให้สะดวกขึ้นกับยุคของการเร่งรีบ โดยย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีก่อน สมุนไพรไทยได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อมีพืชชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณกระชับช่องคลอด และช่วยให้มดลูกเข้าอู่ให้เร็วขึ้น อย่าง “หญ้ารีแพร์” หรือ “หญ้าหียุ่ม” ทำให้เป็นที่ต้องการของเหล่าบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ไปทั่วเมือง ต่อมาทางการแพทย์ของหลายสำนักทั้งในไทยและต่างประเทศได้ทำการวิจัย พบว่า “หญ้ารีแพร์” มีสรรพคุณมากมายจึงกลายเป็นหญ้าอัศจรรย์ ที่ต่างชาติได้หันมาใช้ และแปรรูปออกมา ไม่ว่าจะเป็นชา หรือชุดรมควัน
เช่นเดียวกับที่อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ที่มีหญ้ารีแพร์ขึ้นเองตามธรรมชาติมากมาย ทำให้กลุ่มผู้ที่สนใจในพืชสมุนไพรหันมาศึกษาและวิจัยพืชชนิดนี้ เพื่อพัฒนาเพิ่มพื้นที่ปลูกและสร้างรายได้เสริมแก่เกษตรกรในอนาคตต่อไป
นางนันทิยา หล้าเพชร อายุ 53 ปี เล่าว่า คน จ.เลย รู้จักหญ้ารีแพร์ตั้งแต่จำความได้ เพราะในสมัยโบราณหรือแม้แต่ตอนนี้ในพื้นที่ชนบทหลายๆแห่ง คนท้องใกล้คลอด สามี หรือพ่อแม่ มักจะเตรียมสมุนไพรไว้หลังคลอดลูกช่วงอยู่ไฟ เช่น ไพร ใบเป้า ขมิ้น แต่ที่ลืมไม่ได้ก็คือ “หญ้ารีแพร์” เพราะเชื่อว่าคืนความสาว ช่องคลอดฟิตกระชับ มดลูกมันหย่อนไม่เข้าอู่ บางทีกะเป็นแผลฉีก ฝีเย็บขาด แผลกะอักเสบ ก็เอาพืชสมุนไพรตัวนี้มาตากแห้ง แล้วนำมาต้ม มารม เพื่อรักษาแผลให้กระชับฟิตเข้าดังเป็นสาวอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยบีบมดลูกให้แห้งเข้า ขับน้ำคาวปลา รมบาดแผลให้แห้งเร็ว หลังอยู่ไฟหรือหลังคลอดออกมา ก็จะพบว่าช่องคลอดเหมือนไม่เคยมีลูกมีผัวมาก่อน สังเกตุคนโบราณแม้จะมีลูกหลายคน แต่ก็ยังมีความสุขในชีวิตคู่ได้ เพราะใช้หญ้ารีแพร์ และนำมาดื่มเป็นชาประจำ เลยไม่ต้องกังวลกับเรื่องช่องคลอดไม่กระชับ และที่พิเศษไม่ต้องรอนานที่จะมีอะไรกัน หลังคลอดลูก หรือถ้านำมาต้มกินเป็นชา เมื่อดื่มแล้วก็ช่วยให้สบายท้อง
ทั้งนี้ จากผลการวิจัยหญ้ารีแพร์ พบว่า มีสาร Bamboo Silica หรือ สารซิลิกก้า เป็นสารที่ใช้ในการสร้างคอลลาเจน และน้ำไขข้อในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ เพิ่มน้ำเมือกในช่องคลอด ทำให้หล่อลื่นได้ดีขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของกระดูก และเนื้อเยื่อ และช่วยรักษาแผลให้หายเร็ว
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟีนอลิก และฟลาโวนอยด์ ที่ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง และช่วยชะลอความแก่ ต้านการเสื่อมของเซลล์ บำรุงผิว ช่วยเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้น รวมทั้งยังพบสารยับยั้งการทำลายคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยชะลอการถูกทำลายของคอลลาเจน และอีลาสตินทำให้คงสภาพความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของผิว เซลล์ผิวเสื่อมหรือเกิดริ้วรอยช้าลง หญ้ารีแพร์ เป็นพืชตระกูลไผ่ที่พบได้ทุกภาค พบได้มากในป่าเบญจพรรณ และป่าดิบชื้น พบได้มาก บริเวณที่ราบเชิงเขา เชิงเขา หรือภูเขาสูงและพบมากที่ขึ้นตามธรรมชาติบนภูเขา
ดังนั้น หญ้ารีแพร์ จึงเป็นหญ้าอัศจรรย์สำหรับผู้หญิงที่คืนธรรมชาติเหมือนดังเดิม จึงเป็นหญ้าที่น่าจับตามองในด้านเศรษฐกิจอีกตัวในเรื่องของสมุนไพรไทย ที่จะแข่งขันในด้านผลผลิตที่แปรรูปออกมาไม่ว่าในต่างประเทศ และในประเทศในรูปแบบต่างๆคืนความสาวให้กับผู้หญิง ผู้หญิง หญ้าฮี๋ยุ่มหรือหญ้ารีแพร์ จึงเป็นสมุนไพรไทยอีกตัวที่เป็น มรดกทางวัฒนธรรมจากธรรมชาติ ที่สืบทอดกันมานานหลายศตวรรษ และควรค่ากับอนุรักษ์ให้เป็นของคนไทย สมกับเป็นหญ้าอัศจรรย์สำหรับ ผู้หญิง ผู้หญิง ตลอดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี